xs
xsm
sm
md
lg

“มิวเซียมสิงห์บุรี” เพลินประวัติศาสตร์ในพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัย แหล่งท่องเที่ยวใหม่แห่งเมืองสิงห์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิพิธภัณฑ์กับประวัติศาสตร์อาจเป็นของแสลงสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับ “มิวเซียมสิงห์บุรี” สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสิงห์บุรี จะเปลี่ยนความคิดที่ว่าประวัติศาสตร์เป็นเรื่องน่าเบื่อให้กลายเป็นความเพลิดเพลิน และใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถรับรู้เรื่องราวของเมืองสิงห์บุรีได้อย่างสนุกกว่าที่เคย



อาคารชั้นเดียวสีเหลืองมัสตาร์ดสดใส สถาปัตยกรรมสไตล์ยุคโคโลเนียล ซึ่งเป็นศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรี (หลังเดิม) ที่สร้างไว้ตั้งแต่สมัย ร.ศ. ๑๓๐ หรือ พ.ศ. 2454 ในวันนี้มีความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เมื่อเปลี่ยนหน้าที่มาสู่การเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ล่าสุดของเมืองสิงห์บุรี ที่มีชื่อเท่ๆร่วมสมัยว่า “มิวเซียมสิงห์บุรี” อันเกิดจากความร่วมมือระหว่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี และสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม)

เมื่อมี “มิวเซียมสยาม” เข้ามาเป็นเสมือนพี่เลี้ยง ทำให้เหล่านักเที่ยวพิพิธภัณฑ์ตัวยงคงคาดเดาได้ไม่ยากว่า พิพิธภัณฑ์ใหม่แห่งนี้ ต้องมีสีสันดึงดูดที่แตกต่างจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทั่วไปแน่นอน


มิวเซียมสิงห์บุรี นับเป็นฐานแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ประจำภาคกลาง โดยภายในอาคาร มีการจัดแสดงนิทรรศการถาวร "ทรัพย์ เมือง สิงห์” ถ่ายทอดเรื่องราวเมืองสิงห์บุรี ผ่านประวัติศาสตร์ สังคม ผู้คน ภูมิปัญญา วัฒนธรรม และเมือง ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น ก่อ ร่าง สร้าง เมือง มาจนถึงสมัยปัจจุบัน

ภายใต้รูปแบบของนิทรรศการป้ายสื่อความหมาย ที่ผสมผสานการนำเสนอรูปแบบแสง สี เสียง มัลติมีเดียร่วมสมัย และเสริมด้วยเอกลักษณ์ในสไตล์มิวเซียมสยาม คือ บางส่วนของนิทรรศการนั้น ผู้เข้าชมสามารถจับต้องสัมผัสได้ เพิ่มอรรถรสของการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ให้มีความเพลิดเพลินกว่าเดิม ตอบโจทย์ความสนุก เพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้เข้าชมโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน

สำหรับนิทรรศการ “ทรัพย์ เมือง สิงห์” ที่จัดแสดงภายในมิวเซียมสิงห์บุรี ประกอบด้วย 8 ห้อง ได้แก่


ทรัพย์ดึกดำบรรพ์
“หลักฐาน” ทรัพย์เมืองสิงห์ จำนวนมากมาย ยืนยันความสำคัญของสิงห์บุรี ตั้งแต่หลายพันปีก่อนในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ต่อเนื่องถึงทวารวดี สุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์ จนเป็นสิงห์บุรีวันนี้

ทรัพย์เมืองเก่า
“ชาวสิงห์บุรี” ในยุคดึกดำบรรพ์รวมกลุ่มตั้งหมู่บ้านกระจัดกระจายกันตามที่ต่าง ๆ แล้วพัฒนาการต่อเนื่องมาจนถึงสมัยทวารวดี มีการติดต่อค้าขายกับเมืองอื่นๆ ต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นหัวเมืองสำคัญของกรุงศรีอยุธยา ในยุค สิงห์ - อินทร์ - พรหม โดย “สิงห์บุรี” มีฐานะเป็นเมืองลูกหลวงของอยุธยา บ่งบอกความสำคัญใกล้ชิดกับศูนย์กลางอำนาจทางการปกครองในยุคนั้น


ทรัพย์ในดิน
“เมืองเตาเผา” สิงห์บุรีเป็นเมืองอุตสาหกรรมผลิตภาชนะดินเผาขนาดยักษ์ใหญ่ มีเตาเผาจำนวนนับร้อยเตา ผลิตภาชนะดินเผาส่งขายในอยุธยา และส่งออกไปทั่วโลก โดยปรากฏหลักฐานจากเรือสินค้าล่มในทะเล พบตั้งแต่อ่าวไทย ทะเลจีนใต้ มหาสุมทรอินเดีย และไกลไปถึงทวีปแอฟริกา โดยมีเอกลักษณ์ยืนยันความเป็นทรัพย์ในดินของสิงห์บุรี คือ “ไหสี่หู” ภาชนะที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากสิงห์บุรี และมีโรงงานผลิตภัณฑ์ดินเผาบ้านระจันนับร้อยแห่ง เมื่อ 400 ปีที่แล้ว

ทรัพย์สลาย
“กรุงแตก” ทำให้สิงห์บุรีที่เจริญรุ่งเรืองมานับพันปี ต้องโรยราในชั่วข้ามคืน เตาเผาถูกทิ้งร้างกลายเป็นอดีต แม้จะมีชาวสิงห์บุรีและชาวเมืองใกล้เคียง จะร่วมมือกันปกป้องถิ่นจนคนสุดท้ายใน "ศึกบางระจัน" แต่ไม่อาจต้านทานศึกใหญ่ครั้งนั้นได้ ทรัพย์เมืองสิงห์สลายไปพร้อมกับกรุงศรีอยุธยา


ทรัพย์ทรงจำ
“เมืองแฝดสาม” สิงห์ - อินทร์ - พรหม เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญ ๆ หลายครั้ง ตั้งแต่เป็นเมืองกึ่งกลางระหว่างรัฐโบราณ จนถึงเป็นเมืองลูกหลวง หลานหลวง ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้ง เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อมีการยุบรวม สิงห์ - อินทร์ – พรหม เป็น “เมืองสิงห์บุรี” เมืองเดียว โดยการเสด็จเยือนของพระมหากษัตริย์ ย่อมสร้างความเปลี่ยนแปลงเจริญรุ่งเรืองแก่เมืองนั้น และเมืองสิงห์บุรีก็เป็นเมืองที่พระมหากษัตริย์หลายพระองค์ในราชวงศ์จักรีเสด็จพระราชดำเนินมาเยือน




ทรัพย์เมืองสิงห์
“เมืองดี คนดี ของดี” เมืองสิงห์บุรี มีทรัพย์เมืองสิงห์ซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก ทุกซอกทุกมุมของทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ ล้วนมีเรื่องราวให้ค้นหาที่มีความหลากหลายของผู้คน วัฒนธรรม ความเชื่อ อาหารการกิน และ “ของใหม่” ที่มีบทบาทสำคัญ เป็นทรัพย์เมืองสิงห์ในปัจจุบัน ในห้องจัดแสดงนี้ เป็นการรวบรวมให้เห็นว่าทรัพย์ในเมืองสิงห์นั้นมีมากมายหลากหลาย


ทรัพย์ปัญญา
“สิงห์บุรีโมเดล” ถูกคิดค้นตั้งแต่เมื่อพันปีก่อน เพื่อควบคุมน้ำในหน้าแล้ง และป้องกันน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก ด้วยคลองขุด “ใยแมงมุม” ที่บ้านคูเมือง อินทร์บุรี ซึ่งเชื่อกันว่ากรุงศรีอยุธยาก็ใช้โมเดลนี้ขุดคูคลองเพื่อควบคุมน้ำเช่นกัน ถือเป็นทรัพย์ปัญญาและเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับการเป็นเมืองน้ำมากที่สุดแห่งหนึ่งของสยามประเทศ




ทรัพย์วันหน้า
“สิงห์บุรีในฝัน” ห้องจัดแสดงที่เป็นเกมทดสอบการออกแบบเมืองอย่างยั่งยืน สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ความผันผวน ในอนาคตได้ ด้วยจินตนาการของทุกๆ คน เพื่อสร้างบุคลิกภาพของเมือง ทั้งในทาง สภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม ผู้คน และวัฒนธรรมให้เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ น่าอยู่ น่าเยือน สำหรับทุกคน


ห้องจัดแสดงทั้ง 8 ห้อง ใช้เวลาเดินชมทั้งหมดได้ภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ผู้มาเยือนจะได้รับรู้เรื่องเรื่องทางประวัติศาสตร์ของเมืองสิงห์บุรีครอบคลุมในระดับหนึ่งโดยไม่น่าเบื่อ นอกจากนี้ต้องไม่พลาดออกมาถ่ายภาพอาคารศาลากลางหลังเก่า ร.ศ. ๑๓๐ ที่มีความงดงามย้อนยุคเก็บไปเป็นที่ระลึก


มิวเซียมสิงห์บุรี
ถนนวิไลจิตต์ ตำบลบางพุทรา อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
เปิด 9.00-17.00 น. วันอังคาร-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ปิดวันจันทร์)
ไม่เสียค่าเข้าชม สอบถาม โทร. 036-699-388

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline




กำลังโหลดความคิดเห็น