xs
xsm
sm
md
lg

เดินเล่น “พิพิธบางลำพู” รู้จักอดีตสู่ปัจจุบันของย่านเก่าทรงเสน่ห์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พิพิธบางลำพู
ชวนไปทำความรู้จักกับย่าน “บางลำพู” ตั้งแต่ยุคอดีตสู่ปัจจุบัน ผ่าน “พิพิธบางลำพู” พิพิธภัณฑ์ที่ชวนมาสัมผัสเสน่ห์ของย่านเก่าแก่แห่งนี้ พร้อมๆ ไปกับการทำความรู้จักงานของ “กรมธนารักษ์”

พิพิธบางลำพู
หากว่าใครมาเดินเล่นในย่านบางลำพู แล้วตรงมาแถวๆ ป้อมพระสุเมรุ ก็จะเห็นอาคารสวยๆ ที่ตั้งอยู่ริมถนนพระสุเมรุ หน้าตาคล้ายกับอาคารเรียนหรือสถานที่ทำงานสักอย่าง ซึ่งที่นี่ก็คือ “พิพิธบางลำพู” พิพิธภัณฑ์ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของย่านบางลำพูแห่งนี้นี่เอง

อาคารสวยๆ หลังนี้ แต่เดิมเคยเป็น “โรงเรียนช่างพิมพ์วัดสังเวช” ตามหลักสูตรอาชีวศึกษาชั้นต้นสายการพิมพ์ ก่อนจะโอนโรงเรียนช่างพิมพ์ฯ มาเป็น “โรงพิมพ์คุรุสภา” รับจัดพิมพ์แบบเรียนและงานของข้าราชการ และเมื่อหมดสัญญาเช่า อาคารโรงพิมพ์คุรุสภาแห่งนี้จึงถูกทิ้งร้าง จนกรมธนารักษ์มีแผนจะรื้ออาคาร แต่ชาวชุมชนบางลำพูได้มองเห็นความสำคัญของตัวอาคารและประวัติศาสตร์ที่ไม่อยากให้เลือนหายไป จึงร่วมกันต่อสู้เพื่อคัดค้านการรื้ออาคาร เหตุการณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชาวบางลำพูรรวมตัวกันเป็นประชาคมบางลำพู ที่มีความเข้มแข็ง สามารถยับยั้งการรื้ออาคาร ทั้งยังช่วยกันผลักดันจนขึ้นทะเบียนอาคารโรงพิมพ์คุรุสภาแห่งนี้เป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากรในปี 2544 ได้อีกด้วย

ในวันนี้ นอกจากจะสามารถเก็บอาคารเก่าที่มีเรื่องราวให้คงอยู่ต่อไปได้แล้ว ยังจะมีผู้คนแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนอาคารเหล่านี้กันมากขึ้น เพราะทางกรมธนารักษ์ได้เปลี่ยนอาคารโรงพิมพ์คุรุสภาให้เป็น “พิพิธบางลำพู” ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้และเล่าเรื่องราวของชาวบางลำพู

เดิมคืออาคารโรงเรียนช่างพิมพ์วัดสังเวช
และก่อนจะเข้าไปชมภายในพิพิธภัณฑ์ ขอพาไปชมอาคารเก่าซึ่งเป็นอาคารดั้งเดิมของโรงพิมพ์คุรุสภากันก่อน อาคาร 2 หลังถูกปรับปรุงให้เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการ โดยอาคารด้านหน้าที่อยู่ติดกับถนนพระสุเมรุเป็นตึกปูนแบบบาวเฮาส์ หรือ International Style รูปทรงตัว L ที่เป็นฝีมือคนไทยหลังแรกๆ ส่วนอาคารที่อยู่ด้านหลังติดกับคลองบางลำพูเป็นอาคารไม้สองชั้น ซึ่งเดิมเคยใช้ประโยชน์เป็นสถานที่ฝึกสอนช่างพิมพ์แห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย

ที่นี่จะเปิดให้เข้าชมเป็นรอบๆ (มีรอบเข้าชมทุกครึ่งชั่วโมง) และมีเจ้าหน้าที่นำชมคอยบรรยายในส่วนต่างๆ และหลักๆ ก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ นิทรรศการกรมธนารักษ์ และ นิทรรศการชุมชนบางลำพู

ป้อมเขตขัณฑ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
โดยก่อนจะเข้าชมด้านบน ด้านล่างก็จะมีนิทรรศการ “ป้อมเขตขัณฑ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ที่ทำให้เห็นความเป็นมาของเมื่อแรกเริ่มสร้างกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี กลางห้องมีแนวกำแพงเก่าที่จำลองขึ้น ทำให้ทราบเรื่องราวของการสร้างกำแพงพระนครและเกร็ดความรู้เรื่องการหล่ออิฐด้วยเทคนิคช่างโบราณ มีคูเมืองรอบพระนคร และคลองสำคัญต่างๆ ในกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ทำให้เกิดย่านชุมชนย่านการค้าต่างๆ ขึ้น รวมถึงการเล่าเรื่องของป้อมพระสุเมรุ ที่อยู่คู่กับย่านบางลำพูแห่งนี้

ดูแลรักษาทรัพย์สินของแผ่นดิน หนึ่งในหน้าที่ของกรมธนารักษ์

จัดสรรดูแลที่ราชพัสดุ
เริ่มออกเดินชมนิทรรศการในส่วนแรก “กรมธนารักษ์” นิทรรศการถาวรเกี่ยวกับความเป็นมา และบทบาทหน้าที่ของกรมธนารักษ์ที่จะดูแลรักษาทรัพย์สินของแผ่นดิน ทั้งทรัพย์สินมีค่าที่สะท้อนวัฒนธรรมและประเพณีของชาติ ที่ดิน หรือเหรียญกษาปณ์ ได้เห็นขั้นตอนกว่าจะมาเป็นเหรียญกษาปณ์ใช้หมุนเวียนในท้องตลาดได้นั้นต้องผ่านกรรมวิธีอะไรบ้าง รวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดสรรดูแลที่ราชพัสดุอีกด้วย

เบาะแสจากริมคลอง
ย้ายมาส่วนที่สอง “นิทรรศการชุมชนบางลำพู” เริ่มต้นกับภาพยนตร์สั้นๆ “สีสันบางลำพู” บอกเล่าถึงบางลำพูที่คนทั่วไปรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นแหล่งของกินอร่อย สวนสาธารณะของชาวพระนคร รวมไปถึงแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน จากนั้นประตูอัตโนมัติจะเปิดออกไปสู่ห้อง “เบาะแสจากริมคลอง” กลับไปยังดงลำพูในอดีตผ่านภาพยนตร์ที่ฉายลงบนผนังและพื้นผิวน้ำที่จำลองเป็นคลองบางลำพู ให้เห็นผู้คนหลากเชื้อชาติที่อาศัยร่วมกันในย่านบางลำพู บอกเล่าประวัติศาสตร์ตั้งแต่การขุดคลองรอบกรุงเพื่อขยายอาณาเขตพระนคร ก่อเกิดชุมชนหลากเชื้อชาติและการคมนาคมริมน้ำ จนกระทั่งเข้าสู่สมัยรัชกาลที่ 5 เมื่ออารยธรรมตะวันตกเริ่มเข้ามา เกิดการสร้างถนน ผู้คนหันมาใช้การคมนาคมทางบก วิถีชีวิตของคนที่บางลำพูจึงเปลี่ยนไปตามยุคสมัย

รถรางสีเหลืองคันใหญ่ ณ พระนครเซ็นเตอร์

เด็กน้อยส่องดูลิเกหลังสังกะสี
เข้ามาสู่ห้องจัดแสดงถัดไป “พระนครเซ็นเตอร์” เข้ามาในห้องนี้จะเห็นรถรางสีเหลืองคันใหญ่จอดรอผู้โดยสาร ทั้งยังเห็นเด็กน้อยยืนส่องแอบดูอะไรสักอย่างผ่านรูรั้วสังกะสี จนต้องไปส่องดูบ้างจึงรู้ว่าหลังรั้วสังกะสีนี้มีลิเกกำลังแสดงอยู่นี่เอง เด็กๆ สมัยนั้นไม่มีสตางค์มากพอจะซื้อตั๋วไปดูลิเกข้างใน ขอดูผ่านรูแบบนี้ก็สนุกได้ตามประสาเด็ก

ทั้งรถรางและวิกลิเกล้วนเป็นตัวแทนของย่านบางลำพูในอดีต ซึ่งสมัยก่อนต้องถือว่าย่านนี้เป็นศูนย์รวมความเจริญทั้งหลาย มีจุดตัดรถรางอยู่ในบริเวณนี้ ทั้งยังเป็นแหล่งรวมมหรสพความบันเทิงที่เฟื่องฟูที่สุดในพระนคร มีทั้งโรงภาพยนตร์บุศยพรรณ โรงลิเกหอมหวน ห้าง ต.เง็กชวน ถนนสิบสามห้าง รวมไปถึงร้านรวงมีชื่อต่างๆ ถ้าจะเปรียบกับสมัยนี้ กล่าวได้ว่าบางลำพูเป็นเหมือนสยามเซ็นเตอร์ในสมัยนั้นก็ว่าได้

ร้านรวงในย่านลางลำพู

ย่ำตรอกบอกเรื่องเก่า
แต่การจะเข้าถึงในวิถีชีวิตความเป็นบางลำพูจริงๆ นั้นจะต้องเข้าไปสัมผัสในชุมชนจึงจะดีที่สุด ในห้องจัดแสดง “ย่ำตรอกบอกเรื่องเก่า” จะพาผู้เข้าชมได้ใกล้ชิดและซึมซับกับวิถีชุมชน รู้จักของดีย่านบางลำพูที่ซุกซ่อนอยู่ในตรอกซอกซอยต่างๆ ที่คนภายนอกอาจไม่เคยรู้ เช่น การปักชุดโขนของชุมชนตรอกเขียนนิวาส-ตรอกไก่แจ้ บ้านดุริยประณีตที่มีการสืบทอดการเรียนดนตรีไทยไว้จนปัจจุบัน เครื่องถมของชุมชนบ้านพานถม การตีทองคำเปลวและทำธงของชุมชนวัดบวรรังสี การแทงหยวกของชุมชนวัดใหม่อมตรส การทำข้าวต้มน้ำวุ้นและใบลานของชุมชนวัดสามพระยา

กิ่งลำพูจากต้นลำพูร้อยปีที่จำลองไว้
เมื่อพูดถึงบางลำพู หลายคนอาจจะนึกถึงต้นลำพูร้อยปีที่เคยอยู่ในสวนสันติชัยปราการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เก่าแก่และเป็นที่มาของชื่อบางลำพูที่เห็นได้ชัดเจน แม้ต้นลำพูร้อยปีจะตายเพราะน้ำท่วมและถูกตัดลำต้นทิ้งโดยที่คนในชุมชนบางลำพูไม่ทราบเรื่องเมื่อหลายปีก่อน แต่ในวันนี้ ต้นลำพูได้เกิดใหม่อยู่ภายในพิพิธบางลำพูแห่งนี้ ในห้องจัดแสดง “ถอดรหัสลับ ขุมทรัพย์บางลำพู” ซึ่งภายในจะมีต้นลำพูจำลองขนาดใหญ่ มีแสงสว่างวิบวับจากหิ่งห้อย และกิ่งหนึ่งของต้นลำพูจำลองนี้เป็นกิ่งต้นลำพูของจริงจากชิ้นส่วนของต้นลำพูร้อยปีที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้เป็นที่ระลึก

พระพุทธบางลำพูประชานาถ
มาปิดท้ายในที่ห้องจัดแสดงสุดท้าย “มิ่งขวัญบางลำพู” ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน "พระพุทธบางลำพูประชานาถ" ศูนย์รวมจิตใจที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ทรงประทานให้แก่ชาวบางลำพู เป็นพระพุทธรูปคันธาราฐ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระองค์ตำแหน่งที่พระอุระ โดยในทุกเทศกาลสงกรานต์ จะมีการอัญเชิญองค์พระจากพิพิธบางลำพูออกไปยังสวนสันติชัยปราการเพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย

เดินชมพิพิธบางลำพูกันเสร็จแล้ว ชวนเดินเล่นกันต่อในย่านบางลำพู ไปหาของกินอร่อยๆ เติมเต็มกระเพาะ ก่อนจะแวะไหว้พระที่วัดบวรนิเวศวิหาร และวัดชนะสงคราม หรือจะแวะนั่งชิลในคาเฟ่สวยๆ ริมน้ำ ก็เข้ากับวันพักผ่อนสบายๆ ไม่น้อย

พิพิธบางลำพู
* * * * * * * * * * * * * *

“พิพิธบางลำพู” ตั้งอยู่ที่ถนนพระสุเมรุ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. เปิดบริการวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. หยุดวันจันทร์ สอบถามโทร. 0-2281-9828 Facebook : พิพิธบางลำพู

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline




กำลังโหลดความคิดเห็น