ครั้งนี้ขอพาทุกคนมารู้จักกับเมนู “แกงสะนัด” สำรับโบราณอายุกว่า 100 ปี ที่หากินได้ยาก ปัจจุบันเหลือเพียงที่ “คุ้มเจ้าเมฆวดี” เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
“แกงสะนัด” สำรับโบราณจากคุ้มเจ้าหลวงเมืองน่าน ที่หาทานยากเนื่องจากประชาชนทั่วไปไม่รู้จัก โดยเอาผักพื้นบ้านที่ปลูกรอบบริเวณคุ้มจำนวนมาก นำมาปรุงเป็น แกงสะนัด มาจากคำว่า “ใส่หนัก” หรือใส่เยอะตามภาษาพื้นเมือง
โดยประวัติความเป็นมาของเมนูอาหารนี้คือ ในอดีตจะมีการแจกจ่ายเสบียงให้กับเจ้านายคุ้มต่างๆ ได้นำไปประกอบอาหาร ซึ่งในบางครั้งเสบียงที่ได้รับมายังคงเหลือเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการคิดค้นสูตรอาหารจากวัตถุดิบที่มีอยู่ด้วยการนำเอาพืชผักพื้นบ้านที่มีในบริเวณคุ้มมาเป็นส่วนประกอบ
ข้อมูลจากคุ้มเจ้าเมฆวดีได้กล่าวถึง “แกงสะนัด” ไว้ว่า เป็นอาหารโบราณที่มีอายุกว่า 200 ปี ในอดีตจะมีเฉพาะในวังเท่านั้น ทำให้ชื่ออาหารชนิดนี้ไม่เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป โดยประวัติความเป็นมาของเมนูอาหารนี้คือ ในอดีตจะมีการแจกจ่ายเสบียงให้กับเจ้านายคุ้มต่างๆ ได้นำไปประกอบอาหาร ซึ่งในบางครั้งเสบียงที่ได้รับมายังคงเหลือเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการคิดค้นสูตรอาหารจากวัตถุดิบที่มีอยู่ด้วยการนำเอาพืชผักพื้นบ้านที่มีในบริเวณคุ้มมาเป็นส่วนประกอบในการทำอาหาร จึงทำให้ “แกงสะนัด” เป็นอาหารถิ่นโบราณที่หาทานได้ยาก ปัจจุบันเหลือเพียงที่ “คุ้มเจ้าเมฆวดี” เพียงแห่งเดียว ผู้สืบทอดเมนูโบราณนี้คือ ทายาทรุ่นที่ 4 ของเจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 64 (องค์สุดท้าย)
แกงชนิดนี้มีวัตถุดิบประมาณ 10 อย่างประกอบด้วย หมูสามชั้น ผักบุ้ง ใบส้มป่อย มะเขือเปาะ ตะไคร้ หน่อไม้ดอง หัวปลีทุบ น้ำปลาร้าต้มสุก กะปิ งาดำคั่ว เป็นต้น
ส่วนวิธีทำเริ่มจากต้มหมูสามชั้นให้เปื่อย แล้วใส่เครื่องแกง กะปิ ปลาร้า ปรุงรสด้วยเกลือ จากนั้นใส่ผักทุกอย่างลงไป ต้มจนเข้าที่ จากนั้นนำแกงมาคั่วในกระทะอีกครั้ง เพื่อให้น้ำแกงงวดเข้มข้น โรยด้วยงาคั่วและหอมเจียว ที่สำคัญแม่ครัวบอกว่าถ้าหากจะให้แกงนี้อร่อยเพิ่มมากขึ้นจะต้องกินในวันพรุ่งนี้ เพราะน้ำแกงจะมีความเข้มข้นเข้ากันมากยิ่งขึ้น สามารถนำมากินกับข้าวหรือข้าวเหนียวก็ได้
สำหรับใครที่อยากลิ้มรสแกงสะนัด ให้ติดต่อได้ที่ คุ้มเจ้าเมฆวดี โทร. 08-4046-6516
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline
