“เกาะนามิ” แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตตลอดกาลของประเทศเกาหลีใต้ เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ มีลักษณะเหมือนใบไม้ลอยน้ำ โดยอยู่ห่างจากกรุงโซลทางทิศตะวันออกระยะทางประมาณ 63 กิโลเมตร บนเกาะมีพื้นที่ราว 290 ไร่ และมีความยาวโดยรอบประมาณ 5 กิโลเมตร
เกาะนามิ ยังคงเป็นสวนที่บนเกาะยังบริสุทธิ์ กับทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล และล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำ ยังคงสภาพตามวิถีธรรมชาติ มีสัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่หลากหลาย เช่น กระต่าย นก นกกระจอกเทศ และกระรอก อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
ความเป็นมาของ “เกาะนามิ” ถูกเรียกชื่อตามสุสานของนายพลนามิ ซึ่งนายพลนามิเป็นที่รู้จักและถูกยกย่องว่าเป็นบุคคลที่มีความกล้าหาญจนได้รับตำแหน่งสูง อยู่มาวันหนึ่งนายพลนามิได้ถูกใส่ร้ายและถูกประหารชีวิตในวัย 26 ปี ซึ่งศพของนายพลนามิถูกฝังไว้บนเกาะ จึงเป็นที่มาของเกาะแห่งนี้
หากใครมาท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ประมาณกลางเดือนต.ค. - ต้นเดือนพ.ย.) ใบไม้ก็จะค่อยๆ เปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีส้ม สีแดง และสีเหลือง ทำให้เกาะนี้มีสีสันงดงาม จากนั้นใบไม้ได้ร่วงปกคลุมไปทั่วเกาะ พร้อมสายลมอันเย็นสบาย สำหรับบรรยากาศของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในปีนี้ร่วงใกล้จะหมดแล้ว คาดว่าจะหลงเหลือให้ชมอีกไม่นานนัก ถ้าใครอยากมาชมความงดงามสะพรั่งด้วยตัวเองก็ให้เดินทางมาชมในปีหน้า
ส่วนช่วงฤดูหนาวเกาะจะเต็มไปด้วยทิวทัศน์ของหิมะสีขาวโพลน ก็ถือเป็นอีกฤดูที่มีความงดงามไม้แพ้กัน ซึ่งบรรยากาศบนเกาะจะปกคลุมไปหิมะทั่วทั้งเกาะ สร้างบรรยากาศให้ดูโรแมนติก หรือถ้าใครมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน เกาะแห่งนี้ก็จะเป็นสถานที่ที่เหาะสำหรับมาปิกนิก ถ่ายรูปท่ามกลาง ป่าสน เขียวขจีที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้ที่มาเยือน ดูสดชื่นไปอีกแบบ
การท่องเที่ยวบนเกาะนามิ เราสามารถใช้เวลาได้ตั้งแต่ครึ่งวันไปจนถึง 1 วันเต็ม จะมานั่งเล่นชมวิว หรือถ่ายรูปเพลินๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้บริการอยู่หลายร้านด้วยกัน ใครชอบเมนูแบไหน สไตล์ไหนให้แวะเข้าไปลิ้มลองกันได้
สำหรับที่เที่ยวบนเกาะนามิที่น่าสนใจ เมื่อมาเยือนจะต้องไม่พลาด ได้แก่
“ต้นสนโบราณ” อีกหนึ่งจุดสำคัญบนเกาะนามิที่ใครพกกล้องมาต้องได้มาถ่ายรูป เพราะเป็นเส้นทางเดินที่เต็มไปด้วยต้นสนโบราณ ซึ่งจะเขียวชอุ่มเป็นพิเศษในช่วงฤดูร้อน พร้อมกับบรรดาดอกไม้ต่างๆ ที่กำลังแย่งกันผลิบาน รวมถึงดอกมูกุงฮวา ดอกไม้ประจำชาติของเกาหลีด้วยเช่นกัน
“อุโมงค์ต้นแปะก๊วย” อีกหนึ่งไฮไลต์ของเกาะนามิ ถนนที่ทอดยาวด้วยต้นแปะก๊วยสองข้างทาง เหมาะสำหรับการถ่ายรูป โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ใบแปะก๊วยจะเป็นสีเหลืองสะพรั่งไปตลอดเส้นทาง
“ถนนเมเปิ้ล” แลนด์มาร์กสุดโรแมนติก ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จุดนี้ก็ถือเป็นจุดชมวิวที่จะเห็นสีสันส้มแดงของใบเมเปิ้ลที่แต่งแต้มไปทั่วเกาะนามิ ให้เราได้ถ่ายรูปกันเพลิดเพลินไม่ว่างจะมุมไหนๆ ก็ดูสวยงามไปหมด
ใครที่เป็นสาวกซีรีส์ Winter Sonata ถ้ามาเยือนเกาะนามิแล้วก็ต้องห้ามพลาดการมาตามรอยหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำฉากสุดโรแมนติก ไปถ่ายรูปกับรูปปั้นเบ ยองจุน และชเว จีอู พระเอกและนางเอก ที่ตั้งอยู่บริเวณโซนร้านขายอาหาร จากนั้นแวะเยี่ยมชมสุสานนายพลนามิ ผู้เป็นที่มาของชื่อเกาะนามิ
นอกจากต้นไม้และธรรมชาติที่รายล้อมไปทั่วเกาะนามิแล้ว ยังมีจุดที่ให้ทุกคนได้สัมผัสกับนกกระจอกเทศสุดน่ารักที่ฟาร์มที่เหมือนสวนสัตว์ขนาดเล็กบนเกาะนามิ เป็นอีกหนึ่งจุดเที่ยวที่ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศ เหมาะกับคนรักสัตว์ หรือครอบครัวที่มีน้องๆ หนูๆ มาเที่ยวด้วย
การมาเยือนเกาะนามิในแต่ละช่วงฤดู ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป ทั้งสีสันบนใบไม้ที่มีการเปลี่ยนสี และธรรมชาติที่ผลิบานหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน หรือช่วงเวลาของการพักฟื้นที่ต้นไม้ผลัดใบและทั่วทั้งเกาะปกคลุมด้วยหิมะ ก็ยังเป็นบรรยากาศหน้าหนาวที่มีเสน่ห์ไปอีกแบบ
การเดินทางจากโซลมายังเกาะนามิ ให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Gapyeong จากนั้นก็ต่อรถบัสหรือนั่งรถแท็กซี่ไปลงที่ ท่าเรือเกาะนามิ เพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ (ค่าเช้าเกาะนามิ ราคา 16,000 วอน รวมค่าเรือเฟอร์รี่ไป-กลับแล้ว) โดยจะใช้เวลาประมาณ 5-7 นาทีในการข้ามฟาก
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline