‘กัมปง เกอลัม’ ย่านเก่าสิงคโปร์ ที่จัดแสดงงานอาร์ตโดยไม่พึ่งแกลลอรี่ผ่านงานศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ของชาวมาเลย์ อาหรับ และบูกิส ไว้ในย่านเดียว
ถ้าจะเอ่ยถึงย่านชุมชนที่เก่าแก่และอยู่คู่สิงคโปร์มาช้านานก็คงไม่พ้นย่านกัมปง เกอลัม (Kampong Gelam) ซึ่งนักท่องเที่ยวมักจะแวะเวียนเข้ามาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวในย่านนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม อาหาร งานจิตรกรรม และประติมากรรม ที่สะท้อนเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ได้อย่างดี เราจึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์แห่งนี้ พร้อมกับการกลับมาอีกครั้งของ 2 หนุ่มดูโอ ‘ปลื้ม พงศ์พิศาล’ นักแสดงจาก GMMTV ซึ่งย้ายไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ และ ‘ปั้น’ จากเพจ The Walking Backpack เจ้าถิ่นผู้ซึ่งเรียนและทำงานอยู่ที่สิงคโปร์มานานกว่า 10 ปี ร่วมเจาะลึกแหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนของย่านกัมปง เกอลัมแห่งนี้
ย่านกัมปง เกอลัม หรือเดิมทีเรียกว่า กัมปง กลัม (Kampong Glam) ถือเป็นหนึ่งย่านเก่าแก่ในสิงคโปร์ นับตั้งแต่ยุคแรกของการก่อตั้งอาณานิคม ในปี ค.ศ. 1820 เซอร์ สแตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์ (Sir Stamford Raffles) ผู้ก่อตั้งสิงคโปร์ได้จัดสรรพื้นที่กัมปง เกอลัมให้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวมาเลย์ อาหรับ และบูกิส ย่านนี้จึงกลายเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรม นอกจากนี้กัมปง เกอลัมยังเคยเป็นที่พำนักของสุลต่านฮุสเซน ชาห์แห่งยะโฮร์อีกด้วย
กัมปง เกอลัม หมายถึงอะไร ‘กัมปง’ มาจากภาษามลายูแปลว่าหมู่บ้าน ส่วนคำว่า ‘เกอลัม’ หมายถึงต้นเสม็ดขาวใบยาว ในอดีตเป็นพืชที่พบได้ทั่วไปในย่านนี้ ผู้คนมักนำมาใช้ในการต่อเรือ ทำยารักษาโรค และปรุงอาหาร หลังได้รับการจัดสรรค์พื้นที่กัมปง เกอลัม กลายเป็นชุมชนที่รวมวัฒนธรรมของชาวมุสลิมหลากหลายเชื้อชาติในสิงคโปร์เข้าไว้ด้วยกันอย่างมีเสน่ห์และไม่เหมือนใคร
ผ่านมากว่า 2 ศตวรรษ พื้นที่แห่งนี้ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของวัฒนธรรมที่หลากหลาย และยังคงบอกเล่าประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของทั้ง 3 เชื้อชาติไว้เป็นอย่างดี ผ่านสถาปัตยกรรมในชุมชน ร้านอาหาร และผลงานศิลปะบนกำแพง ที่ไม่ได้มีแค่ความงามของศิลปะ วัฒนธรรมในอดีตเท่านั้น แต่ที่แห่งนี้ยังเป็นความลงตัวของเมืองเก่าที่ปรับตัวเข้ากับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่อย่างดีเยี่ยม เรียกได้ว่าเมื่อมาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้ เสมือนหลุดไปในพิพิธภัณฑ์ หรืออาร์ตแกลเลอรี่ชื่อดังสักที่
กัมปง เกอลัมจึงเปรียบเสมือนชุมชนที่จัดแสดงงานศิลปะโดยไม่พึ่งอาร์ตแกลอรี่ แต่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านสถานที่และผู้คน เรามาดูกันว่าย่านนี้จัดแสดงงานศิลปะผ่านชุมชนกันอย่างไรบ้าง
Hall of Fame @Kampong Gelam
คำว่า Hall of Fame นั้นคือคำศัพท์ที่สตรีทอาร์ตติสใช้เรียกพื้นที่หรือผนังว่างๆ ที่ศิลปินกราฟฟิตี้หลายๆ คนมาพ่นกราฟฟิตี้เพื่อแสดงฝีมือกัน ซึ่งส่วนใหญ่พื้นที่เหล่านั้นจะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล แต่สำหรับ Hall of Fame @Kampong Gelam นี้ มีความพิเศษคือเป็นพื้นที่แบบ ‘เป็นทางการ’ ที่มีการจัดสรรเป็นเรื่องเป็นราวเป็นแห่งแรกใน South East Asia โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากความต้องการที่จะเปลี่ยนรั้วกำแพงชั่วคราวที่ใช้กั้นพื้นที่ก่อสร้างของเขตให้เกิดประโยชน์ขึ้นมา จึงนำไปสู่แนวคิดในการเปิดให้เป็นพื้นที่ศิลปะ และเชิญศิลปินจากทั่ว ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้มาพ่นกราฟฟิตี้หรือสตรีทอาร์ต เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความหลากหลายทางวัฒนธรรมของภูมิภาคนี้ โดยกำแพงดังกล่าวมีความยาวรวมกว่า 238 เมตร ตั้งอยู่บนถนน Bali Lane และถนน Ophir Road ในย่าน Kampong Gelam ปัจจุบันแสดงนิทรรศการสุดเท่ของศิลปินกราฟฟิตี้กว่า 17 คนจากทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Sultan Mosque
มัสยิดสุลต่าน อนุสรณ์สถานความเป็นมาของชาวมุสลิม
มัสยิดสุลต่านถือเป็นแลนด์มาร์กประจำย่านกัมปง เกอลัม ที่หากใครมาย่านนี้และไม่ได้มาเยี่ยมชมโดมทองของมัสยิดสักครั้งอาจจะเรียกว่ามาไม่ถึง มัสยิดสุลต่านสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1824 เพื่ออุทิศให้แด่สุลต่านฮุสเซนซาห์ สุลต่านองค์แรกของสิงคโปร์ เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านมา มัสยิดมีสภาพทรุดโทรมตามกาลเวลาจึงมีการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1932 ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจนสามารถรองรับชาวมุสลิมได้ถึง 5,000 คน
จุดเด่นของมัสยิดแห่งนี้คงหนีไม่พ้นโดมสีทองขนาดใหญ่ ที่ตัวฐานแต่ละโดมจะถูกประดับด้วยเศษแก้วที่บริจาคโดยมุสลิมผู้ยากไร้ระหว่างการก่อสร้าง เพื่อให้ชาวมุสลิมทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของมัสยิดสุลต่านแห่งนี้ ต่อมามัสยิดสุลต่านได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติในปี ค.ศ.1975 สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเยี่ยมชม หรือนักท่องเที่ยวที่นับถือศาสนาอิสลามแล้วต้องการประกอบศาสนาพิธีสามารถตรวจสอบวันเวลาเปิดปิดได้ที่ https://sultanmosque.sg
Good Luck
ให้อาหารอร่อยช่วยอวยพร
เติมท้องให้อิ่มก่อนการเดินชมงานศิลปะในย่านกัมปง เกอลัม เราขอแนะนำร้านอาหาร Good Luck ที่เป็นร้านรูปแบบ All day dining ที่นอกจากมีอาหารหลากหลายสไตล์ให้เลือกรับประทานไม่ว่าจะเป็น บะหมี่ทำเอง ติ่มซำ ไปจนถึงเบอร์เกอร์ ยังมีเครื่องดื่มอีกมากมายให้เลือกดื่มอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีค็อกเทลที่ดึงกลิ่นอายรสชาติท้องถิ่นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาเสิร์ฟในรูปแบบของค็อกเทลสุดพิเศษอีกด้วย
สำหรับเมนูแนะนำได้แก่ ไก่ทอดคาราเกะสูตรพิเศษเฉพาะทางร้าน (Boneless Shrimp Paste Karaage) และ ผัดหมี่ฮกเกี้ยนกุ้ง (Fried Hokkien Prawn Noodles) สามารถสำรองโต๊ะเพื่อลิ้มลองความอร่อยและอัปเดตเมนูได้ที่ https://www.goodluckbeerhouse.com/
Gather
ร้านที่อยากให้ทุกคนมาพบปะพูดคุยผ่านเครปอร่อยๆ และกาแฟดีๆ สักแก้ว
กินคาวมาแล้วก็ต้องแวะกินหวาน กับร้านเครปชื่อดังที่ขายเครปทั้งไส้คาวและไส้หวาน! ร้าน Gather ตั้งอยู่ในโรงแรมราฟเฟิลส์ ในย่าน Civic District บริเวณใกล้เคียง เป็นร้านขายเครปฉบับฝรั่งเศสแบบคราฟต์ พร้อมกับกาแฟดีๆ สักแก้ว ด้วยคอนเซปต์จากเจ้าของร้านที่อยากให้พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นพื้นที่ให้ทุกคนมาพบปะพุดคุยกัน
โดยเมนูที่ห้ามพลาดทั้งเครปสูตรดั้งเดิมเพิ่มแฮมชีสและไข่ที่เป็นไส้คาว และเครปทาเนยกาม็องแบร์เพิ่มลูกฟิกที่เป็นไส้หวาน สามารถสำรองโต๊ะ ตรวจสอบเมนู และสั่งมาทานที่โรงแรมแบบชิวๆ ผ่านแกร็บฟู้ด และฟู้ดแพนด้าก็ได้ผ่านลิงก์ https://gathershop.co/cafe
Vintage Camera's Museum
พิพิธภัณฑ์รูปทรงกล้องที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เมื่ออิ่มท้องทั้งคาวและหวานแล้วมาต่อกันที่อาคารรูปกล้องถ่ายรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก รูปร่างของตัวตึกคงบอกเป็นนัยอยู่แล้วว่าหากย่างเท้าเข้ามาในอาคารนี้ จะพบเจอกับอะไร ใช่แล้ว! กล้องถ่ายรูปที่มีกว่า 1,000 ตัว ได้มารวมกันอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ที่สำคัญคือเป็นกล้องเก่าแก่ตั้งแต่ยุค 1900s ไปจนถึงช่วงต้นของยุค 2000s และทั้งหมดเป็นการสะสมส่วนตัวของ Solaiyappan Ramanathan ผู้เป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ ฟังไม่ผิด นี่คือการสะสมส่วนตัวและเขาได้นำส่วนหนึ่งของคอลเลกชันส่วนตัวมาจัดแสดงไว้ที่นี่ ซึ่งจริงๆ แล้วเขาสะสมกล้องไว้มากกว่า 7,000 ตัวเลยทีเดียว
ความพิเศษของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือ มีสารคดีการวิวัฒนาการของกล้อง ตั้งแต่กล้องรูเข็มหรือ spy camera และสารคดีกล้องโดรนตัวแรกของโลก ใครที่เป็นสายกล้อง สายถ่ายรูปต้องไม่พลาดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ !! สามารถสำรองบัตรเข้าชมได้ที่ https://www.vintagecamerasmuseumsg.com
Binary Style
ของฝากจากสิงคโปร์ที่เก๋ไก๋เหมือนใคร
ใครที่กำลังมองหาของฝากหรือของที่ระลึกจากสิงคโปร์สักชิ้นสองชิ้น ที่บ่งบอกความเป็นสิงคโปร์ได้อย่างมีเอกลักษณ์และไม่เหมือนใครนั้น เราขอแนะนำแบรนด์ Binary Style ที่สินค้าทุกชิ้นของเขาจะเป็นการผสมผสานและออกแบบโดยดึงสถาปัตยกรรมและธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และทั้งหมดล้วนได้รับแรงบันดาลใจมากจากเรื่องราว ศิลปะ วัฒนธรรมของสิงคโปร์ทั้งหมดจนออกแบบมาในลวดลายต่างๆ
สินค้าที่ขายส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ และเสื้อผ้าผู้หญิง เรียกได้ว่าเราสามารถเก็บความทรงจำ หรือซื้อเป็นของฝากที่มีกลิ่นอายของสิงคโปร์กลับบ้านได้อย่างเก๋ไก๋และไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน นอกจากนี้ Binary Style ยังได้ออกแบบลายผ้าพันคอเนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี สิงคโปร์แอร์ไลน์อีกด้วย สามารถตรวจค้นหาของที่ระลึกที่ถูกใจในชอปสาขาที่ใกล้คุณได้ที่ https://binarystyle.co/
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ ของย่านกัมปง เกอลัมและบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น สิงคโปร์ยังมีเสน่ห์ที่ซุกซ่อนไว้อีกมากมายที่รอให้ทุกคนมาค้นหา ดื่มด่ำ เพลิดเพลินอีกมากมาย ที่เชื้อเชิญรอให้นักท่องเที่ยวชาวไทยมาค้นพบและเที่ยวสิงคโปร์ในมุมมองใหม่ ติดตามชมวีดีโอทริปสุดพิเศษนี้ได้ที่ https://fb.watch/cxUEZQl6DG/
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline