ใกล้เข้ามาแล้วกับ "วันตรุษจีน" หรือวันขึ้นปีใหม่จีนที่ในปี 2566 นั้นตรงกับวันที่ 22 มกราคม ถือเป็นโอกาสดีที่จะออกไปไหว้พระเสริมสิริมงคลให้ เฮง เฮง เฮง ชีวิตราบรื่นตลอดทั้งปี
โดยทางเฟซบุ๊กเพจ "ข่าวสารท่องเที่ยว ททท." ได้ชวนไหว้พระ 9 ศาลเจ้า เพื่อเสริมสิริมงคลและเพิ่มแต้มบุญรับปีใหม่จีนเทศกาลตรุษจีนในปีกระต่ายนี้ เริ่มที่แรกคือ
1.ศาลเจ้าจุนเสียงโจซือ
ศาลเจ้าขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกหัวเม็ด ใกล้สะพานหัน ถนนจักรวรรดิ โครงสร้างอาคารร้อยกว่าปี สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยชาวจีนฮกเกี้ยน โดดเด่นด้วยศิลปะฉบับจีนฮกเกี้ยนผสมผสานแต้จิ๋ว ตัวผังศาลเจ้ามีลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า (ผังกง)
ภายในประดิษฐานเทพประธานหลี่ตงปิน (จุนเสียงโจซือ) แกะสลักด้วยไม้ เป็นเทพองค์ที่ 3 ใน 8 เซียน ตระกูลโป๊ยเซียน ตามประวัติเป็นเทพที่มีความรู้ความสามารถมากในสมัยราชวงศ์ถัง คู่กายพร้อมด้วยอาวุธกระบี่วิเศษคู่ มือจรดพู่กัน สัญลักษณ์แห่งการศึกษาเล่าเรียน
นอกจากนี้ภายในยังมีเทพเจ้าลีเซียงซือกง องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม รวมถึงเครื่องสังเค็ดในงานพระบรมศพของรัชกาลที่ 5 กระถางธูปพระราชทานสลักพระปรมาภิไธย จปร. เบื้องหน้าเทพประทานของศาลแห่งนี้ด้วย
เคล็ดลับการขอพร : ความสำเร็จด้านการงาน การศึกษา
2.ศาลเจ้ากวนอู (คลองสาน)
เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 ในสมัยก่อนบริเวณนี้เป็นแหล่งเทียบท่าของเรือสำเภาจีนในสมัยนั้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของศาลเจ้าพ่อกวนอู
ภายในศาลมีการประดิษฐานองค์ เทพเจ้ากวนอู ด้วยกันทั้งหมด 3 องค์ ที่มีขนาดแตกต่างกันไปคือ องค์เล็ก องค์กลาง และองค์ใหญ่ ในช่วงแรกมีชาวฮกเกี้ยนได้อัญเชิญรูปปั้นเทพเจ้ากวนอูองค์เล็กสุดเข้ามาประทับในเก๋งจีนนี้ เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้ บูชาขอพร
เคล็ดลับการขอพร : ขอพรเกี่ยวกับการงาน การประกอบกิจการ ให้มีความก้าวหน้า
3.โรงเจเตียชูหั่ง (โรงเจบุญสมาคม)
โรงเจแห่งแรกในย่านสัมพันธวงศ์ และเก่าแก่ที่สุดในย่านเยาวราช เป็นโรงเจที่ได้รับพระราชทานป้ายชื่อจากรัชกาลที่5 จากชื่อเดิม โรงเจตรอกไกร (ตามชื่อซอย) เป็นชื่อ โรงเจบุญสมาคม สร้างโดยพ่อค้าและคหบดีชาวจีนสมัยรัชกาลที่ 5 ใช้เป็นพื้นที่ประกอบอาหารเลี้ยงและบริจาคทานแก่ประชาชน ต่อมาได้บูรณะอาคารใหม่ทับโรงเจเดิม
จากข้อสันนิษฐานด้านวิชาการ สถาปัตยกรรมโรงเจแห่งนี้ออกแบบด้วยฝีมือช่างชาวจีนถ่ายทอดเอกลักษณ์งานศิลปะจีนฮกเกี้ยนที่เน้นลวดลายเส้นโค้ง ตกแต่งด้วยงานแกะสลักซับซ้อนรูปสัตว์ ผลไม้มงคล และเสาแกะสลักมังกร นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งด้วยเทคนิค “เชี่ยนฉือ” คือการตัดกระเบื้องเป็นชิ้นเล็ก มาประกอบกันเป็นเรื่องราวต่างๆ ละเอียดงดงามมากถือเป็นไฮไลต์ของโรงเจแห่งนี้
ด้านในสุดประดิษฐาน องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม(องค์กลาง) และขุนพล 9 องค์ (กิ่วอ๊วง) ซึ่งเป็นเทพที่คอยดูแลคุณงามความดี บันทึกความดีถือเเผ่นไม้ ในกรอบไม้แกะสลักภาพวรรณกรรมจีนสามก๊ก กรอบเถาองุ่น สะท้อนการเข้ามาของศิลปะตะวันตก ด้านซ้ายและขวาของอาคาร ปรากฎประตูแปดเหลี่ยม สถานที่เก็บแผ่นป้ายสถิตดวงวิญญาณของบรรพบุรุษชาวจีนผู้มีคุณูปการต่อโรงเจหรือผู้ยากไร้
4.ศาลเจ้าอาเนี้ย
ศาลเจ้าในตรอกย่านสำเพ็ง ถนนทรงวาด ศูนย์รวมจิตใจและมีความสำคัญในแง่มุมประวัติศาสตร์ชุมชนครั้งท่าน้ำราชวงศ์เป็นท่าเรือขนส่งสินค้าที่สำคัญของกรุงเทพฯ ย่านนี้มีจึงมีผู้คนอยู่อย่างหนาแน่นและมีบ้านเรือนสร้างด้วยไม้อยู่ติดกันจำนวนมาก ทำให้เกิดเพลิงไหม้อยู่บ่อยครั้ง ชาวจีนในแถบนี้จึงร่วมกันสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้น
ด้านในประดิษฐาน องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางประทานพรบนแท่นดอกบัว หรือ “อาเนี้ย” ซึ่งเป็นภาษาจีนแต้จิ๋วที่นิยมใช้เรียกเจ้าแม่กวนอิม ช่วยปัดเป่าภัยพิบัติ ปกป้องคุ้มครองชุมชน
และที่เป็นข้อสังเกตของศาลเจ้าแห่งนี้ ชาวบ้านแก้เคล็ดด้วยการนำผ้าแดงมาพันกระถางธูปไว้ เปลี่ยนด้านหน้าเป็นด้านหลัง ให้ด้านหน้ากระถางธูปหันหน้าไปทางชุมชนเพื่อให้องค์เจ้าแม่กวนอิมปกป้องชุมชนจากเหตุเพลิงไหม้หรือภัยพิบัติต่างๆ นั่นเอง
5.วัดกุศลสมาคร
วัดญวนแบบอนัมนิกาย บนถนนราชวงศ์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพ่อค้าเชื้อสายญวน และได้รับชื่อพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีน
ภายในอุโบสถก่ออิฐถือปูนประดับลายปูนปั้นรูปมังกรดั้นเมฆ ประดิษฐานประธานองค์เดียว พระศรีศากยมุนีปางสมาธิ พระพักตร์อวบอิ่ม พร้อมด้วยพระอัครสาวกซ้าย-ขวา แบบมหายานด้านขวาของอุโบสถเป็นเจดีย์หกชั้น สร้างโดยพระยาโชฎึกราชเศรษฐี
6. ศาลเจ้ากว๋องสิว หรือ ศาลเจ้ากวางตุ้ง
สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยสมาคมกว๋องสิว สมาคมชาวจีนกวางตุ้ง ได้รวมเงินกันซื้อที่ดินบนถนนเจริญกรุง ในปี พ.ศ.2420 เริ่มจากการสร้างเป็นศูนย์กลางการติดต่อสื่อสารของชาวจีนในย่านนี้และต่อมาสร้างศาลเจ้าตามความเชื่อนิกายมหายาน
ตกแต่งด้วยวัสดุจากเมืองจีน โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมอาคารแบบสามเรือนล้อมลาน หรือ “ซาน เห่อ ย่วน” และไฮไลต์สำคัญได้แก่ ตัวอักษรคำว่า “ฟู่” แปลว่า โชควาสนา ล้อมด้วยค้างคาว 4 ตัวบนบานประตู เปรียบเสมือนคำอวยพรแก่ผู้เข้ามาสักการะในศาลแห่งนี้
ภายในประดิษฐาน ซำป้อหุกโจ้ว และองค์พระแม่กวนอิมปางประธานพร ก่อนพระประธานพระอวโลกิเตศวร พระพุทธเจ้า 3พระองค์ตามความเชื่อจีนโบราณ เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย เทพเจ้าเสือ จี้กง กวนอู โลวป๊าน เหล่าจื้อ ให้ผู้ศรัทธาเข้ามาไหว้ขอพร เสริมสิริมงคล ไม่เพียงเท่านั้น ศาลกว๋องสิวแห่งนี้ยังได้รับขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานอีกด้วย
7.ศาลเจ้าฉื่อปุยเนียเนี้ย
ศาลเจ้าเล็กๆ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 บนถนนพาดสาย แต่เดิมบริเวณนี้เป็นแหล่งเสื่อมโทรม รกร้าง เป็นกองขยะมาก่อน เล่ากันว่ามีการอัญเชิญองค์เจ้าแม่กวนอิมขึ้นเกี้ยวมาจากเมืองจีนเพื่อไปขึ้นประดิษฐานที่ใดที่หนึ่ง ขบวนอัญเชิญได้เดินทางผ่านถนนเส้นนี้ แต่เกี้ยวมีน้ำหนักมาก ยกต่อไม่ไหว ต้องมาพักอยู่ที่กองขยะบริเวณนี้
เชื่อว่าองค์เจ้าแม่กวนอิมต้องการประดิษฐานอยู่บริเวณนี้ จึงมีการพัฒนาปรับภูมิทัศน์และสร้างศาลเจ้าขึ้นด้วยอิทธิพลของศิลปะจีนแต้จิ๋วยุคปลายราชวงศ์ชิง ศิลปะของสถาปัตยกรรมไม่หวือหวาหรือมีลวดลายมากนัก
องค์เจ้าแม่กวนอิมในศาลเจ้าแห่งนี้มีขนาดเล็ก สลักจากไม้ มีใบหน้ากลมเอิบอิ่ม ยื่นหน้าออกมามององค์สักการะ ชาวจีนเชื่อว่าเมื่อได้เข้ามากราบองค์เจ้าแม่กวนอิมนี้เหมือนได้ชำระจิตใจที่ยุ่งเหยิงเหมือนกองขยะให้สงบและสะอาดขึ้น ด้านขวามีไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าโชคลาภ 2 องค์ ได้แก่ องค์ศิลปะแบบจีน และองค์ศิลปะแบบทิเบต ใบหน้าดุดัน อุดมสมบูรณ์ หาชมได้ยากมีอายุต้นแบบมากกว่า 1,300 ปี
เคล็ดลับการขอพร : ความสำเร็จด้านธุรกิจ การงาน
8.ศาลเจ้าเซียงกง
ศาลเจ้าคุณทวดเทวดา ศาลเก่าแก่ของชาวจีนฮกเกี้ยนที่สร้างขึ้นในราวรัชกาลที่ 3 ซึ่งคำว่า “เซียงกง” หลายคนได้ยินแล้วคงนึกถึงย่านอะไหล่รถมือสองในแถบเยาวราช แต่จริงๆ แล้ว “เซียงกง” หมายถึง ทวดเทวดา เป็นเทพเจ้าประจำท้องถิ่นที่คอยปกป้องดูแลทุกข์สุขของประชาชน ให้อยู่เย็นเป็นสุข
เคล็ดลับการขอพร : ป้องคุ้มครองอำนวยพรให้ปลอดภัย มีโชคลาภ
9.ศาลเจ้าหลี่ตี่เมี่ยว
ศาลเจ้าแห่งสุดท้ายนี้ ตั้งอยู่ใกล้แยกแปลงนาม ถนนพลับพลาชัย เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ทรงอาคารสมัยปลายรัชกาลที่ 5 สร้างแบบผสมผสานระหว่างศาลเจ้าและพระราชวัง มีบันไดสูงขึ้นสู่ตัวอาคารด้านบน
ภายในมีองค์เทพหลีไทตี้ เป็นเทพประธานดูแลความเป็นอยู่ทุกข์สุขให้แก่ผู้คน นิยมมาไหว้ขอความรัก คู่ครองที่ดี การครองรักที่มีความสุข และสำหรับผู้ที่มีคู่ครองแล้ว นิยมมาไหว้ขอบุตรสืบสกุล
และมุมซ้ายภายในศาลเจ้า มีมุมเสี่ยงเซียมซียา แก่ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพสามารถมาเสี่ยงทายเซียมซี แบ่งเป็นกระบอกเซียมซียาสตรียาบุรุษ ยากุมาร โดยแนะนำให้อธิษฐานจิตแก่เทพประธาน ตั้งสมาธิและเสี่ยงเซียมซี เมื่อได้หมายเลขและใบเซียมซี ก็นำใบเซียมซีนั้นไปให้หมอยาที่ศาลเจ้าจัดยาสมุนไพรจีนเพื่อไปต้มรักษาอาการป่วย ตามความเชื่อของศาลแห่งนี้
เคล็ดลับการขอพร : ขอพรด้านความรัก การครองคู่ และบุตร
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline