ท่าอากาศยานลอนดอนซิตี้ (London City Airport) ติดตั้งเครื่องสแกนสามมิติสุดทันสมัย เตรียมยกเลิกกฎห้ามผู้โดยสารนำของเหลวปริมาณเกิน 100 มล. ขึ้นเครื่องบิน แถมไม่ต้องเอาแลปท็อปออกมาสแกนให้เสียเวลาอีกต่อไป โดยจะเริ่มในช่วงวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ปลายเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
การโดยสารทางอากาศมีกฎระเบียบห้ามนำของเหลวปริมาณเกิน 100 มิลลิลิตรขึ้นเครื่องบินมาเนิ่นนานกว่า 10 ปี ทั้งนี้เพราะของเหลวสามารถนำไปใช้เป็นสารประกอบระเบิดได้ ทั้งนี้ การจำกัดปริมาณไม่ให้เกิน 100 มล. เพราะถือว่าเป็นปริมาณที่น้อยเกินกว่าจะใช้เป็นส่วนประกอบทำให้เกิดความเสียหาย
โดยเฉพาะในปี 2009 เกิดเหตุเตรียมการก่อการร้าย โดยนายอุมาร์ ฟารูก อับดุลมุตอลลับ ชาวไนจีเรีย ซุกซ่อนนำสารเคมีในรูปของเหลวติดไฟได้ ที่บรรจุไว้ในหลอดฉีดยาเตรียมผสมของเหลวนี้เข้ากับดินระเบิด ซึ่งเย็บซ่อนไว้กับชุดชั้นใน โดยสารขึ้นเครื่องบินสายการบินนอร์ธเวสต์แอร์ไลน์ จากกรุงอัมสเตอร์ดัม มีจุดหมายปลายทางที่เมืองดีทรอยต์ สหรัฐอเมริกา นั่นยิ่งทำให้มาตรการห้ามนำของเหลวเกิน 100 มล.ยิ่งเข้มงวดเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่นั้น
อย่างไรก็ตามในปี 2023 นี้ ภายใต้กฎใหม่ของ ท่าอากาศยานลอนดอนซิตี้ ผู้โดยสารจะสามารถเดินทางโดยถือขวดของเหลวไม่เกิน 2 ลิตร ขึ้นเครื่องได้
ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มาจากการติดตั้งเครื่องมือสแกนที่มีความความปลอดภัยรุ่นใหม่ซึ่งสามารถประเมินอันตรายที่เกิดจากของเหลวได้ในไม่กี่วินาที โดยสนามบินมีเครื่องสแกนที่ทันสมัยแล้ว 2 เครื่อง และกำลังดำเนินการเพิ่มเติมอีก 2 เครื่อง ซึ่งทั้ง 4 เครื่องน่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ข้อจำกัดเรื่องปริมาณของเหลวที่มีอยู่ในปัจจุบันจะถูกยกเลิกทันเวลาสำหรับวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ ที่จะมีนักเดินทางหลายล้านคน
ภายใต้กฎใหม่ของสนามบิน ผู้โดยสารสามารถนำของเหลวไม่เกิน 2 ลิตร และยังไม่จำเป็นต้องนำแล็ปท็อป หรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กออกมาสแกนอีกต่อไป
ทั้งนี้ไม่เพียงแต่สนามบินลอนดอนซิตี้ เท่านั้น แต่ในปี 2024 รัฐบาลอังกฤษตั้งเป้าหมายว่าสนามบินในสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่จะติดตั้งเครื่องสแกน 3 มิติแบบใหม่ ซึ่งเครื่องสแกนเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถเห็นสัมภาระได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น มีทัศนวิสัยที่เพิ่มขึ้น และจะทำให้กฎหลายข้อที่ใช้อยู่จะถูกยกเลิก เช่น การนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ออกจากสัมภาระถือขึ้นเครื่อง และขีดจำกัดของเหลว 100 มล. นั่นเอง
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline