อโกด้า เผยขอนแก่นเป็นจุดหมายปลายทางราคาย่อมเยาที่สุดในเดือนเมษา 66 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยห้องพักราคาเฉลี่ยเพียงละ 1,030 บาท
สำหรับวันหยุดยาวเดือนเมษาที่เหล่านักท่องเที่ยวทั่วเอเชียและออสเตรเลียตั้งตารอกำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวระดับโลก เอาใจนักท่องเที่ยวสายประหยัดโดยได้คำนวณตัวเลขพร้อมเปิดสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกที่สุดในประเทศไทย และเป็นจังหวัดขอนแก่นที่คว้าอันดับ 1 ไป เพื่อให้นักเดินทางเพลิดเพลินไปกับห้องพักราคาย่อมเยาในช่วงวันหยุดยาวที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในเดือนนี้
ทั้งนี้จุดหมายสูงสุดของอโกด้า คือการทำให้นักท่องเที่ยวได้รับข้อเสนอที่ดีและคุ้มค่าที่สุดท่ามกลางช่วงเวลาที่เรทราคามีการแข่งขันสูง โดยแพลตฟอร์มการเดินทางดิจิทัลได้วิเคราะห์ราคาเฉลี่ยห้องพักของสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยภายในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งข้อมูลแสดงผลเป็นจังหวัดขอนแก่นที่มีข้อเสนอห้องพักราคาย่อมเยามากที่สุด ด้วยราคาเฉลี่ยเพียงคืนละ 1,030 บาท
นายพีรพล สง่าเมือง, ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย, อโกด้า กล่าวว่า “การท่องเที่ยวในช่วงต้นปี 2023 ดำเนินไปได้ด้วยดี นอกจากนี้วันหยุดนักขัตฤกษ์ก็กำลังใกล้เข้ามาในอีกหลายภูมิภาค ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเริ่มมองหาการพักผ่อนที่คู่ควรกับช่วงเวลาหยุดยาว แต่ในขณะที่ค่าครองชีพทั่วโลกมีเกณฑ์ที่สูงขึ้น ทำให้ทุกคนต้องใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลสำรวจและข้อเสนอสุดคุ้มจากอโกด้าจะช่วยให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางไปยังจุดหมายที่น่าตื่นเต้นและสามารถประหยัดเงินไปได้ในเวลาเดียวกัน”
และแม้จะเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับผลสำรวจว่ามีราคาต่ำที่สุด แต่ขอนแก่นก็มี Hidden gems หลายแห่งที่น่าสนใจให้ไปเยือน พร้อมทั้งข้อเสนอสุดคุ้มค่าอีกมากมาย โดยมีตั้งแต่ชายหาดที่เต็มไปด้วยผู้คน หรือสวนสนุกธีมพาร์คสุดหวาดเสียว ไปจนถึงวัดวาอารามและสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งแหล่งรวมย่านอาหารอร่อย
นอกจากขอนแก่นแล้ว ในเมืองไทยยังมีอีก 5 จุดหมายที่มีข้อเสนอห้องพักสุดคุ้ม ได้แก่ สุราษฎร์ธานี, นครราชสีมา, อุดรธานี และหาดใหญ่ ตามลำดับ
ขณะที่ 10 จุดหมายปลายทางที่มีค่าที่พักเฉลี่ยถูกที่สุดของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจากการสำรวจของอโกด้านั้น ได้แก่
1. ขอนแก่น, ประเทศไทย (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 1,030 บาท)
ขอนแก่นอาจได้รับสมญานามว่าเป็นดินแดนไดโนเสาร์ของประเทศไทย หากแต่เป็นเมืองที่ทันสมัยด้วยความที่เป็นเมืองมหาวิทยาลัยเลยมีคาเฟ่อินเทรนด์ตั้งอยู่มากมาย ทั้งทะเลสาบประจำเมืองที่จัดงานเทศกาลตลอดปี ตลาดโต้รุ่งต้นตาลที่เป็นแหล่งรวมสตรีทฟู้ด พร้อมโชว์ดนตรีสด และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้จังหวัดขอนแก่นยังเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การสำรวจประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการขุดหาสมบัติจูราสสิค หรือการไปทำบุญที่วัดถ้ำแสงบนยอดเขาอันสวยงาม
หากวางแผนจะไปเที่ยวขอนแก่นในเดือนเมษายน ก็อย่าลืมที่จะนำลูกโป่งน้ำและปืนฉีดน้ำพกติดตัวมาด้วย เพราะขอนแก่นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จัดงานสงกรานต์ (ปีใหม่ไทย) ได้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 13-15 เมษายน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถเยี่ยมชมบึงแก่นนครไปพร้อม ๆ กับการเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนานในงานเทศกาลอันน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดงานหนึ่งของเอเชีย
สนามบินทั้งสองแห่งของกรุงเทพฯ มีบริการเที่ยวบินสำหรับเดินทางไปยังจังหวัดขอนแก่นทุกวัน และยังมีราคาอันแสนย่อมเยาอีกด้วย โดยตั๋วเที่ยวเดียวที่มีจำหน่ายในช่วงเดือนเมษายน จะมีราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 750 บาท (หรือประมาณ 22 ดอลล่าร์สหรัฐ) โดยสามารถตรวจสอบราคาได้ที่ www.agoda.com/flights
2. ซีบู, ประเทศมาเลเซีย (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 1,170 บาท)
เมืองซีบู ตั้งอยู่ในรัฐ Sarawak บนเกาะบอร์เนียวอันเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่มักถูกมองข้าม แท้ที่จริงแล้วเป็นดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อีกทั้งยังสามารถดื่มด่ำไปกับอาหารที่แสนมีชีวิตชีวา และประเพณีโบราณของวัด Tua Pek Kong
นอกจากนี้ซีบูยังเปรียบเหมือนสวรรค์สำหรับสายอนุรักษ์ที่สามารถชื่นชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เช่น เขตอนุรักษ์ Bukit Lima, สวนทะเลสาบ Sibu และเส้นทางมรดก Sungai Merah
เช่นเดียวกันกับจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ในมาเลเซีย เมืองซีบูเป็นแหล่งที่รวบรวมร้านอาหารไว้มากมาย โดยมีตั้งแต่ร้านโกปี๊เตี้ยมหรือร้านกาแฟสไตล์เก่าแก่ ที่พบเจอได้ตามท้องถิ่น ไปจนถึงตลาดกลางคืนเมืองซีบุ และเมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้เลยคือ Mee Sua (บะหมี่รสเลิศในซุปสมุนไพรเข้มข้น) และบะหมี่ Kampua หรือ Kompia (บะหมี่เส้นแบนรับประทานพร้อมเนื้อสัตว์ตามใจชอบ) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมที่ต้องลิ้มลอง
เริ่มออกเดินทางและไปสำรวจอัญมณีแห่งซีบุในรราคาย่อมเยาด้วยตัวเอง และอย่าลืมที่จะแวะซื้อของฝากที่ระลึกเพื่อคนที่คุณรักจากตลาดซีบุเซ็นทรัล
3. สุราการ์ตา (หรืออีกชื่อ โซโล), ประเทศอินโดนีเซีย (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 1,265 บาท)
ศูนย์กลางอำนาจในชวากลาง ในปีค.ศ. 1745 ศาลมาตารัมถูกย้ายจากยอกยาการ์ตามาที่นี่ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาสุราการ์ตาก็ค่อย ๆ สร้างชื่อของตัวเองขึ้นในฐานะศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ซึ่งมีความหลากหลาย เช่น ระบำโซโลเนเซ การเชิดหุ่นกระบอกวายัง และผ้าบาติกทำมือ
ผู้คนเมืองนี้ภาคภูมิใจในประเพณีทางศิลปะที่สวยงาม และละเอียดลออของตัวเอง สุราการ์ตาเป็นที่สนใจของคนทั่วไปมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีโจโค “โจโกวี” วิโดโด
ใคร ๆ ก็สามารถเพลิดเพลินกับการนั่งรถสามล้อชมเมืองเก่าได้ แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบดนตรีพื้นบ้าน สุราการ์ตาถือว่าเป็นเมืองที่น่าไปมาก โดยปกติแล้วแต่ละปีที่นี่จะมีงานใหญ่จัดขึ้น 2 งาน ได้แก่ Solo Menari (แปลว่า การเต้นรำเดี่ยว) ซึ่งเป็นงานฉลองวันเต้นรำโลกในวันที่ 29 เมษายน ของทุกปี และ Solo Keroncong Festival ซึ่งเป็นงานส่งเสริมดนตรีพื้นบ้านดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองประจำปี ช่วงวันที่ 22-23 กรกฎาคม
4. ปูรี, ประเทศอินเดีย (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 1,310 บาท)
ปูรีหรือปุรี เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอินเดีย และเป็นที่รู้จักในฐานะ 1 ใน 4 สถานที่จาริกแสวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ ซึ่งเรียกว่า "ชาร์ ดัมส์" มักมีผู้ศรัทธา ผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ และนักสำรวจเดินทางไปปูรีตลอดทั้งปี
เมืองนี้เปรียบเสมือนตัวแทนทางประวัติศาสตร์ของอินเดียที่ถ่ายทอดศิลปะวัฒนธรรมออกมาได้อย่างวิจิตรบรรจง ผ่านตัวละครในตำนาน และเรื่องราวบนงานหัตถกรรม
เมื่อไปถึงปูรีแล้วก็ไม่ควรพลาดอาหารอร่อย อย่าง 'มัลปัว' และจานกุ้ง 'ชุงกี มาลัย' นอกจากนี้ยังมีชายหาดสีทองของที่ได้รับการรับรองว่าเป็นหนึ่งในชายหาดที่สะอาดที่สุดในประเทศอินเดีย ถึงเวลาวางแผนไปเที่ยวปูรี เมืองที่ไม่แพง และเต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมแล้ว
5. บาโคลอด, ประเทศฟิลิปปินส์ (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 1,620 บาท)
บาโคลอด ถูกขนานนามว่าเป็น 'เมืองแห่งรอยยิ้ม' เพราะผู้คนในท้องถิ่นนั้นน่ารัก เป็นมิตร อีกทั้งรู้วิธีมอบประสบการณ์ด้านอาหารที่น่าประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว
ร้านอาหาร Sharyn’s Cansi House ในเมืองนั้นขึ้นชื่อเรื่องอาหารแบบดั้งเดิมในภูมิภาคเนโกรส์ (ซึ่งเป็นที่ตั้งของบาโคลอด) จันดี คือซุปที่ทำจากเนื้อส่วนขาและไขกระดูก ซึ่งมักจะราดด้วย Batuan ผลไม้รสเปรี้ยวที่คนในพื้นที่นิยมใช้
แต่ถ้าใครชอบทำอาหารด้วย ที่ Bong Bongs ก็มีเวิร์คช็อปทำจานอร่อยอย่าง ปี่ยา ขนมปังแบนไส้มัสโควาโดและน้ำเชื่อมกลูโคสสูตรของคนในพื้นที่ อีกหนึ่งจานที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ อินาซาลไก่ ของคนอิโลงโกที่โดดเด่นด้วยกลิ่นควัน ซึ่งมีขายในพื้นที่ที่มีร้านอาหารอยู่รวมกันเยอะ ๆ ชื่อ Manukan Country สุดท้ายจบทริปด้วยพายโคลนช็อกโกแลต ของหวานจานเด็ดของร้าน Calea
6. นิงห์บิงห์, ประเทศเวียดนาม (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 1,620 บาท)
ความงดงามของนิงห์บิงห์ทำให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาต้องตกตะลึงเป็นเวลากว่าพันปีแล้วด้วยยอดเขาสูงตระหง่าน ทางน้ำที่เงียบสงบ วัดขนาดมหึมา และเจดีย์ที่มีเรื่องราวมากมาย นิงห์บิงห์อยู่ห่างจากกรุงฮานอยเพียง 1 ชั่วโมง
หลังจากถูกคัดเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ Kong เมืองที่ได้รับการคุ้มครองจากองค์การยูเนสโกแห่งนี้ก็ได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างล้นหลามตาม ‘Great Wall of Vietnam’ พายเรือผ่านแม่น้ำที่ระยิบระยับ และเดินขึ้นบันได 500 ขั้น เข้าถ้ำมัวบนภูเขาอันสูงชัน
ทัศนียภาพอันสวยงามของที่นี่เปลี่ยนไปตลอดทั้งปี และการเดินทางไปนิงห์บิงห์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีบริษัทท่องเที่ยวฮานอยจำนวนมากที่มีทัวร์แบบกลุ่มทุกขนาดให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อในราคาทุกระดับ เพื่อไปสัมผัสเสน่ห์ของเวียดนาม
7. ชิบะ, ประเทศญี่ปุ่น (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 2,375 บาท)
จังหวัดชิบะ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวเพียงไม่กี่สถานีรถไฟ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายสำหรับผู้คนทุกวัย เช่น โตเกียวดิสนีย์แลนด์และดิสนีย์ซี และคาบสมุทรโบโซที่มีแนวชายฝั่ง ชายหาดสวยสะอาด รวมถึงป่าเขียวชอุ่ม เมืองชิบะเป็นเมืองหลวงของจังหวัด และเป็นศูนย์กลางความบันเทิง โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปอยู่มาก เช่น สวนริมทะเลมาคุฮาริ และอิออนมอลล์ มาคุฮาริ ชินโทชิน
สำหรับหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปจังหวัดชิบะคือนาริตะซัง ชินโชจิในเมืองนาริตะ วัดพุทธแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 โด่งดั่งด้านสถาปัตยกรรม งานแกะสลัก และสวนที่ทั้งสวยงามและประณีต
หลังจากท่องเที่ยว และอิ่มอร่อยกับอาหารท้องถิ่นมาทั้งวันแล้ว ก็ถึงเวลาผ่อนคลายได้ที่บ่อน้ำพุร้อน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัด ชิบะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับใครที่มองความงามทางธรรมชาติ มรดกทางวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้น และอาหารเลิศรสของประเทศญี่ปุ่น
สามารถไปดูบริการรถรับ-ส่ง ไป-กลับชิบะ และกิจกรรมในพื้นที่อื่น ๆ ได้ที่หน้ากิจกรรมของอโกด้า: https://www.agoda.com/activities/
8. กวางจู, ประเทศเกาหลีใต้ (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 3,120 บาท)
11 กวางจู เกาหลีใต้
กวางจูเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งวัฒนธรรมและศิลปะ มีสถานที่และกิจกรรมทางวัฒนธรรม รวมถึงศิลปะที่หลากหลายตลอดปี เช่น ถนนทั้งเส้นที่อุทิศให้กับงานศิลปะ พิพิธภัณฑ์ Asia Art Center พิพิธภัณฑ์ Gwangju Museum of Art แกลเลอรีต่าง ๆ และร้านค้าวัตถุโบราณมากมาย
ทั้งหมดนี้ทำให้กวางจูเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบศิลปะ การแสดง และโรงละคร
ฤดูใบไม้ผลินี้กวางจูยังมีจัด Gwangju Biennale ครั้งที่ 14 ซึ่งเป็นเทศกาลศิลปะที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในเอเชียด้วย ซึ่งจะจัดขึ้นทั่วเมืองตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน ถึง 9 กรกฎาคม ภายใต้ธีม "Soft and Weak Like Water"
9. เกาะจินเหมิน, ไต้หวัน (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 3,223 บาท)
แม้จะไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก แต่จินเหมินเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์และการทหาร แต่ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ไม่ควรพลาดคือปรากฏการณ์ 'Blue Tears' สิ่งมีชีวิตเรืองแสงเป็นประกายสีน้ำเงินที่สามารถพบเห็นได้ตามชายฝั่ง
นอกจากอนุสรณ์เหล่านั้นแล้ว จินเหมินยังมีชื่อเสียงในเรื่อง Rock Oyster อีกด้วย และเหล่านักชิมก็โชคดีในเดือนนี้ เพราะตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน ถึง 21 พฤษภาคม จะมีการจัดงาน 'Rock Oyster and Wheat Cultural Festival' ขึ้น ผู้เข้าชมต้องลองเก็บหอยนางรมจากฟาร์มและเข้าร่วมการแข่งขันแกะหอยนางรม สิ่งที่ดีที่สุดคือผู้เก็บสามารถนำหอยนางรมทั้งหมดที่แกะเปลือกติดตัวกลับไปด้วยได้
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม อย่าง การเที่ยวชมทุ่งข้าวสาลีด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ทัวร์ฟาร์มหอยนางรมเชิงนิเวศ และกิจกรรมที่เหมาะสำหรับครอบครัวอีกมากมาย
10.บริสเบน, ประเทศออสเตรเลีย (ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน: 4,317 บาท)
บริสเบน เมืองหลวงแห่งรัฐควีนส์แลนด์ เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศออสเตรเลีย เมืองริมแม่น้ำที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านวิถีชีวิต และเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้ง มีทั้งสวนพฤกษศาสตร์ที่สวยงาม เขตรักษาพันธุ์สัตว์ และเขตวัฒนธรรม South Bank นอกจากนี้ยังมีแผงขายของช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ คาเฟ่และบาร์ และชายหาดเทียมที่สวยงามริมแม่น้ำ
บริสเบนอยู่ห่างจากชายหาดที่สะอาดสวยงามของรัฐควีนส์แลนด์ไม่นาน เพียงขับรถไม่กี่นาทีก็จะได้สัมผัสทั้งคลื่น หาดทราย และแสงแดด บริสเบนไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีราคาย่อมเยาที่สุดในออสเตรเลียเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลมากที่สุดด้วย
นอกจากการเผยจุดหมายปลายทางที่ราคาย่อมเยาที่สุดให้แล้ว อโกด้ายังช่วยให้นักท่องเที่ยวได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยฟีเจอร์อีกมากมาย เช่น Price Freeze , Price Alerts, ส่วนลดแบบกลุ่ม, ดีลรายวัน และ อื่นๆ ช่วยให้ผู้คนออกไปท่องเที่ยวได้มากขึ้นโดยจ่ายน้อยลง
#######################
หมายเหตุ :
ราคาห้องพักเฉลี่ยสำหรับเดือนเมษายนคำนวณจากข้อมูลที่มีอยู่ของอโกด้า ณ วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2566