“หอชมเมืองสมุทรปราการ” จากอดีตคุกสู่แลนด์มาร์กชมวิวปากแม่น้ำเจ้าพระยารอบทิศ หนึ่งเดียวในไทย

สิ้นสุดการรอคอย สำหรับ “อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ” อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองปากน้ำ ซึ่งวันนี้เปิดให้ผู้สนใจเข้าเที่ยวชมฟรีไปจนถึง 31 ต.ค. 65 ภายในหอชมวิวนอกจากจะสามารถชมวิวอันสวยงามของปากแม่น้ำเจ้าพระยาในแบบพาโนรามา 360 องศาแล้ว ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการ “ร้อยเป็นเรื่องเมืองปากน้ำ” กับ 6 โซนไฮไลท์น่าตื่นตาตื่นใจ ที่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม

หลังจากดำเนินการสร้างมานานร่วม 10 ปี ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้จัดพิธีเปิด “อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ” อย่างเป็นทางการ โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ, นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติต่าง ๆ


อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ ตั้งอยู่บนถนนอมรเดช ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พื้นที่อุทยานฯ แห่งนี้ เดิมเคยเป็นสถานที่ตั้ง “เรือนจำกลางสมุทรปราการ” ซึ่งเรือนจำกลางดังกล่าวได้ย้ายออกไปตั้งอยู่ที่ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พ.ศ.2544

โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ (อบจ. สมุทรปราการ) และเทศบาลนครสมุทรปราการ ที่ร่วมกันออกแบบโครงการไว้ตั้งแต่ปี 2542 ก่อนเริ่มก่อสร้างบวงสรวงลงเสาเอกเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555 โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 593,733,000 บาท ซึ่งวันนี้เป็นเวลากว่า 10 ปีที่โครงการดังกล่าวได้ฤกษ์เปิดให้ผู้สนใจได้ใช้บริการ


“นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย” นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า โครงการอุทยานการเรียนรู้และ
หอชมเมืองสมุทรปราการ สร้างขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์ เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์เหตุการณ์สำคัญในประเทศไทยของเมืองหน้าด่านที่ขนานนามว่า “เมืองปากน้ำ” บอกเล่าความเป็นมาผ่านนิทรรศการชุด “ร้อยเป็นเรื่องเมืองปากน้ำ” ที่แบ่งเป็น 6 โซน นำเสนอเรื่องราวทั้งการเป็นเมืองอุตสาหกรรม และวิถีชุมชนทุกยุคทุกสมัย ผสานนวัตกรรมอันทันสมัย อีกทั้งยังมีนิทรรศการรวบรวมความผูกพันของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่ออาณาประชาราษฎร์ที่เกิดขึ้น ณ สมุทรปราการ

“อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ มีขนาดพื้นที่ 13,584.70 ตารางเมตร อาคารหอชมเมืองสมุทรปราการ มีความสูงกว่า 179.55 เมตร สร้างเป็นอาคารฐานทรงกลม 2 ชั้น แกนกลางมีลักษณะเป็นแท่งแปดเหลี่ยม สูงขึ้นไปเป็นหอคอยทรงกระบอก ด้านบน (ชั้น 23) มีส่วนห้องกระจกใสทรงกลม เป็นจุดชมวิวปากแม่น้ำเจ้าพระยาอันงดงาม ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพเมืองสมุทรปราการแบบ 360 องศา แห่งเดียวในประเทศไทย โดยมีการออกแบบพื้นที่ภายใต้หลักการอารยสถาปัตย์ (Universal Design) เพื่อให้สามารถรองรับผู้มาเยี่ยมเยือนได้ทุกกลุ่มวัย” นางสาวนันทิดา กล่าว


นอกจากจะเป็นจุดชมวิวปากแม่น้ำเจ้าพระยาอันสวยงามแล้ว อุทยานฯแห่งนี้ยังมีการจัด นิทรรศการชุด “ร้อยเป็นเรื่องเมืองปากน้ำ” นำเสนอเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต และเรื่องราวของจังหวัดสมุทรปราการ ที่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม โดยนิทรรศการดังกล่าวแบ่งเป็น 6 โซน ได้แก่


1.ปากน้ำเมื่อนานมา ชวนสัมผัสความรุ่งโรจน์ในอดีตของเมืองปราการ ที่ยังคงบทบาทของความเป็นเมืองหน้าด่านยาวนานสืบมาจวบจนปัจจุบัน แม้จะมีบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันไปตามยุคสมัย แต่เมืองปากน้ำแห่งนี้ก็ยังคงไว้ซึ่งหัวใจหลักของความเป็นเมืองหน้าด่านของผืนแผ่นดินไทย


2.เข้าท่าเมืองหน้าด่าน นำเสนอบรรยากาศความรุ่งเรืองย่านคลังสินค้านิวอัมสเตอร์ดัมของชาวฮอลันดา บริเวณปากคลองบางปลากด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเป็นเมืองท่าการค้าสมัยอยุธยา ผ่านเทคนิคการจัดแสดง Light & sound Mechanic Diorama และ Projection Mapping กว่า 7 เมตร ยาวที่สุดในประเทศไทย


3.ปรากฏเป็นปราการ สัมผัสบรรยากาศของกำแพงป้อมปราการ เมืองปราการแห่งใหม่ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะเมืองหน้าด่านเพื่อป้องกันอริราชศัตรูโดยรอบ จนเป็นที่มาของการสำรวจพื้นที่เพื่อสร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์ และเมืองสมุทรปราการ ผ่านเทคนิคฉาย Invisible Fortress อันตระการตา และร่วมสัมผัสกับบรรยากาศวิถีชีวิตของผู้คน มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรมประเพณี นำไปสู่การหลอมรวมเป็นเมืองปราการที่เข้มแข็ง

นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย ที่เผยให้เห็นองค์พระสมุทรเจดีย์เดิม ที่ซ่อนอยู่ภายในพระสมุทรเจดีย์องค์ปัจจุบัน ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน


4.ปราการป้องแผ่นดิน Movable Floor พาไปสัมผัสประสบการณ์การต่อสู้กับเรือรบฝรั่งเศส ที่บุกเข้าประชิดสยามในสมัยรัตนโกสินทร์ จนเกิดเป็นวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 ผ่านเทคนิคการจัดแสดงจำลองบรรยากาศการรบเสมือนจริง ด้วยจอ 18 Double High Screen พร้อม Mechanic ปืนเสือหมอบ ที่จำลองมาจากปืนกระบอกจริงในป้อมพระจุลจอมเกล้า

เหตุการณ์ครั้งนั้นได้นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ก่อเกิดสาธารณูปโภคด้านต่าง ๆ รวมถึงด้านการคมนาคม เช่น รถไฟสายปากน้ำ ทางรถไฟสายแรกของประเทศ อันเป็นจุดเปลี่ยนสู่ความเป็นหน้าด่านทางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของไทย


5.หน้าด่านสานเศรษฐกิจ นำเสนอเรื่องราวก้าวสำคัญของสมุทรปราการสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีความเข้มแข็ง ถ่ายทอดผ่านการฉายภาพยนตร์เรื่องราวการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาคเกษตรกรรมที่มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว ภาคการท่องเที่ยวที่มีทั้งอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม

นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องราวของภาคการจัดการพื้นที่สีเขียวที่ดี ผ่านจอภาพ “ดอกโพทะเล” ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดสมุทรปราการ เพลิดเพลินไปกับ Interactive Game สวมบทบาทเป็นส่วนหนึ่งในกลไกสำคัญทางเศรษฐกิจของเมืองสมุทรปราการ ผ่านตู้เกมขนส่งสินค้า

อีกทั้งยังมีเกมสายพานกระจายสินค้า และ Future Logistics Lab แสดงโครงข่ายระบบการขนส่งทางบก น้ำ อากาศ การขนส่งสินค้าที่ช่วยยกระดับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผ่าน LED Wall 360° และ Projection Mapping ที่แสดงให้เห็นเส้นทางการขนส่งที่สำคัญ และครอบคลุมที่สุดเท่าที่เคยมีมา


6.มอง (กาล) ไกลไปด่านหน้า สำรวจผังเมืองสมุทรปราการที่มีความสมบูรณ์ขนาดใหญ่กว่า 20 ตร.ม. ด้วยเทคนิคแสง สี เสียง และจอ LED ขนาดยักษ์ ผ่านกระเช้าลอยฟ้า หรือทางเดินกระจกแก้ว เพื่อก้าวไปสู่อนาคตด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดของสมุทรปราการ ประตูด่านแรกที่เชื่อมต่อทุกพื้นที่บนโลก

และนี่ก็คือเสน่ห์สีสันของ “อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ” ที่โครงการนี้ใช้เวลาดำเนินสร้างกว่า 10 ปี จึงแล้วเสร็จและเปิดให้บริการ ซึ่งวันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองปากน้ำ และแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อันโดดเด่นของเมืองไทย


########################


รายละเอียดการให้บริการ :

-อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ เปิดให้บริการวันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 10:00 – 17:00 น.

-เปิดให้เข้าชมจำนวน 16 รอบต่อวัน เริ่มรอบแรกเวลา 10.00 น. รอบถัดไปทุก ๆ 20 นาที รอบสุดท้ายเวลา 15:00 น. ระยะเวลาในการเข้าชม 2 ชม. ต่อรอบ(จำกัดผู้เข้าชมรอบละ 30 ท่าน)

-ส่วนนิทรรศการทั้ง 6 โซน นำชมโดยเจ้าหน้าที่นำชม และจุดชมวิว Panorama 360 องศา สามารถรับชมได้อิสระ ภายหลังการรับชมส่วนนิทรรศการเสร็จสิ้น

-อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 60 บาท / เด็ก 40 บาท พิเศษ สำหรับช่วงเปิดตัว นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ - 31 ตุลาคม 2565

-สามารถจองรอบการเข้าชมผ่าน QR Code ที่แสดงไว้ด้านล่าง โดยจะได้รับการยืนยันทางอีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้ พร้อมทั้งแสดงหลักฐานการจองในวันที่เข้าชม