xs
xsm
sm
md
lg

กราบพระ ชมงานศิลป์ "วัดสุทธิวราราม" ราวกับอยู่ในแกลอรี่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


งานจิตรกรรมฝาผนังร่วมสมัยน่าชมของวัดสุทธิวราราม
บนถนนเจริญกรุง หรือ New Road ซึ่งเป็นถนนสายแรกในกรุงเทพฯ นอกจากจะมีเรื่องราวประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจด้วยตัวมันเองแล้ว สองข้างทางถนนก็ยังมีวัดงาม มัสยิดเก่าแก่ และศาลเจ้าจีนอยู่หลายแห่ง สามารถใช้เป็นเส้นทางเดินเท้าท่องเที่ยวกรุงเทพฯ แบบวันเดย์ทริปได้ดีเลยทีเดียว

ในวันนี้ได้มาพบเจอวัดน่าสนใจจากการเดินเท้าท่องเที่ยว Walking BKK : "ตามหาความหมาย ปลายทางเจริญกรุง" ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดขึ้น นั่นคือ "วัดสุทธิวราราม" วัดเก่าแก่กว่า 250 ปี ที่ปัจจุบันยังคงความงดงาม และมีงานพุทธศิลป์ให้คนชอบเที่ยววัดไหว้พระได้ยลกันจนอิ่มเลยทีเดียว

สำหรับประวัติของวัดสุทธิวรารามนั้น เริ่มขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี โดยบรรพบุรุษสายสกุล ณ สงขลา และเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (หนู) ได้สร้างวัดนี้ขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ราว พ.ศ.2314

เดิมเรียกว่านี้ "วัดแค" มีบริเวณอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านบางกอกตอนล่าง ต่อมาในกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ถูกเรียกอีกชื่อว่า "วัดลาว"เพราะบริเวณนี้เป็นสถานที่ตั้งของชุมชนชาวลาวที่อพยพเข้ามาในกรุงเทพฯ

อุโบสุหินอ่อนสองชั้น
จวบจนในสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้มีการตัดถนนเจริญกรุงขึ้นใน พ.ศ.2404 ทำให้พื้นที่ของวัดถูกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคือที่ตั้งของวัดปัจจุบัน และอีกส่วนหนึ่งคือฝั่งโรงเรียนวัดสุทธิวราราม

วัดมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "วัดสุทธิวราราม" ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อท่านผู้หญิงสุทธิ์ ภรรยาเจ้าพระยาวิเชียรคีรี (เม่น ณ สงขลา) ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถขึ้นใหม่ใน พ.ศ.2424 และได้อัญเชิญพระพุทธรูปจากวัดพระยาไกรมาประดิษฐานไว้เป็นพระประธานประจำพระอุโบสถ ในครั้งนั้นรัชกาลที่ ๕ จึงพระราชทานนามวัดว่า "วัดสุทธิวราราม" ตามนามของท่านผู้หญิงสุทธิ์

วัดสุทธิวรารามแห่งนี้รุ่งเรืองจวบจนมาถึงในสมัยรัชกาลที่ ๙ พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดสุทธิวรารามเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2511 ซึ่งเป็นการทอดผ้าพระกฐินหลวงครั้งแรก ณ วัดที่ไม่ใช่พระอารามหลวง โดยหลังจากถวายผ้าพระกฐินเสร็จแล้ว พระองค์ได้ตรัสกับเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร ณ สงขลา) และพระยามานวรราชเสวี (ปลอด ณ สงขลา) องคมนตรีผู้รับเสด็จใกล้ชิดว่า "ขอฝากดูแลวัดนี้ด้วยมีโอกาสจะมาอีก"

พระพุทธสิริสุทธิสวัสดิ์ หรือหลวงพ่อพระใหญ่
ปัจจุบัน วัดสุทธิฯ มีการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน พ.ศ.2564 นั้นเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองการสร้างวัดสุทธิวรารามครบ 250 ปี ทางวัดจึงมีการก่อสร้างงานพุทธศิลป์และงานศิลปกรรมต่างๆ หลายอย่างเลยทีเดียว เราจะพาไปชมพร้อมกัน

จากถนนเจริญกรุงเมื่อเดินเข้าสู่ประตูวัด เราจะอยู่ด้านหลังอุโบสถซึ่งสร้างหันหน้าไปทางทิศตะวันออก บริเวณด้านหลังอุโบสถนี้ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ นามว่า "พระพุทธสิริสุทธิสวัสดิ์" หรือมักเรียกกันว่า "หลวงพ่อพระใหญ่" โดยองค์พระเป็นการขยายพุทธศิลป์จากพระพุทธรูปองค์ประธานภายในอุโบสถมาเป็นพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 4 เมตร สูงรวมฐาน 9 เมตร มาประดิษฐานไว้ให้ประชาชนที่ผ่านไปมาได้สักการะเป็นสิริมงคลกัน

ท้าวเวสสุวรรณมหาราช และท้าวกุเวรมหาราช (ภาพ : เพจวัดสุทธิวราราม))
ที่บริเวณด้านข้างหลวงพ่อพระใหญ่นี้เรายังสามารถกราบสักการะท้าวเวสสุวรรณมหาราช และท้าวกุเวรมหาราช พญายักษ์ที่สถิตย์ ณ เบื้องซ้ายขวาของหลวงพ่อพระใหญ่ได้อีกด้วย โดยทางวัดเพิ่งทำพิธีบวงสรวงเบิกเนตรพญายักษ์ไปเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ประติมากรรมชุดมรรคมีองค์ 8 รอบอุโบสถ
จากนั้นมาเดินอ้อมอุโบสถมาด้านหน้า มองเห็นป้ายเชิญชวนของทางวัดที่เชิญให้เข้ามากราบพระด้านในอุโบสถและชมพุทธศิลป์ต่างๆ ซึ่งเราสามารถชมงานพุทธศิลป์เหล่านี้ได้ตั้งแต่บริเวณรอบๆ อุโบสถซึ่งมีงานปูนปั้นอ่อนช้อยสีขาวสะอาดตา เป็นภาพประติมากรรมชุดมรรคมีองค์ 8 "เส้นทางสู่มรรค" และ "ทศบารมีแห่งแผ่นดิน" โดยผสมผสานกับภาพของเหล่าสัตว์หิมพานต์ในจินตนาการที่งดงามมากทีเดียว

พระพุทธรูปหินอ่อนพร้อมภาพนูนต่ำด้านหลังที่งดงาม

ภาพปริศนาธรรมชุดมงคล 38 ประการ ลงรักปิดทองบนเพดาน
อุโบสถหินอ่อนนี้แบ่งเป็นสองชั้น ชั้นล่างประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนสีขาว ที่มีฉากหลังเน้นสีแดงและสีทองเป็นภาพนูนต่ำของเหล่าเทวดาและสาวกของพระพุทธเจ้า รวมถึงมีภาพปริศนาธรรมชุดมงคล 38 ประการ ลงรักปิดทองบนเพดานอีกด้วย

ภาพพุทธศิลป์เบื้องหลังพระประธาน

งานจิตรกรรมฝาผนังศิลปะร่วมสมัย
ส่วนที่ชั้นสองของอุโบสถนั้น ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ดั้งเดิมที่อัญเชิญมาจากวัดพระยาไกรตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ และสิ่งที่ทำให้องค์พระพุทธรูปโดดเด่นขึ้นมาก็คือภาพจิตรกรรมฝาผนังปริศนาธรรมชุด "พุทธจักษุ ดวงตาแห่งการตื่นรู้" ซึ่งเป็นภาพงานศิลปะร่วมสมัยของทรงเดช ทิพย์ทอง ศิลปินชาวเชียงรายที่วาดได้อย่างงดงามมีพลังมากทีเดียว

เบื้องหลังองค์พระประธานเป็นภาพขนาดใหญ่ชื่อว่า "ดวงตาแห่งพุทธะ" ซึ่งหมายถึงพระปรีชาญาณของพระพุทธเจ้าที่หยั่งรู้การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไปของสรรพสิ่ง พระองค์ทรงเปิดดวงตาแห่งเวไนยสัตว์ให้เห็นความจริงของจักรวาล ตื่นรู้ และเบิกบาน ส่วนภาพด้านหน้าองค์พระประธานเป็นภาพของวัฏสงสาร คือการเวียนว่ายตายเกิดของโลกและจักรวาลที่เหล่าเวไนยสัตว์ต่างลุ่มหลง ภาพเหล่านี้เน้นสีสว่าง ชมแล้วรู้สึกถึงความสงบสบาย เป็นการใช้ศิลปะร่วมสมัยให้เข้ากับพุทธศิลป์ได้อย่างลงตัว

เดินชมได้ราวกับอยู่ในแกลอรี่


อีกทั้งรอบๆ ภายในอุโบสถชั้นสองนี้ก็ยังมีกรอบภาพที่ศิลปินต่างๆ ได้วาดภาพปริศนาธรรมประดับไว้บนผนัง เมื่อได้เข้ามากราบพระยังอุโบสถวัดสุทธิวรารามนี้แล้ว จึงรู้ึสึกราวกับว่าได้ทั้งมาเที่ยววัด ไหว้พระ และยังได้ชมงานศิลป์ดีๆ ราวกับอยู่ในแกลอรี่ก็มิปาน ถ้าใครมีโอกาสผ่านมายังถนนเจริญกรุงแห่งนี้จึงอยากให้แวะเข้ามาที่ "วัดสุทธิวราราม" แห่งนี้กัน

อุโบสถวัดสุทธิวราราม

#################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น