xs
xsm
sm
md
lg

ททท.ชี้เปิด ผับ-บาร์ ถึงตี 4 เน้นเมืองท่องเที่ยวหลัก หวังดันศก.ไทยพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ททท.ชี้แจงขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 เฉพาะแหล่งท่องเที่ยวหลัก สอดคล้องพฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจยามราตรี

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังจากกรณีที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) พิจารณาขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. เฉพาะบางพื้นที่ ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากในเมืองท่องเที่ยวหลัก อาทิ กรุงเทพฯ พัทยา กระบี่ ภูเก็ต หัวหิน สมุย และเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ซึ่งเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น โดยเน้นย้ำว่า เป็นเรื่องของการขยายเวลาเศรษฐกิจภาคกลางคืน เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ได้ส่งเสริมให้เกิดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่มองว่าเป็นเรื่องการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นมากกว่า

แฟ้มภาพ
สำหรับการขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิงขึ้นอยู่กับกฎหมายเป็นหลัก ซึ่งตามที่รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เสนอไปนั้น เป็นเพราะบางประเทศกว่าจะเริ่มทานมื้อค่ำก็ประมาณ 21.00-22.00 น. จากนั้นประมาณ 24.00 น. เป็นต้นไป ก็อยากจะไปท่องเที่ยวต่อ ทำให้หากมีระยะเวลาการใช้จ่ายนานขึ้น ทำให้ช่วยจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่งผลต่อเม็ดเงินที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ไม่ได้เป็นการสนับสนุนให้ดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด



แฟ้มภาพ
ทั้งนี้ จากเดิมแนวคิดการขยายเวลาเปิดให้บริการสถานบันเทิงถึง 04.00 น. จากเดิมเปิดได้ถึง 02.00 น. เป็นเรื่องเดิมก่อนที่จะเกิดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ลงพื้นที่ถนนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยา และได้รับการสนับสนุนแนวคิดนี้จากผู้ประกอบการในพื้นที่เป็นอย่างดี โดยเรื่องนี้อาจต้องมีการทำระบบโซนนิ่ง หรือการกำหนดพื้นที่เพื่อควบคุม ก่อนที่จะประเมินภาพจากนั้นว่า เมื่อมีการขยายเวลาเศรษฐกิจภาคกลางคืนแล้ว จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจมากน้อยเท่าใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เรากำลังฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศอยู่ตอนนี้

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น