เมื่อหลายๆ เมืองในโลกนี้กำลังมีปัญหาแผ่นดินทรุดครั้งใหญ่ น้ำทะเลก็มีระดับสูงขึ้น หนึ่งในทางแก้ไขก็คือการสร้าง “เมืองลอยน้ำ” ขึ้นมาเสียเลย พาไปรู้จักกับ 2 เมืองลอยน้ำ “Oceanix City” แห่งปูซาน เกาหลีใต้ และ “Maldives Floating City” แห่งมัลดีฟส์ ที่กำลังจะเข้าไปอาศัยอยู่ได้ในอนาคตอันใกล้นี้
เมื่อสภาพภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมภายในโลกใบนี้ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตัวกระตุ้นที่ดูจะมีอิทธิพลอย่างมากก็คือภาวะโลกร้อน ที่หลายๆ ฝ่ายมีความกังวลต่อผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้น รวมไปถึงร่วมมือกันหาทางชะลอและแก้ไขปัญหา
หนึ่งในผลกระทบจากภาวะโลกร้อนก็คือ เมืองต่างๆ มีโอกาสจมลงใต้น้ำในอนาคต ซึ่งการจมลงของพื้นดินนั้นยังมีที่มาจากระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น องค์ประกอบและความหนาแน่นของดินในแต่ละพื้นที่ รวมไปถึงแผ่นดินทรุดจากการสูบน้ำบาดาลและการขุดเจาะปิโตรเลียม
และเมื่อแผ่นดินกำลังจะทรุดตัวลงไปใต้น้ำ (โดยเฉพาะหลายๆ เมืองใหญ่ในโลก รวมไปถึงกรุงเทพมหานครอันเป็นที่รักของเราด้วย) ประชากรโลกจะไปอาศัยอยู่ที่ไหน ในเมื่อแผ่นดินที่อยู่อาศัยหดหายไป ก็เลยมีการระดมสมองหาทางออกของปัญหานี้ ด้วยการสร้าง “เมืองลอยน้ำ” ขึ้นมา
แนวคิด “เมืองลอยน้ำ” นั้นมีคนพูดถึงมาตั้งแต่สิบกว่าปีก่อน แต่ในตอนนั้นอาจจะฟังดูคล้ายกับเรื่องราวในภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ และดูเหมือนจะเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน แต่เมื่อมาถึงในราวๆ ปี 2019 เรื่องของเมืองลอยน้ำก็ดูคล้ายว่าจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
เมื่อ UN-Habitat หน่วยงานเพื่อการพัฒนาเมืองและถิ่นที่อยู่อาศัยแห่งสหประชาชาติ ซึ่งทำงานด้านการพัฒนาเมืองแบบยั่งยืน ร่วมมือกับบริษัทเอกชน Oceanix , สถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology--MIT) และ The Explorers Club ซึ่งเป็นสมาคมวิชาชีพที่สนับสนุนการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ทั่วโลก เพื่อผลักดันแนวคิดนี้
โดยสองเมืองลอยน้ำที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้นี้ ได้แก่ “Oceanix City” แห่งปูซาน เกาหลีใต้ และ “Maldives Floating City” แห่งมัลดีฟส์
“Oceanix City” เมืองลอยน้ำแห่งปูซาน
รัฐบาลท้องถิ่นปูซาน ได้เปิดเผยข้อมูลการก่อสร้างเมืองลอยน้ำ ที่จะเริ่มลงมือสร้างในปี 2022 โดยมีจุดประสงค์ให้เมืองลอยน้ำแห่งนี้เป็นชุมชนที่สามารถอยู่อาศัยได้จริงบนมหาสมุทร ไม่ต่างจากการอาศัยอยู่บนแผ่นดินแบบทั่วไป เพื่อตอบโจทย์เมืองชายฝั่งทั่วโลกที่กำลังจะจมน้ำ
โครงการ “Oceanix City” เกิดจากความร่วมมือของทีมนักออกแบบ สถาปนิก และวิศวกรชั้นแนวหน้าจากหลากหลายชาติ ที่ร่วมมือกันสร้างเมืองที่ไม่มีวันจม ตั้งแต่ปี 2019 ก็มีการมองหาพื้นที่ก่อสร้าง และวิเคราห์ความเป็นไปได้ต่างๆ จนในช่วงปลายปี 2021 รัฐบาลท้องถิ่นปูซานได้บรรลุข้อตกลงกับ UN-Habitat ในการสร้างเมืองลอยน้ำต้นแบบที่ชายฝั่งของเมืองปูซาน
ปัจจุบัน การดำเนินงานของโครงการนี้อยู่ในช่วงที่มีการสร้างตัวโครงสร้างลอยน้ำในโรงงานไว้แล้ว และพร้อมนำไปติดตั้งไว้บนพื้นผิวมหาสมุทรนอกชายฝั่งของปูซานตามที่กำหนดไว้ โดยตัวแพลตฟอร์มจะปรับระดับขึ้นลงตามระดับน้ำทะเล และแพลตฟอร์มหนึ่งจะมีขนาด 5 เอเคอร์ (ราว 12 ไร่) สามารถสร้างบ้านให้ผู้คนอยู่อาศัยได้ 300 คน และความสูงของอาคารสูงสุดที่ 7 ชั้น
ตามเป้าหมาย เมืองลอยน้ำแห่งนี้จะสามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ราวๆ 10,000 คน ภายในเมืองจะมีสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเหมือนกับเมืองใหญ่ๆ ทั่วไปอย่างครบครัน มีร้านอาหารไปจนถึงฟาร์ม และยังมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับชาวเมืองด้วย
แม้ว่าแต่ละแพลตฟอร์มจะมีขนาดพื้นที่จำกัด แต่ก็มีการออกแบบให้แพลตฟอร์มสามารถเชื่อมโยงโครงสร้างระหว่างกันได้ กลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ผ่านการเชื่อมต่อด้วยทางเดินและเส้นทางปั่นจักรยาน และนี่ทำให้ชุมชนขนาดเล็กบนแพลตฟอร์ม สามารถขยายเป็นหมู่บ้าน กระทั่งกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ได้ในอนาคต
นอกจากจะถูกออกแบบให้เป็นเมืองลอยน้ำเพื่อแก้ปัญหาแผ่นดินทรุดแล้ว “Oceanix City” ยังถูกออกแบบให้เป็นเมืองไร้ขยะอย่างแท้จริง โดยมีการผลิตอาหารและพลังงานได้เองในเมือง มีการเพาะปลูกเพื่อชุมชน มีฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำของตัวเอง ผลิตน้ำจืดได้เอง มีโรงเก็บน้ำฝน และโรงงานบำบัดน้ำเสียของตัวเอง และสร้างระบบจัดการขยะและของเสียแบบเสร็จสรรพ
ทั้งนี้ “Oceanix City” มีเป้าหมายว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้ผู้คนได้เข้าอยู่อาศัยในปี 2025 โดยคาดหวังว่าเมืองลอยน้ำแห่งนี้จะกลายเป็นเมืองที่อยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
“Maldives Floating City” เมืองลอยน้ำแห่งมัลดีฟส์
เมืองลอยน้ำแห่งที่สองของโลกที่กำลังเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาก็คือ “Maldives Floating City” เมืองลอยน้ำแห่งมัลดีฟส์ ที่ได้รับการอนุมัติจาก UN-Habitat เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งแน่นอนว่าเมืองลอยน้ำแห่งนี้ก็มีเป้าหมายที่จะแก้ไขปัญหาแผ่นดินจมน้ำ เพราะพื้นที่ 80% ของมัลดีฟ์ อยู่เหนือระดับน้ำทะเลน้อยกว่า 1 เมตร ดังนั้น อาจจะเสี่ยงต่อการจมอยู่ใต้น้ำ ภายในสิ้นศตวรรษนี้
“Maldives Floating City” จะก่อสร้างขึ้นกลางมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากมาเล่ (Male) เมืองหลวงของมัลดีฟส์เพียง 10 นาที ตัวโครงการถูกออกแบบโดยบริษัท วอเตอร์สตูดิโอดอตเอ็นแอล (Waterstudio.NL) บริษัทสถาปนิกจากเนเธอร์แลนด์ ร่วมกับ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ดัชต์ ด็อกแลนด์ (Dutch Docklands) และรัฐบาลของสาธารณรัฐมัลดีฟส์
โครงการเมืองลอยน้ำแห่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากปะการังสมอง หรือ Brain Coral โดยจะรองรับผู้คนได้มากถึง 20,000 คน ด้านในมีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 5,000 ยูนิต แต่ละยูนิตเชื่อมต่อกันจนมีรูปร่างคล้ายกับปะการังสมอง ล้อมรอบด้วยแนวเกาะคล้ายวงแหวนเพื่อป้องกันเมืองจากคลื่นทะเล ในเมืองจะมีบ้าน ร้านอาหาร ร้านค้า โรงแรม และโรงเรียน ส่วนการเดินทางในเมือง ผู้อยู่อาศัยสามารถเดิน ปั่นจักรยาน หรือขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า หรือขับรถบักกี้ไปตามถนน รวมถึงสามารถใช้บริการเรือที่กระจายอยู่ทั่วเมือง เพื่อช่วยให้เดินทางข้ามไปยังจุดต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
รัฐบาลมัลดีฟส์คาดว่าจะเริ่มย้ายผู้คนไปอยู่อาศัยได้ในปี 2024 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2027 โดยโครงการเมืองลอยน้ำของมัลดีฟส์ถือว่าเป็นโครงการใหญ่ของประเทศในแถบเอเชียใต้
นอกจากทั้งสองเมืองลอยน้ำที่กำลังจะเป็นจริงในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว ทีมงานที่ร่วมมือกันก่อตั้งโครงการเมืองลอยน้ำ ยังมีการเจรจากับรัฐบาลอีกหลายแห่ง เพื่อทดลองติดตั้งและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเมืองลอยน้ำแบบนี้
ทั้งหมดนี้ เกิดจากการพยายามหาทางรอดให้มนุษยชาติ ที่จะสามารถอยู่ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมในโลกได้ในอนาคต
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline