xs
xsm
sm
md
lg

“พลับพลาทอง” อร่ามเรืองรอง แห่ง "วัดทอง" มรดกโลกทรงคุณค่าคู่เมืองเกียวโต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-Ji) หรือที่ชาวไทยนิยมเรียกติดปากว่า “วัดทอง” ในเมืองเกียวโต นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ประจำเมืองก็ว่าได้ ที่มาของชื่อเรียก วัดทอง มาจากศาลาสีทอง หรือพลับพลาอร่ามเรืองริมน้ำ บรรยากาศแบบสวนนิกายเซน ที่วิจิตรงามอย่างโดดเด่น


ศาลาสีทองอร่ามแห่งนี้ เคยเป็นบ้านพักตากอากาศของรัฐบุรุษ ต่อมาเป็นสมบัติของท่านโชกุน “อาชิกางะ โยชิมิตสึ” (ชื่อท่านโชกุนคงเป็นที่คุ้นเคย สำหรับใครที่เคยชมการ์ตูน อิคคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา) ก่อนที่บุตรชายของท่านโชกุนจะยกให้เป็นส่วนหนึ่งของวัดนิกายเซน สายรินไซ ในเวลาต่อมา


การชมศาลาทองของวัดคินคะคุจิ สามารถชมได้จากระยะไกล และเดินอ้อมไปด้านข้างตามเส้นทางเดินบังคับ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สถานที่แห่งนี้ไม่ทรุดโทรม และอยู่คู่กับเมืองเก่าเกียวโตไปนานๆ สมกับเป็นเมืองมรดกโลกของประเทศญี่ปุ่น


ชั้นแรกสร้างในสไตล์ชินเด็น (Shinden) เป็นอาคารสำหรับพระราชวังในสมัยเฮอัน ชั้นสองสร้างขึ้นในสไตล์บุกเกะ (Bukke) ซึ่งใช้ในที่พักอาศัยของซามูไร และภายนอกหุ้มด้วยทองคำเปลวทั้งหมด ส่วนชั้นที่สามและชั้นบนสุดถูกสร้างขึ้นในสไตล์เซนแบบจีน ปิดทองทั้งภายในและภายนอก ด้านบนสุดของพลับพลาประดับด้วยนกฟีนิกซ์สีทอง


พลับพลาแห่งนี้เคยถูกพระที่สติไม่ดีเผาทำลายเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ก็บูรณะสร้างกลับมาใหม่ให้งดงามได้ดังเดิม คงเปรียบกับสัญลักษณ์ด้านบนหลังคาที่เป็นรูปปั้นนกฟินิกซ์ ที่แม้จะโดนเพลิงแผดเผาก็ฟื้นคืนชีพเป็นอมตะ


วัดทอง เกียวโต เปิดให้เข้าชมทุกวัน 9.00-17.00 น.
ค่าธรรมเนียมเข้าวัด 400 เยน



#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel  MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น