กรมราชทัณฑ์ มอบตู้เก็บรักษา “ดาบของเพชฌฆาตดาบคนสุดท้ายและปืนประหารชีวิต” ณ พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่

ดาบของเพชฌฆาตดาบคนสุดท้ายของไทย พร้อมปืนประหารชีวิต ที่ปลิดชีพนักโทษประหารรวมกันมาแล้วกว่าร้อยศพ กำลังจะจัดแสดงให้เห็นภายในพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์แห่งใหม่ของกรมราชทัณฑ์ จังหวัดนนทบุรี ปลายปีนี้



เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.65) นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายบริหาร ได้มอบ“ตู้เก็บรักษาดาบ และปืนประหารชีวิตโบราณ ของ “นายเหรียญ เพิ่มกำลังเมือง" ซี่งเป็นเพชฌฆาตดาบคนสุดท้ายของประเทศไทย เพื่อเก็บรักษาไว้ ณ พิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์แห่งใหม่กรมราชทัณฑ์ จังหวัดนนทบุรี

สำหรับดาบประหารชีวิตนี้ ได้ผ่านการประหารชีวิต นักโทษมาแล้ว 53 ศพ และต่อมาได้เปลี่ยนการประหารชีวิตเป็นการประหารด้วยปืน เมื่อปี พ.ศ. 2477 โดยนายเหรียญ เพิ่มกำลังเมือง ยังคงรับหน้าที่เป็นเพชฌฆาตปืนต่ออีกระยะหนึ่ง (คนที่ 2 ต่อจาก จ่าสิบตำรวจทิพย์ มียศ) และได้ประหารชีวิตนักโทษอีก 47 ศพ




สำหรับปืนประหารชีวิต เป็นชนิดปืนแบล็คมันด์ ผลิตในประเทศเยอรมันและสเปน ปัจจุบันการประหารชีวิตทั้ง 2 วิธี ได้ถูกยกเลิกไปแล้วเมื่อ ปี พ.ศ.2546 เปลี่ยนเป็นการประหารชีวิตด้วยการฉีดสารพิษแทน

แต่ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานได้บอกเล่าเรื่องของการราชทัณฑ์ในอดีต ซึ่งสะท้อนให้เห็นวิวัฒนาการทางความคิดภูมิปัญญา ปรัชญาการลงทัณฑ์ในสมัยก่อนที่ว่า “การลงทัณฑ์รุนแรงถึงชีวิตนั้น เพื่อเป็นการป้องปราม และป้องกันให้คนหวาดกลัวไม่กล้ากระทำผิดความผิดกฎหมายบ้านเมือง มิให้มีการเอาเป็นเยี่ยงอย่าง...”


นายธวัชชัย กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์แห่งใหม่ มีกำหนดเปิดทำการจัดแสดงอีกครั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 หลังจากปิดตัวลงเมื่อ พ.ศ.2557 โดยใช้เวลากว่า 8 ปีเพื่อทำการย้ายที่ทำการเดิม จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเดิม (สวนรมนีนาถ) กรุงเทพฯ กลับมาจัดแสดงยังจุดเริ่มต้น ณ กรมราชทัณฑ์ จังหวัดนนทบุรี ภายใต้แนวคิด “การลงทัณฑ์...กับกาลเวลาที่เปลี่ยนผ่าน”

ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาสภาพวัตถุ เครื่องมือ อุปกรณ์จริง ซึ่งถือเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ในงานราชทัณฑ์ที่ทรงคุณค่า และจะหาจากที่ใดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ให้ถูกจัดเก็บรักษาไว้ในที่ที่เหมาะสมอย่างปลอดภัยเพื่ออนุรักษ์ให้กับข้าราชการ ประชาชนอนุชนคนรุ่นหลังได้เรียนรู้สืบสานต่อไป


#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline