กลับมาอีกครั้งสำหรับ พิธีบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราชที่เมืองนครพนม ซึ่งปีนี้จัดยิ่งใหญ่ ถือฤกษ์ดี วันที่ 7 เดือน 7 พร้อมนางรำกว่าพันคน
หลังจากงานใหญ่ประจำปีของจังหวัดนครพนมอย่างกิจกรรม บวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ไม่ได้จัดงานใหญ่เหมือนหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปีนี้ จังหวัดนครพนม เตรียมจัดงานบวงสรวงฯ อีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่
นายชนาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัด เปิดเผยว่า จังหวัดเตรียมจัดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช นครพนม กำหนดปีนี้ วันที่7 เดือน 7 รวม 7 วัน 7 คืน ระหว่างวันที่ 7-13 กรกฎาคม 2565 นี้ ณ ลานพญาศรีสัตตนาคราช ริมฝั่งแม่น้ำโขง เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยในงานมีกิจกรรมขบวนแห่ และพิธีบวงสรวงพร้อมนางรำกว่า1,000 คน จากทั้ง 12 อำเภอหมุนเวียนในแต่ละวัน
ทั้งนี้ การรำบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช จะมีจำนวนนางรำ 500 คนต่อวัน โดยจัดนางรำจากอำเภอต่างๆไม่ต่ำกว่า 150 คน/วัน นางรำจากชุมชนในเขตเทศบาลเมืองนครพนม 150 คน/วัน นางรำจากส่วนราชการ/ภาคเอกชน จำนวน 150 คน/วัน นางรำจากคณะครูโรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองนครพนม 50 คน/วัน และมีคณะนางรำจากกลุ่มนักท่องเที่ยว ททท.สำนักงานนครพนม จำนวน 400 คน (เฉพาะวันที่ 7 กรกฏาคม 2565)
นอกจากนี้ ปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีผู้แทนจาก สปป.ลาว มาเข้าร่วมพิธีอย่างเป็นทางการด้วย
สำหรับกิจกรรมอื่นๆภายในงานตลอด 7 วัน ยังมีการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรม ณ ลานพนมนาคา การจัดตั้งโรงทาน จากผู้มีจิตกุศลศรัทธา การจัดจำหน่วยผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP และการออกร้านค้า สินค้าราคาประหยัด ธงฟ้า การจำหน่ายสินค้าถนนคนเดินและคาราวานสินค้าราคาถูก บริเวณหน้าวัดโพธิ์ศรี และพิธีเทวาภิเษกวัตถุมงคล
สำหรับ "พญาศรีสัตตนาคราช" นครพนม เป็นองค์พญานาค 7 เศียร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งชาวนครพนมเปรียบเป็นสัญลักษณ์นำสู่ความเจริญรุ่งเรือง มีเกียรติยศ ชื่อเสียง ประกาศศักดิ์ศรีบารมีให้แก่เมืองนครพนมให้ลือเลื่องชื่อขจรขจาย สร้างด้วยทองเหลืองทั้งองค์ สูง 10.90 เมตร น้ำหนักรวม 9 ตัน ถือว่าเป็นพญานาคองค์เดียวในโลกที่ไม่เหมือนที่ใด เพราะที่พระศอมีสร้อยสังวาลย์ที่นำเอาสัญลักษณ์เหนือซุ้มประตูองค์พระธาตุพนมมาสวมคล้องไว้ แสดงถึงองค์พญานาคที่มีความผูกพัน เชื่อมโยง พิทักษ์ ปกปักรักษาองค์พระธาตุพนมตามตำนานที่กล่าวขานสืบมานานชั่วอสงไขย
ที่ผ่านมา จังหวัดได้จัดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ในวันที่ 7 เดือน 7 ตลอด 7 วัน 7 คืน บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline