ประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำ “คลองลาดชะโด” ศรัทธาอันงดงามบนสายน้ำอยุธยา

งดงามเต็มผืนน้ำอีกครั้งในวันอาสาฬหบูชา ที่ผ่านมา (13 ก.ค. 2565) สำหรับ “ประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำที่ลาดชะโด” ณ คลองลาดชะโด อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในปี 2565 นี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11



วันสำคัญทางพุทธศาสนาอย่างวันอาสาฬหบูชา ชุมชนริมน้ำคลองลาดชะโด ในอำเภอผักไห่ เต็มไปด้วยความคึกคักเป็นพิเศษ คลาคล่ำไปด้วยชาวท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวที่มาพร้อมหน้ากันริมสองฝั่งคลอง เพื่อร่วมเทศกาลงานบุญครั้งใหญ่ประจำปี คือ “ประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำ” ซึ่งในปีนี้มีเรือจำนวนถึง 128 ลำ




คลองลาดชะโด และการตั้งถิ่นฐาน
ประเพณีงานบุญใหญ่ประจำปีเกิดขึ้นจากชาวลาดชะโด ที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับสายน้ำ แต่เดิมคลองแห่งนี้ชื่อคลองบางคลี่ แต่ชาวบ้านมักเรียกว่า คลองลาดชะโด เพราะเรียกตามปลาชะโดที่มีชุกชุมในลำคลอง

สำหรับการตั้งถิ่นฐานของชุมชนบ้านลาดชะโดถูกสันนิษฐานกันว่าน่าจะมีมาตั้งแต่หลังกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงให้แก่พม่าเมื่อปี พ.ศ. 2310 โดยเป็นคนไทยเชื้อสายมอญ




ประเพณีงดงามหาชมได้ยาก
คลองลาดชะโด เป็นสายน้ำที่ไหลผ่านหน้าบ้านเรือนแทบทุกหลัง ในสมัยโบราณชาวบ้านใช้แม่น้ำ คู คลอง เป็นเส้นทางหลักในการคมนาคม เช่น การพายเรือไปทำบุญทุกวันพระ และวันสำคัญทางพุทธศาสนา ซึ่งจะเห็นได้จากบ้านหลายหลังมีเรืออยู่ใต้ถุนบ้าน จึงเป็นที่มาของการแห่เทียนพรรษาทางน้ำของชาวลาดชะโด ที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในประเทศไทย

โดยชาวบ้านลาดชะโด นำเรือมาตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติสวยงามด้วยดอกไม้หลากสี ผัก ผลไม้ หรือเครื่องมือทำมาหากินของชาวบ้านอย่างที่จับปลา ประดับประดาไว้อย่างสวยงาม พร้อมกับเทียนพรรษาที่จะนำไปถวายวัดถือได้ว่าการจัดประเพณีแห่เทียนทางน้ำที่สวยงามและหาชมได้ยากในปัจจุบัน






เส้นทางที่ใช้แห่เทียนพรรษาทางน้ำนั้น มีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ผ่านชุมชนริมสองฝั่งคลอง ผ่านสะพานที่ 3 สะพานที่ 2 และสะพานที่ 1 ซึ่งเป็นไฮไลท์ จากนั้นเรือทุกลำจะไปจอดหน้าโรงเรียนวัดลาดชะโด เพื่อนำเทียนไปถวายวัดดุสิตราชมัจฉา (วัดลาดชะโด)

ตลอดเส้นทางของขบวนเรือลำเล็กลำน้อยจะล่องผ่านบ้านเรือนที่อยู่บนฝั่งทั้งสองข้างทาง ตลาดริมน้ำ ได้เห็นเครื่องมือยกยอ วิถีชีวิต ธรรมชาติของชาวบ้านลาดชะโด






ตลาดเก่าย้อนยุค
อีกหนึ่งจุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด หากมีโอกาสได้มาเยือน คือ ตลาดลาดชะโด เป็นตลาดเก่าแก่กว่าร้อยปี เพราะในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายทางน้ำและจุดแวะพักเรือที่สำคัญแห่งหนึ่งของการเดินทางทางน้ำในลุ่มน้ำภาคกลาง

ตลาดได้พัฒนามาจากเรือนแพค้าขายของชาวจีนที่ตั้งอยู่สองฝั่งคลองในรูปแบบตลาดน้ำ ต่อมาได้สร้างเป็นตลาดไม้ริมฝั่งคลอง มีชุมชน ร้านค้าที่ให้บรรยากาศย้อนยุคเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบวันวาน





#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline