หากใครได้ไปดูภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปีอย่าง “จูราสสิค เวิลด์ : ทวงคืนอาณาจักร” ที่ในเรื่องมีฉาก “ไดโนเสาร์” ให้ได้ตื่นตาตื่นใจกันมากมาย แล้วนึกอยากจะมาสัมผัสเรื่องราวของไดโนเสาร์กันบ้าง ในบ้านเราก็มีหลายจุดให้ได้ตามรอยกัน เตรียมปักหมุดมาย้อนเวลาโลกล้านปีกันได้เลย
สำหรับ “Jurassic World: Dominion” ที่มีชื่อไทยว่า จูราสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร เป็นภาคบทสรุปปิดตำนานไดโนเสาร์ที่ทุกคนรอคอย ซึ่งมีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 8 มิถุนายน นี้แล้วนั่นเอง
ในประเทศไทยเราก็เคยมีการขุดค้นพบซากฟอสซิลและรอยตีนไดโนเสาร์อยู่หลายแห่งเช่นกัน และยังมีหลายสถานที่ที่นำรูปปั้นไดโนเสาร์เสมือนจริงมาจัดแสดงให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ ครั้งนี้จึงได้รวบรวม “5 จุดชมไดโนเสาร์” ที่เป็นไฮไลต์ชวนตื่นตาให้ได้ย้อนเวลาไปสัมผัสประสบการณ์เหมือนในจูราสสิค เวิลด์ เรียกน้ำย่อยก่อนไปชมของจริงกัน
สวนนงนุช พัทยา จ.ชลบุรี
เริ่มที่ “สวนนงนุช พัทยา” สวนสวยติด 1 ใน 10 ของโลก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่ภายในมีโซนต่างๆ ให้เดินถ่ายรูปมากมาย หนึ่งในนั้นคือโซน “หุบเขาไดโนเสาร์” ที่เป็นโซนไฮไลต์คู่กับสวนนงนุชแห่งนี้
โดยโซนหุบเขาไดโนเสาร์ เพิ่งสร้างในปี พ.ศ.2560 ที่ทางสวนนงนุชได้มีการปรับแต่งพื้นที่บริเวณรอบสวนฝรั่งเศสใหม่ในลักษณะของหุบเขา เพื่อที่จะตกแต่งด้วยต้นไม้และปูนปั้น โดยทดลองปั้นไดโนเสาร์ชนิดแรกในสวนนั่นก็คือ “ไทรเซอราทอปส์” ปรากฎว่ามีนักท่องเที่ยวชื่นชอบและสนใจเข้ามาถ่ายรูป
จึงทำให้สวนนงนุชได้เนรมิตหุบเขานี้ให้กลายมาเป็นหุบเขาไดโนเสาร์ ภายใต้ความคิดที่ว่า ไดโนเสาร์ทุกตัวจะมาจากข้อมูลอ้างอิงรูปลักษณ์ที่เหมือนที่สุดเท่าที่จะทำได้ สายพันธุ์จะต้องหลากหลายและตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด ขนาดเท่ากับฟอสซิลที่มีการบันทึกไว้ตามจริง และปัจจุบันก็ยังมีการปั้นไดโนเสาร์ ไปอีกเรื่อยๆ เพื่อให้ครบทุกสายพันธุ์ ซึ่งมีมากกว่า 400 ชนิดไปแล้ว
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง จ.ขอนแก่น
ต่อที่ “พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง” ที่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูเวียง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นจุดแรกที่ได้มีการพบซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์เป็นชิ้นแรกของไทย ภายในแบ่งออกเป็น 5 โซนจัดแสดงเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่พบในประเทศไทย โดยเฉพาะที่พบในแหล่งขุดค้นภูเวียงนั้น มีการค้นพบถึง 5 สายพันธุ์เลยทีเดียว
และมีโซน “สวนไดโนเสาร์” ที่ถือเป็นโซนไฮไลต์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ โดยจะเป็นการจำลองบรรยากาศของป่าดึกดำบรรพ์โลกล้านปี ทำเป็นทางเดินไม้ให้เดินลัดเลาะไปตามจุดต่างๆ ระหว่างทางเดินสองข้างทางก็จะมีไดโนเสาร์ที่สำรวจพบที่ภูเวียงแห่งนี้ จำลองเป็นรูปร่างเหมือนจริงให้ได้ชมกัน อย่างเช่น ไดโนเสาร์กินเนื้อไทรันสยาม, ไดโนเสาร์กินพืชภูเวียง โกซอรัส ที่ยืนคอยาวอยู่ โดยจะมีข้อมูลอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับไดโนเสาร์แต่ละตัวไว้อย่างครบครัน
พิพิธภัณฑ์สิรินธร จ.กาฬสินธุ์
อีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งค้นพบซากไดโนเสาร์กินพืชที่สมบูรณ์ที่สุดในเมืองไทยและไดโนเสาร์ชนิดอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ก็คือที่ จ.กาฬสินธุ์ นี่เอง ซึ่งหากใครอยากมาศึกษาเรื่องราวของไดโนเสาร์ต้องมาที่ “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ดีที่สุดในอาเซียนอีกด้วย
ภายในจัดแสดงเรื่องราวต่างๆ ถึง 8 โซนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่เรื่องโลกและจักรวาล เล่าต่อเนื่องมาตามยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตและตัวชูโรงอย่าง “ไดโนเสาร์” ที่นอกจากจะนำเสนอเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่อื่นๆ แล้ว ก็ยังพูดถึงการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของ 8 สายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่พบได้เฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น โดยได้จัดแสดงไว้อย่างอลังการบริเวณโถงกลาง
รวมถึงมีหุ่นจำลอง “สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส” ที่ยืนเด่นกลางโถงอ้าปากแยกเขี้ยวทำหน้าถมึงทึง ซึ่งเจ้าตัวนี้ถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่ เพราะมันเป็นบรรพบุรุษของ “ไทรันโนซอรัส เร็กซ์” หรือ “ที-เร็กซ์” จอมโหดแห่งเรื่อง “จูราสสิค เวิลด์” นั่นเอง
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยาฯ จ.ปทุมธานี
กลับมาชมไดโนเสาร์แบบใกล้กรุงกันบ้าง ที่ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยา เฉลิมพระเกียรติ” ตั้งอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ภายในจัดแสดงไดโนเสาร์ฝูงใหญ่หลายสกุล ที่ขุดค้นพบซากในประเทศไทย ที่นำมาจัดแสดง พร้อมแสงสีเสียง โดยมีไฮไลต์คือไดโนเสาร์จำลองเหล่านี้เคลื่อนไหวได้ราวกับมีชีวิต
ซึ่งมี “สวนดึกดำบรรพ์” เป็นไฮไลต์สำคัญของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ภายในสวนจะเป็นทางเดินท่ามกลางเสียงน้ำตก และพันธุ์ไม้โบราณ ระหว่างทางจะเดินผ่านหุ่นไดโนเสาร์พันธุ์ต่าง ๆ ที่มีการค้นพบในประเทศไทย ที่สามารถส่งเสียงร้อง ขยับตัว เหวี่ยงหาง เสมือนของจริงซึ่งเป็นที่ถูกใจเด็กๆ เป็นอย่างมาก
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ.เลย
ปิดท้ายที่การมาตามรอยไดโนเสาร์ท่ามกลางธรรมชาติกันบ้างที่ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง” จ.เลย ซึ่งนอกจากจะมีธรรมชาติรอบตัวที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมี “รอยตีนไดโนเสาร์” เป็นอันซีนคู่ภูหลวงอีกด้วย
โดยการจะไปชมรอยตีนไดโนเสาร์ต้องเดินเท้าตามเส้นทางที่ทางเจ้าหน้าที่กำหนดไว้ ซึ่งจะได้ชมดอกไม้ป่าและจุดชมวิวมากมาย ก่อนที่จะถึงจุดชมรอยตีนไดโนเสาร์ด้วย สำหรับ “รอยตีนไดโนเสาร์ภูหลวง” เท่าที่มีการสำรวจพบ พบว่ามีอยู่ประมาณ 15 รอย เป็นรอยตีนที่ถูกระบุว่าเป็นการค้นพบรอยตีนไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ครั้งแรกในเมืองไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี พ.ศ. 2528
ในจำนวนรอยตีนไดโนเสาร์กลุ่มนี้ มีรอยไฮไลต์คือรอยตีนไดโนเสาร์ที่ถูกยกให้เป็น“อันซีนไทยแลนด์” อันโด่งดังซึ่งมีรอยลึกและชัดเจน มีนิ้ว 3 นิ้วคล้ายรอยตีนนก ที่ปลายของแต่ละนิ้วมีร่องรอยเล็บแหลมคม นักวิชาการระบุว่าเป็นรอยตีนของไดโนเสาร์พันธุ์กินเนื้อ “คาร์โนซอร์” ที่มีความสูงประมาณ 1.8 เมตร เดินเร็วประมาณ 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (เร็วเป็น 2 เท่าของคนเดิน) มีอายุประมาณ 100-140 ล้านปี
และนี่คือ “5 จุดชมไดโนเสาร์” ที่อยากชวนทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์โลกดึกดำบรรพ์ ตามรอยภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ปิดตำนานไดโนเสาร์ “จูราสสิค เวิลด์: ทวงคืนอาณาจักร” กัน
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline