xs
xsm
sm
md
lg

ปักหมุด 5 จุด เดินทอดน่องท่องเที่ยวรอบสนามหลวง ชมสถานที่สำคัญเขตพระนคร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ใครที่ชอบการเดินชมสถาปัตยกรรมสวยๆ ของสถานที่ท่องเที่ยว และกำลังมองหาที่เที่ยวที่ถ่ายรูป ครั้งนี้ขอชวนมาเดินทอดน่องส่องความงดงามของ 5 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญรอบสนามหลวง เขตพระนคร กรุงเทพฯ

บริเวณรอบสนามหลวง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่

ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร
ศาลหลักเมือง
เริ่มจากมากราบสักการะองค์พระหลักเมือง ที่ “ศาลหลักเมือง” ความเป็นมาของศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ นั้น สืบเนื่องมาจากประเพณีโบราณในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 ก่อนที่จะสร้างเมืองจะต้องทำพิธีการยกเสาหลักเมืองในที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น เป็นมิ่งขวัญแก่พสกนิกรสำหรับยึดถือทางจิตใจว่าบ้านเมืองที่สร้างขึ้นนั้น มีรากฐานฝังไว้อย่างแน่นอนแล้ว ให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุขรุ่งเรืองสถาพรตลอดไป

ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร
นอกจากพระหลักเมืองแล้ว บริเวณศาลหลักเมืองยังมีเทพารักษ์ผู้พิทักษ์ให้ความร่มเย็นแก่บ้านเมืองอีก 5 องค์ด้วยกัน คือ “พระเสื้อเมือง” มีหน้าที่คุ้มครองป้องกันทั้งทางบกและทางน้ำ คุมกำลังไพร่พลแสนยากร รักษาบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุขปราศจากอริราชศัตรูมารุกราน “พระทรงเมือง” มีหน้าที่รักษาการปกครองและกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ดูแลทุกข์สุขของประชาชนให้ร่มเย็นเป็นสุขสวัสดี

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระแก้ว
บริเวณที่อยู่ใกล้กับศาลหลักเมือง จะเป็นที่ตั้งของ “วัดพระศรีรัตนศาสดาราม” หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “วัดพระแก้ว” ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม ถือเป็นที่รวบรวมแห่งศิลปกรรมของไทยเลยก็ว่าได้

บริเวณภายในวัดพระแก้ว
สิ่งน่าสนใจในวัดพระแก้วมีให้ชมงดงามหลากหลาย และจุดที่ไม่ควรพลาดอยู่ที่พระอุโบสถ มีลักษณะเป็นอาคารทรงไทยก่ออิฐถือปูน เป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย ฐานพระอุโบสถหย่อนท้องช้างเป็นเส้นโค้ง หลังคาทรงไทย 4 ชั้นลด หน้าบันจำหลักลายรูปนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค ล้อมรอบด้วยลายก้านขดเทพนม ลงรักปิดทองประดับกระจก

จิตรกรรมฝาผนังที่วัดพระแก้ว
ภายในพระอุโบสถนั้นจะมีองค์พระประธานมีชื่อเต็มว่า "พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ทำขึ้นจากหินสีเขียวงดงาม หรือที่เรียกกันว่า “พระแก้วมรกต” มีพระพุทธลักษณะเป็นศิลปแบบล้านนาตอนปลาย ประทับนั่งปางสมาธิ ขัดสมาธิราบ องค์พระแกะสลักจากเนื้อหยกสีเขียวทึบชิ้นเดียว

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
วัดโพธิ์
อีกหนึ่งวัดงามที่อยู่ไม่ไกลกันก็คือ “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร” หรือ “วัดโพธิ์” หนึ่งในปูชนียสถานที่สำคัญแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ วัดแห่งนี้ไม่เพียงเป็นมรดกล้ำค่าของประเทศไทย แต่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่สำคัญทรงคุณค่าในระดับโลก

ต้นตำรับการนวดวัดโพธิ์ ก็ถือเป็นจุดกำเนิดการนวดแผนไทย ซึ่งนวดแผนไทย ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ นอกจากนี้ วัดโพธิ์ ยังเป็นแหล่งรวบรวมศาสตร์ และศิลป์ที่สำคัญไว้หลากหลายแขนง วิจิตรงดงามไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ดึงดูดให้มีผู้มาเยือนจากทั่วโลก

พระพุทธไสยาส
ประวัติโดยย่อของ “วัดโพธิ์" เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์จักรี เดิมชื่อ “วัดโพธาราม" เป็นวัดโบราณที่ราษฎรสร้างไว้ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ ๑) เสวยพระราชสมบัติ และทรงย้ายเมืองหลวงมายังฝั่งพระนคร มีการสร้างพระบรมมหาราชวังขึ้นใหม่ จึงทรงปฎิสังขรณ์วัดโพธารามที่อยู่บริเวณเดียวกันไปด้วย

สิ่งที่พลาดไม่ได้ คือ “พระพุทธไสยาส” ซึ่งเปรียบเสมือนภาพแทนสัญลักษณ์ของวัดโพธิ์ ซึ่งพระพุทธไสยาสเป็นพระพุทธรูปปางโปรด อสุรินทราหู ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระพุทธไสยาส เป็นพระพุทธรูปนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์
อีกหนึ่งวัดที่ตั้งอยู่บริเวณสนามหลวง เขตพระนคร ก็คือ “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ ราชวรมหาวิหาร” ตั้งอยู่ริมถนนหน้าพระธาตุ เป็นพระอารามหลวงฝ่ายมหานิกายชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เดิมเรียกว่า วัดสลัก เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่ สมัยกรุงศรีอยุธยา มีฐานะเป็นพระอารามหลวงในสมัยกรุงธนบุรี เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2326 สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหา สุรสิงหนาท ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะ วัดสลัก ขึ้นใหม่แล้วพระราชทานนามว่า วัดนิพพานาราม ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2331 รัชกาลที่ ๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้วัดนี้เป็นสถานที่สังคายนาพระไตรปิฎก และพระราชทานนามใหม่ว่า วัดพระศรีสรรเพชญ และต่อมาพระองค์ได้พระราชทานนามใหม่อีกครั้งหนึ่งเป็น วัดมหาธาตุ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรม สารีริกธาตุ และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช

พระประธานที่อยู่ในอุโบสถ
ภายในพระมณฑป บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระอุโบสถเป็นอาคาร ทรงไทยฐานสูง หน้าบันเป็นไม้แกะสลัก ปิดทอง ประดับกระจก ภายในมีพระพุทธรูปปางมารวิชัย เป็นพระอุโบสถที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ จุพระสงฆ์ได้ถึง 1,000 รูป และเป็นที่ตั้งของ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของสงฆ์

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เดิมเป็น "พระราชวังบวรสถานมงคล" หรือวังหน้า ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์ขึ้น เพื่อเก็บรักษาโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ต่อมาในปี พ.ศ.2469 รัชกาลที่ 7 ให้จัดตั้งพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนครขึ้น ซึ่งก็คือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ที่เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ โดยถือเป็นพิพิธภัณฑสถานสำหรับประชาชนแห่งแรกของประเทศไทย

พระที่นั่งพุทไธสวรรย์
ปัจจุบันมีโบราณวัตถุจัดแสดงตามห้องต่างๆ นอกจากมีโบราณวัตถุให้ชมมากมายแล้ว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ยังมีโบราณสถานคือ พระที่นั่ง และ พระตำหนักบางองค์ ที่เป็นตัวอย่างของ งานสถาปัตยกรรมไทยที่งดงาม เช่น พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ภายในพระที่นั่งประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ และมีจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามยิ่ง พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ ที่ประทับ ของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์

พระตำหนักแดง
และพระตำหนักแดง ที่ประทับของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีในรัชกาลที่ ๒ รวมไปถึง พระที่นั่งขนาดย่อม และศาลาทรงไทยในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ศาลาสรง ศาลาสำราญมุขมาตย์ พระที่นั่งมังคลาภิเษก และ พระที่นั่งปาฏิหาริย์ทัศนัย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ยังคงมีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมไทย ที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะรัตนโกสินทร์ในปัจจุบัน

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น