เมืองมรดกโลก “สโตนทาวน์” เมืองหลักของ เกาะแซนซิบาร์ จุดหมายท่องเที่ยวอันโด่งดังของประเทศแทนซาเนีย เมืองแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของเมืองการค้าชายฝั่งของสวาฮิลี หรือประเทศโซนแอฟริกาตะวันออก โดยยังคงรักษาโครงสร้างผังเมืองและภูมิทัศน์ของเมืองไว้ได้อย่างสมบูรณ์นานเนิ่นนานนับพันปี
สโตนทาวน์ หรือ “Mji Mkongwe” ตั้งอยู่บนแหลมที่ยื่นออกมาจากด้านตะวันตกของเกาะ Unguja สู่มหาสมุทรอินเดีย เมืองท่าแห่งนี้พัฒนาขึ้นบนชายฝั่งของแอฟริกาตะวันออก และเติบโตภายใต้อิทธิพลของอาหรับ อินเดีย และยุโรป แต่ยังคงไว้ซึ่งองค์ประกอบพื้นเมืองแบบดั้งเดิม กลายเป็นวัฒนธรรมเมืองที่มีลักษณะเฉพาะในภูมิภาคนี้
อาคารต่างๆในเมืองส่วนใหญ่สร้างด้วยหินขัด กัลปังหา และไม้โกงกาง ก่อด้วยปูนขาว ฉาบปูน และล้างด้วยปูนขาว สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานอันซับซ้อนของอิทธิพลของวัฒนธรรมสวาฮิลี อินเดีย อาหรับ และยุโรปในการสร้างประเพณีและการวางผังเมือง
บ้าน 2 ชั้นที่มีห้องแคบๆ แต่เป็นทางยาว ตั้งอยู่รอบๆ ลานเปิดโล่ง ผ่านทางเดินแคบๆ ภายนอกโดดเด่นด้วยประตูบานคู่แบบ "แซนซิบาร์" ที่แกะสลักอย่างประณีต บางหลังมีเฉลียงกว้าง และการตกแต่งภายในที่หรูหรา ร่วมกับบ้านสไตล์สวาฮีลีชั้นล่างที่เรียบง่าย และร้านค้าแบบอินเดีย ส่วนด้านหน้าตามถนนมี "ตลาดสด" ที่สร้างขึ้นรอบพื้นที่เชิงพาณิชย์ เรียกว่า “duka”
อาคารส่วนมากมีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 - 19 เช่น ป้อมปราการเก่า ซึ่งสร้างขึ้นบนที่ตั้งของโบสถ์โปรตุเกสในยุคก่อน วังขนาดใหญ่ที่สร้างโดยสุลต่าน Barghash มัสยิด ร้านขายยาเก่า คฤหาสน์ขนาดใหญ่ โรงอาบน้ำแบบเปอร์เซียน วิหารโรมันคาทอลิกอาสนวิหารเพื่อรำลึกถึงผลงานของเดวิด ลิฟวิงสตันในการยกเลิกการค้าทาส และสร้างขึ้นบนที่ตั้งของตลาดค้าทาสแห่งสุดท้าย ฯลฯ
อาคารเหล่านี้เป็นการตั้งถิ่นฐานในเมืองที่โดดเด่น ซึ่งสะท้อนถึงกิจกรรมการค้าที่ยาวนานระหว่างชายฝั่งแอฟริกาและเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ที่การค้าทาสสิ้นสุดลง
สโตนทาวน์เคยเป็นเมืองหลวงของรัฐสุลต่านแซนซิบาร์ รวมทั้งเป็นเบ้าหลอมของวัฒนธรรมแอฟริกา เอเชีย และยุโรปอันหลากหลาย โดยเมืองโบราณเปี่ยมมนต์ขลังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2000
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline