“ภูเก็ตแฟนตาซี” ต่อยอดความสำเร็จ เปิดตัวโครงการ “คาร์นิวัลเมจิก” สวนสนุกยามค่ำคืนระดับโลกที่เน้นความเป็นไทย กับสถิติ 9 สิ่งที่สุดในโลก ปักหมุดเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของภูเก็ตรอต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก พร้อมเปิดเป็นทางการ 20 ก.ย. 65 นี้
นายกิตติกร คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ภูเก็ตแฟนตาซี จำกัด (มหาชน) และบริษัท คาร์นิวัลเมจิก จำกัด เปิดเผยว่า จากความสำเร็จ 22 ปีที่ผ่านมาของภูเก็ตแฟนตาซี ธีมปาร์กวัฒนธรรมระดับโลก ในปีนี้บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ โดยเปิดตัวโครงการ “คาร์นิวัลเมจิก – มหัศจรรย์อาณาจักรเมืองไฟ” (Carnival Magic - The Magical Kingdom of Lights) ธีมปาร์คคาร์นิวัลสไตล์ไทยที่แรกและที่เดียวในโลก ซึ่งเราวางเป้าหมายว่าคาร์นิวัลเมจิกจะเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกจะต้องเข้ามาเยี่ยมชมและได้รับประสบการณ์ประทับใจอย่างแน่นอน
คาร์นิวัลเมจิก เป็นสวนสนุกที่ชูเอกลักษณ์การจัดงานรื่นเริงสไตล์งานฟันแฟร์หรืองานวัดของไทย พร้อมสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ผสมผสานความสนุกสนานแบบไทย ๆ และการประดับประดาด้วยแสงไฟกว่า 40 ล้านดวงอันสวยงามตระการตา
คาร์นิวัลเมจิก ใช้งบลงทุนรวมกว่า 6,600 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่หาดกมลา จังหวัดภูเก็ต บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ใกล้กับภูเก็ตแฟนตาซี ภายในประกอบด้วย 4 โซนหลัก ได้แก่
-โซนที่ 1 “Carnival Fun Fair” เป็นโซนถนนชอปปิ้งที่ชวนเพลิดเพลินกับสินค้าต่าง ๆ ในร้านค้าที่ถูกออกแบบและตกแต่งอย่างงดงามน่าสนใจด้วยสีสันสดใสสไตล์คาร์นิวัลไม่เหมือนใคร
ที่โซนนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถสนุกสนานกับกิจกรรมและการแสดงตลอดทั้งคืน อาทิ การแสดงขบวนคาร์นิวัล ศูนย์เครื่องเล่น VR ลิ้มรสอาหารทานเล่นและของหวานอย่างจุใจ ถ่ายภาพกับมาสค็อต เกมการละเล่น และเครื่องเล่นต่าง ๆ อีกมากมาย
-โซนที่ 2 “Bird of Paradise” ภัตตาคารบุฟเฟต์ที่สามารถรองรับลูกค้าได้มากกว่า 3,000 ที่นั่ง มีอาหารให้เลือก มากกว่า 100 เมนู ในบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยรูปปั้นนกยูงยักษ์ที่ยิ่งใหญ่ โดยมีห้องโถงรับประทานอาหารที่หรูหราสวยงาม
นอกจากนี้ในอนาคตคาร์นิวัลเมจิก จะเปิด “River of Bliss Luxury Restaurant” เป็นภัตตาคารหรู ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทศกาลงานลอยกระทง ภายในให้บริการอาหารแบบเซตเมนูที่ลูกค้าเลือกเองได้ ในบรรยากาศที่ตกแต่งด้วยกระทงที่สวยงาม พร้อมตื่นเต้นกับไฮไลต์ของภัตตาคารแห่งนี้ คือ ลูกค้าที่จะมารับประทานอาหารที่ภัตตาคารแห่งนี้จะต้องเดินมาตรงกลางของ “น้ำตกแห่งความสุข” (Happiness Falls) เพื่อขึ้น “เรือแห่งความสุขสำราญ” (Barge of Happiness) ซึ่งเรือจะลอยขึ้นเหนือจากพื้นประมาณ 7 เมตร เพื่อเข้าสู่บริเวณภายในภัตตาคาร
-โซนที่ 3คือ “River Palace” เป็นโรงละครขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว่า 16,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 10 ไร่ เป็นหนึ่งในโรงละครขนาดใหญ่ของบ้านเรา สามารถรองรับผู้ชมได้มากกว่า 2,200 ที่นั่ง มีเวทีการแสดงกว้าง 22 เมตร และยาว 70 เมตร พร้อมการแสดงในรูปแบบขบวนพาเหรดอินดอร์ ในชื่อ “River Carnival”
River Carnival เป็นการแสดงพาเหรดที่ผสมผสานศิลปะไทยและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าด้วยกัน มีความยาวประมาณ 50 นาที ในการแสดงจะมีรถขบวนแห่พาเหรดขนาดใหญ่มากกว่า 88 ลำ ประดับประดาไปด้วยแสงไฟหลายล้านดวงที่สวยงามตระการตา และมีเทคโนโลยีเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ที่ทันสมัยตื่นตาตื่นใจ นำโดย ไฮไลท์ คือ ขบวนรถพาเหรดที่ยาวที่สุดในโลก ที่ยาว 70 เมตร หรือยาวเกือบเท่ากับเครื่องบินจัมโบ้ A380
-โซนที่ 4 “Kingdom of Lights” เป็นเมืองที่แบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ที่มีไฟประดับประดาสวยงามมากกว่า 40 ล้านดวง ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเที่ยวชมและสัมผัสกับแสงไฟ ที่สวยงามเหนือจินตนาการ สนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจตลอดเวลา
ไฮไลต์ของเมืองไฟคือโซน “River of Lights” ที่มีการนำดวงไฟหลายล้านดวงมาประดับบนโครงเหล็กดัดลวดลายสวยงาม (Luminaries) ที่มีความยาวรวมถึง 50 กิโลเมตร เป็นรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยล้อมรอบทะเลสาบ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านสะพานเข้ามาในโซนนี้เพื่อชมความอลังการของดวงไฟหลายสิบล้านดวงแบบพาโนรามารอบทิศทาง
สำหรับอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของโครงการคาร์นิวัลเมจิก แลนด์มาร์กใหม่แห่งไข่มุกอันดามันในวันนี้ก็คือ ที่นี่เป็นสวนสนุกที่มี “9 สิ่งที่สุดในโลก” จาก Guinness World Records ได้แก่
1.รถพาเหรดที่ยาวที่สุดในโลก
2.การแสดงแสงสีเสียงที่ใช้ไฟ LED มากที่สุดในโลก
3.รูปปั้นไฟ LED ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
4.โครงสร้างไฟ LED ใหญ่ที่สุดในโลก
5.ตู้ป๊อปคอร์น (Popcorn machine) ใหญ่ที่สุดในโลก
6.โคมระย้า (Chandelier) ใหญ่ที่สุดในโลก
7.รูปปั้นเปเปอร์มาเช่ (Paper-mache) ใหญ่ที่สุดในโลก
8.กรอบเวที (Proscenium) สูงที่สุดในโลก
9.รถตู้ที่ติดไฟLEDมากที่สุดในโลก
และนี่ก็คือเสน่ห์สีสันของแลนด์มาร์กใหม่แห่งภูเก็ต เมืองไข่มุกอันดามัน ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2565 เพื่อต้อนรับฤดูท่องเที่ยวปลายปี โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการประมาณ 2 ล้านคน