xs
xsm
sm
md
lg

“พัทยา” ทะเลไทยสุดฮิต แชมป์ที่เที่ยววันหยุดยาวเดือน พ.ค.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“พัทยา” แชมป์ที่เที่ยววันหยุดยาวเดือน พ.ค.
อโกด้าเผยนักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมเที่ยวทะเลต้อนรับวันหยุดยาวเดือนพฤษภาคม โดยพัทยามาเป็นอันดับ 1 ตามด้วยหัวหินที่ 2 ส่วนภูเก็ตขึ้นมาที่ 3 แทนที่กทม. ที่ลงไปอยู่ในอันดับ 4 สำหรับสถานที่ที่ถูกค้นหามากที่สุดในเดือนพฤษภาคม

แม้ข้อจำกัดในเรื่องของการเดินทางท่องเที่ยวจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ข้อมูลสถิติจากอโกด้าพบว่า การท่องเที่ยวภายในประเทศยังคงได้รับความนิยมสำหรับคนไทย โดยในช่วงวันหยุดยาวอย่าง วันแรงงาน วันวิสาขบูชา และเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยทั้ง 10 อันดับ ยังคงเป็นสถานที่ในประเทศ โดยพัทยาและหัวหินเป็นสถานที่ที่ถูกค้นหามากที่สุด ตามมาด้วยภูเก็ตที่ขึ้นมาครองอันดับสาม แทนที่กรุงเทพมหานครที่ลงไปอยู่ในอันดับที่สี่สำหรับสถานที่ที่ถูกค้นหามากที่สุดในเดือนพฤษภาคม

หัวหิน ที่เที่ยวยอดฮิตอันดับ 2 ของวันหยุดยาวเดือน พ.ค.
และนอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ประเทศสิงคโปร์คือสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอันดับสอง ในขณะที่ประเทศเกาหลีใต้กระโดดขึ้นมาเป็นอันดับที่สามจากอันดับที่หกในอันดับการค้นหายอดนิยมสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเดือนพฤษภาคม เนื่องจากมีการประกาศผ่อนคลายมาตรการการกักตัวและขั้นตอนการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ก่อนเข้าเมือง

นอกจากนี้การผ่อนคลายความเข้มงวดของมาตรการการเดินทางท่องเที่ยวก็ยังเกิดขึ้นในประเทศฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกา เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศอังกฤษ ประเทศฝรั่งเศส และประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่งผลให้ประเทศเหล่านี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวไทย และปรากฎอยู่ใน 10 อันดับยอดนิยมในช่วงวันหยุดยาวเดือนพฤษภาคมด้วยเช่นกัน

ภูเก็ต ที่เที่ยวยอดฮิตอันดับ 3 ของวันหยุดยาวเดือน พ.ค.
นายจอห์น บราวน์, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, อโกด้า กล่าวว่า “การเดินทางภายในประเทศยังคงได้รับความนิยม แต่ด้วยการผ่อนคลายข้อจำกัดของการเดินทางระหว่างประเทศ เราจึงเห็นว่าคนไทยเริ่มกลับไปท่องเที่ยวต่างประเทศกันมากขึ้น ประเทศสิงคโปร์ ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศในภูมิภาคยุโรปต่างได้รับการตอบรับที่ดีจากการผ่อนคลายมาตรการในการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ก่อนการเข้าเมือง ประเทศอื่น ๆ ในแถบภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศไทยก็เริ่มผ่อนคลายนโยบายดังกล่าวด้วยเช่นกัน การแข่งขันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจะทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อจำนวนผู้ป่วยลดลงและอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น ผู้ชนะจะถูกกำหนดโดยผู้ที่สามารถสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยกับความสะดวกในการเดินทางเข้าเมืองอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ”






กำลังโหลดความคิดเห็น