สิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ต้องยกตำแหน่งให้กับ “Taipei 101” อาคาร 101 ชั้น ที่มีความสูงถึง 508 เมตร ซึ่งเมื่อวานนี้ (3 ส.ค. 65) ก็กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เมื่อตึกมีการแสดงแสงไฟข้อความต้อนรับการมาเยือนของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาฯ ของสหรัฐอเมริกา
Travel 360 ชวนคุณมาทำความรู้จักแลนด์มาร์กที่ดังที่สุดของไต้หวันให้มากขึ้น
ตึกไทเป 101 (Taipei 101) เป็นสัญลักษณ์แทนภาพของไต้หวันมาเกือบสองทศวรรษ ด้วยความยิ่งใหญ่ที่ครองสถิติโลกเมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2004 ด้วยความสูงของตึกที่ 508 เมตร และมีจำนวน 101 ชั้น ทำให้ตึกแห่งนี้ครองแชมป์เป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกช่วงระหว่างปี 2004-2010 ก่อนที่ตึกเบิร์จคาลิฟาแห่งดูไบจะแซงไป
แต่เดิมตึกมีชื่อว่า Taipei World Financial Center ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น Taipei 101 ตึกแห่งนี้แสดงให้เห็นถึงโครงการด้านวิศวกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของธุรกิจก่อสร้างของไต้หวัน ใช้งบประมาณการก่อสร้างประมาณ 1,895 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้รับการสนับสนุนจากธุรกิจในประเทศหลายสิบแห่ง มีผู้เชี่ยวชาญระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติที่ดูแลด้านการวางแผน และสถาปนิกระดับโลก
การออกแบบอยู่บนพื้นฐานของตัวเลขจีน (เลข 8) ซึ่งเป็นตัวเลขนำโชคในวัฒนธรรมจีน อาคารนี้เป็นภาพสะท้อนของปรัชญาการก่อสร้างแบบโบราณ สร้างเอียงเข้าด้านใน 7 องศา โครงสร้างจะใหญ่ขึ้นเมื่อสูงขึ้น ผนังม่านโปร่งแสงและไม่สะท้อนแสงช่วยประหยัดพลังงานและสะท้อนความร้อน ช่วยให้ผู้ที่อยู่ในอาคารที่สูงที่สุดของไต้หวันมองเห็นบรรยากาศรอบตัวได้อย่างชัดเจน
นอกจากความสูง สวยแปลกตาในด้านสถาปัตยกรรมแล้ว ยังมีการนำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นลูกตุ้มยักษ์ที่ถูกแขวนอยู่ระหว่างชั้นที่ 87-92 ภายในตึก เพื่อเป็นตัวต้านแรงสั่นสะเทือนที่อาจเกิดจากพายุไต้ฝุ่นหรือแผ่นดินไหว หรือระบบลิฟต์ความเร็วสูงที่ใช้เวลาเพียง 37 วินาทีจากชั้น 1 ไปยังชั้น 89 ซึ่งเป็นชั้นสำหรับชมวิว
ภายในตึกเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจการเงิน และยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของไต้หวันที่มีสินค้าหรูหรา แฟชั่น ภัตตาคาร ร้านอาหารรสเลิศ ผับบาร์ ตึกยังเป็นแลนด์มาร์กสำคัญสำหรับการจัดแสดงพลุไฟเพื่อเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่
ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.taipei-101.com.tw/en
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline