xs
xsm
sm
md
lg

ดารุมะ (Daruma) ตุ๊กตาอ้วนกลม เครื่องรางมงคลของชาวญี่ปุ่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตอนนี้กระแสของ “ดารุมะ” ไหนๆ ก็คงไม่ดังเท่า “ร้านดารุมะ ซูชิ” ที่ส่อเค้าจะมีการเทลูกค้าด้วยการปิดร้านหนี โดยร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้ ใช้โลโก้ร้านเป็นรูป “ตุ๊กตาดารุมะ” สีแดง

ชวนคุณมาทำความรู้จักที่มาและความหมายจริงๆของตุ๊กตาดารุมะกันดีกว่า (ส่วนใครซื้อคูปอง ดารุมะ ซูชิ ไปแล้ว แนะนำให้หา ตุ๊กตาดารุมะ ขอพรไล่ความซวยโดยด่วน)


หนึ่งในสิ่งที่คุ้นตาเมื่อไปเยือนประเทศญี่ปุ่น คือ “ตุ๊กตาดารุมะ" (Daruma) ตุ๊กตาไม้ทรงอ้วนกลม ซึ่งส่วนใหญ่มักมีสีแดง แต่ก็มีสีสันอื่นๆอีกมากมาย มีตั้งแต่ขนาดเล็กประมาณไข่ไก่ซึ่งเป็นขนาดยอดนิยม ไปจนถึงขนาดยักษ์ ซึ่งตุ๊กตานี้ไม่ได้เป็นเครื่องประดับเพื่อความสวยงาม แต่เป็นเครื่องรางมงคลตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น มีที่มาน่าสนใจ และยังมีความหมายแตกต่างกันไปในแต่ละสี

ที่มาของตุ๊กตาดารุมะ
มาจาก “Bodhidharma” หรือ พระโพธิธรรม ซึ่งชาวญี่ปุ่นมักเรียกท่านว่า ดารุมะ หรือ ดารุมะ ไดชิ ท่านเป็นพระภิกษุอินเดียในพุทธศตวรรษที่ 5-6 ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ก่อตั้งพุทธศาสนานิกายเซน และการทำสมาธิแบบนั่งที่เรียกว่าซาเซ็น (Zazen)

ตำนานเล่าว่า พระโพธิธรรมบำเพ็ญเพียรสมาธิลึกเป็นเวลายาวนานถึง 9 ปี โดยลืมตามองผนังที่ว่างเปล่า และหลับตาลงเพียงครั้งเดียว ท่านโกรธตัวเองที่ทำลายความอุตสาหะจนตัดเปลือกตาของตัวเองออก นอกจากสูญเสียเปลือกตาไปแล้ว แขนและขาของพระโพธิธรรมก็ลีบไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกหลายปี คงไว้แต่จิตวิญญาณที่ปราศจากความกลัวใดๆ ตุ๊กตาดารุมะ จึงเป็นตุ๊กตาที่มีดวงตาเปิดกว้างและรูปร่างที่ไร้แขนขา สื่อแทนพระโพธิธรรมตามตำนานที่เล่าขานกันมา

ภาพเขียนโดย Yoshitoshi, 1887
กำเนิดตุ๊กตาดารุมะ
จากตำนานพระโพธิธรรม ว่ากันว่าราวศตวรรษที่ 17 ชาวนาในเมืองทาคาซากิ (Takasaki) จังหวัดกุมมะ (Gunma) ได้ทำรูปปั้นรุ่นแรก เพื่อเป็นเครื่องรางขอพร โดยเชื่อว่าตุ๊กตาจะนำมาซึ่งผลผลิตที่ดี และการขายตุ๊กตาเหล่านี้ก็เป็นช่องทางหนึ่งในการหารายได้เสริมในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำ แล้วอีกไม่กี่สิบปีหลังจากนั้น วัฒนธรรมความเชื่อเรื่องตุ๊กตาดารุมะขอพรเพื่อความโชคดี ก็ได้แผ่ขยายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น

ตุ๊กตาดารุมะ มีลักษณะด้านในกลวง ทรงกลม วาดมีหนวดเครา ซึ่งจำลองตามตำนานพระโพธิธรรม โดยแรกเริ่มนั้นเป็นสีแดง (ตามสีจีวรของพระโพธิธรรม) อีกด้านหนึ่งก็เพราะความเชื่อเรื่องสีแดงขับไล่ภูตผีปีศาจ รวมถึงโรคร้ายต่างๆ แต่ปัจจุบันมีหลายสีสันตามความเชื่อ

ผลงานแกะสลักไม้โดย Utagawa Kuniyoshi ,1852
สำหรับรูปทรงโค้งมนของตุ๊กตาดารุมะแสดงถึงรูปร่างไร้แขนขาของโพธิธรรมตามตำนาน แต่ก็มีความหมายแฝงไว้มากกว่านั้น เพราะเป็นลักษณะของตุ๊กตาล้มลุก ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจถึงความเพียร ไม่ว่าเราจะล้มลงกี่ครั้ง ก็ควรลุกขึ้นใหม่ได้เสมอ

มีรายละเอียดสำคัญของการวาดใบหน้าตุ๊กตา คือ คิ้ววาดเป็นรูปนกกระเรียน ส่วนเคราวาดให้ดูคล้ายเต่า ทั้งนี้สัตว์ทั้งสองชนิดนี้เป็นสัตว์มงคลสื่อแทนการมีอายุยืนยาว ซึ่งแนวคิดดังกล่าวมาจากสุภาษิตญี่ปุ่นที่ว่า “นกกระเรียนอายุ 1,000 ปี เต่าอายุ 10,000 ปี”

 อีกจุดเด่นอย่างหนึ่ง คือ ตุ๊กตาดารุมะ ไม่มีดวงตา เป็นพื้นที่สีขาวเว้นไว้ สำหรับธรรมเนียมการขอพร 



ธรรมเนียมการขอพรและการบูชา
ตุ๊กตาดารุมะไม่มีลูกตาดำ เป็นธรรมเนียมให้ผู้ซื้อขอพรแล้วแต้มสีดำลงไปข้างซ้ายของตุ๊กตาก่อน เมื่อคำอธิษฐานที่ตั้งใจไว้สมหวัง จึงค่อยแต้มดวงตาสีดำข้างขวาลงไป นัยเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ จากนั้นก็นำไปประดับบูชาในตำแหน่งที่เหมาะสม เก็บไว้เป็นเครื่องรางสิ่งมงคล

อย่างไรก็ตาม ตุ๊กตาดารุมะ มีธรรมเนียมความเชื่อแตกต่างจากพระพุทธรูปที่เรามักเก็บบูชาไปตลอด เพราะเมื่อครบ 1 ปีแล้ว ไม่ว่าคำอธิษฐานจะสมปรารถนาหรือไม่ก็ตาม ผู้ซื้อจะนำตุ๊กตาไปคืนที่วัดหรือศาลเจ้า หรือนำไปเผาตามเทศกาลประจำปีที่จัดขึ้น แม้แต่การส่งให้ไปรษณีย์ที่มีบริการจัดการให้ โดยไม่ควรทิ้งถังขยะ




สีและความหมาย
ยุคแรกตุ๊กตามีแค่สีแดง แต่จากนั้นสีสันต่างๆก็มีมากขึ้น แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาคและมีความหมายตามความเชื่อที่ต่างกันอีกด้วย

สีแดง: สีมงคลสำหรับชาวญี่ปุ่น สื่อแทนความโชคดีและความสำเร็จรุ่งเรือง รวมทั้งความปลอดภัยให้ครอบครัว
สีขาว: ตัวแทนของด้านวิชาการ การศึกษาความรู้
สีเหลืองหรือสีทอง: ความสำเร็จด้านการแข่งขัน มีชื่อเสียง ทรัพย์สินและความร่ำรวย
สีดำ: การป้องกันความโชคร้าย ขับไล่ภัยพิบัติ ความสมบูรณ์ของพืชพันธุ์
สีส้ม: ความสมหวังความโชคดีของกิจการ ร้านค้า


สีน้ำเงิน: ความสำเร็จในหน้าที่การทำงาน การสมัครงาน
สีเขียว: สุขภาพดี หายเจ็บป่วย การออกกำลังกายและกีฬา
สีม่วง: อายุยืนยาวสุขภาพดี
สีชมพู: ความรัก มิตรภาพ การแต่งงาน
สีเงิน: สถานะทางสังคม บุคลิกภาพ ความขยันมุ่งมั่น พัฒนาตนเอง

ทุกวันนี้ ชาวญี่ปุ่นมักซื้อตุ๊กตาดารุมะในช่วงต้นปีใหม่ ด้วยความเชื่อว่าตุ๊กตาเหล่านี้จะช่วยให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปในญี่ปุ่น บางครั้งก็เป็นของที่ระลึกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ที่เชื่อว่าจะนำความโชคดีกลับไป

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline




กำลังโหลดความคิดเห็น