อช.ดอยขุนตาล เผยภาพการสำรวจกลุ่มเจดีย์ร้างตั้งอยู่อย่างลึกลับกลางผืนป่าขุนตาล บริเวณเส้นแบ่งเขตลำปาง-ลำพูน ด้านชาวเน็นหนุนพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล เผยภาพสุดอันซีนของกลุ่มเจดีย์ที่ตั้งอยู่อย่างลึกลับกลางผืนป่า โดยอช.ขุนตาล ได้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวผ่าน เพจ อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล - Doi Khun Tan National Park ดังนี้
ระหว่างวันที่ 1-3 ธันวาคม 2565
เจ้าหน้าที่สายตรวจส่วนกลาง อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ได้นำพระสงฆ์ จากวัดห้วยเรียน
เข้าสำรวจโบราณสถาน องค์เจดีย์ธาตุ บริเวณสันเขาแบ่งเขตระหว่าง ต.บ้านเอื้อม อ.เมือง จ.ลำปาง และ ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน (ขุนน้ำแม่ต๋ำหลวง ถึง ขุนน้ำแม่ต๋ำน้อย)
จากการสำรวจพบมีองค์เจดีย์ธาตุ ตั้งอยู่ทั้งหมด 9 องค์ ตลอดแนวสันเขา ซึ่งมีสภาพสมบูรณ์ 2 องค์ ที่เหลือบางองค์มีสภาพผุพังจนไม่เห็นเป็นองค์เจดีย์ แต่ยังคงเห็นร่องรอยของฐานองค์เจดีย์อยู่
ทั้งนี้หลังภาพและข้อมูลเจดีย์ร้างกลางป่าขุนตาลถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้ามาโพสต์ “สาธุ” เป็นจำนวนมาก ขณะที่ชาวเน็ตส่วนหนึ่งได้เสนอแนะให้กรมศิลปากรมาสำรวจ ไขปริศนา หาข้อสันนิษฐาน ที่มาที่ไปในการก่อสร้างเจดีย์กลุ่มนี้ และพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่สำหรับผู้ที่รักการเดินป่า
สำหรับ “อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล” มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และอำเภอห้างฉัตร อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง สภาพพื้นที่เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เงียบสงบ
นอกจากนี้ อช.ดอยขุนตาลยังมี ไฮไลท์และสัญลักษณ์คือ "อุโมงค์ขุนตาน” อดีตอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างโดยชาวเยอรมัน มีเนื้อที่ประมาณ 159,556.25 ไร่ หรือ 255.29 ตารางกิโลเมตร มีความยาว 1,352.10 เมตร โดยตั้งอยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ระหว่าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง กับ อ.แม่ทา จ.ลำพูน
โดยหากได้แวะลงมาเที่ยวชมที่สถานีแห่งนี้ ก็จะได้มากราบไหว้ศาลเจ้าพ่อขุนตาน ชมสถูปกระดูกของมิสเตอร์อีมิลล์ ไอเซ่นโฮเฟอร์ วิศวกรชาวเยอรมันผู้คุมงานก่อสร้างอุโมงค์ และได้ชมบรรยากาศของสถานีรถไฟเล็กๆ ที่น่ารักและเงียบสงบ อีกทั้งบริเวณปากอุโมงค์ทางด้านซ้ายมือยังมีทางเดินเท้าขึ้นเขาในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไปสู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลอีกด้วย
ภายในอุทยานฯขุนตาล ยังมี “น้ำตกตาดเหมย” อยู่ในท้องที่จังหวัดลำพูน เป็นน้ำตกขนาดเล็ก สูง 10 เมตร อยู่ระหว่างทางจาก ย.2 ไป ย.3 มีทางแยกด้านซ้ายมือไปยังตัวน้ำตกประมาณ 1,500 เมตร ต้องเดินลงไปในหุบเขาแม่ยอนหวายราว 300 เมตร และห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 3,000 เมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกด้วย