วันเดย์ทริป “Scootdy Tour” ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเที่ยวกรุงเทพฯ สะดวก สนุก สัมผัสวิถีชุมชน

วันหยุดทั้งทีออกไปหากิจกรรมทำกันดีกว่า สำหรับใครที่ชื่นชอบออกกำลังกาย หรือชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ครั้งนี้เรามีอีกหนึ่งกิจกรรมมานำเสนอ นั่นก็คือ การขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ในกิจกรรม “Scootdy Tour” สะดวก สนุกสนาน สัมผัสเรียนรู้วิถีชุมชน

“Scootdy Tour” เป็นการท่องเที่ยวชุมชนรูปแบบใหม่ เพื่อให้เข้าถึง เข้าใจชุมชน ได้ด้วยการขี่สกู๊ตเตอร์ที่สะดวก สนุกสนาน พร้อมเรียนรู้เรื่องราวผ่านมัคคุเทศก์ และชิมของอร่อยและเครื่องดื่มระหว่างทาง เป็นการเดินทางตามตรอก ซอก ซอยเล็กๆ ในชุมชนต่างๆ เพื่อให้ได้สัมผัสและเรียนรู้ถึงวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนในชุมชนที่ซ่อนอยู่ในสังคม และยังมีอาหารการกินอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชนอีกด้วย ซึ่งระยะเวลาในการท่องเที่ยวอยู่ระหว่าง 2.30 – 3 ชั่วโมง โดยมีเส้นทางที่หลากหลาย


โดยในทริปนี้เลือกเส้นทาง “กรุงเทพราตรี” หรือ “รอบเกาะรัตนโกสินทร์” ซึ่งเป็น 1 ใน 6 เส้นทาง ทัวร์กรุงเทพฯ กิจกรรมนี้นัดรวมตัวกันที่บริเวณวัดชนะสงคราม และก่อนที่ล้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจะหมุนออกเดินทาง ทางเจ้าหน้าที่จะบรรยายถึงเส้นทางท่องเที่ยวของการเดินทาง รวมถึงการใช้อุปกรณ์ ความรู้เรื่องความปลอดภัยและข้อควรระวังในการขับขี่ รวมถึงการสวมหมวกกันน็อคอย่างถูกวิธี เมื่อรับฟังข้อมูลเรียบร้อยแล้วจากนั้นเริ่มต้นกิจกรรมกันได้เลย


ล้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าพามายังจุดหมายปลายทางแรก “สวนสันติชัยปราการ” สวนแห่งนี้มีทัศนียภาพของคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามมาก นับเป็นสวนสาธารณะเพียงไม่กี่แห่งของกรุงเทพมหานคร ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ชื่นชมบรรยากาศริมแม่น้ำ และบริเวณโดยรอบมี “ป้อมพระสุเมรุ” เป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 มีลักษณะงดงาม


ออกจากสวนสันติชัยปราการเลี้ยวเข้าไปยัง “ชุมชนวัดสังเวช” ผ่านบ้านดุริยประณีต สำนักดนตรีไทยเก่าแก่ในชุมชนวัดสังเวช เปิดสอนดนตรีไทยและนาฏศิลป์ให้กับเด็กๆ และผู้ที่สนใจ ถัดไปที่ “ศาลเจ้าพ่อหนู” ตั้งอยู่ริมคลองบางลำพู ย่านบางลำพู สำหรับศาลเจ้าพ่อหนูนั้นมีความเชื่อว่า ผู้ที่มาขอพรจะประสบความสำเร็จสมหวังในเรื่องการค้าขาย โชคลาภ




จากศาลเจ้าพ่อหนูเราสามารถเดินเลียบไปตามทางเดินริมคลองอันร่มรื่น ชมบ้านเรือนห้องแถวทั้งเก่าและใหม่ริมคลองบางลำพู มาไม่ไกลก็พบกับ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน” อันงดงามแห่งเดียวในฝั่งพระนคร อยู่ฝั่งตรงข้ามวัดบวรนิเวศ จากวัดบวรนิเวศข้ามมายัง “ร้านปาท่องโก๋” สาขาบางลำพู ที่ร้านนี้มีทั้งของคาวและของหวาน ก็เลยสั่งปาท่องโก๋ย่างสังขยา กรอบนอกนุ่มใน พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ คลายร้อน


จากบางลำพูผ่านไปที่ถนนข้าวสาร ได้เห็นบรรยากาศของถนนข้าวสารยามเย็น จากนั้นออกไปยังเส้นทางถนนราชดำเนินผ่านไปที่บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งบริเวณนั้นจะมี “พระแม่ธรณีบีบมวยผม” โดยสร้างตามพระราชดำริของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ เพื่อแจกจ่ายน้ำดื่มสะอาดบริสุทธิ์ให้ผู้คนทั่วไป มวยผมพระแม่ธรณีจึงถูกออกแบบให้มีน้ำสะอาดไหลออกมาจากปลายมวยผม สามารถใช้ดื่มกินได้


จุดหมายต่อไปอยู่ที่ “ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ” แวะสักการะศาลหลักเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยสักการะอยู่บริเวณด้านนอก และชมความงดงาม “พระบรมมหาราชวัง” และ “วัดพระศรีรัตนศาสดาราม” หรือที่เรียกกันว่า “วัดพระแก้ว” ก็ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เสร็จแล้วก็ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าผ่านบริเวณด้านหน้าของกระทรวงกลาโหม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลต์ที่มีความงดงาม โดยบริเวณด้านข้างกระทรวงกลาโหมก็มีมุมให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเช่นกัน




จากนั้นเลียบกำแพงวังไปยังบริเวณ “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม” โดยทั่วไปเรียก “วัดโพธิ์” ซึ่งซอยที่อยู่ตรงข้ามกับวัดวัดโพธิ์ จะเป็นจุดที่ตรงกับพระปรางค์วัดอรุณ ก็จะเป็นมุมถ่ายรูปไฮไลต์อีกเช่นกัน เพราะช่วงเย็นจะมีแสงพระอาทิตย์ตกทำให้มีบรรยากาศที่ดี เหมาะกับมาพักผ่อนรับลม ชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา


ส่วนจุดหมายปลายทางต่อจากนี้จะเลียบเลาะมายังท่าช้าง ซึ่งเป็นจุดที่มีการเพิ่มเติมมาใหม่ ก็คืออุโมงค์ทางเดินลอดใต้ถนนมีชื่อว่า “อุโมงค์มหาราช” ถือเป็นไฮไลท์ของท่าช้างโฉมใหม่ เป็นบันไดเลื่อนกลางแจ้ง ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายย่านเก่าประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ ที่ดูสวยคลาสสิก ชวนปักหมุดเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวเช็คอินถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด และปิดท้ายกิจกรรม “Scootdy Tour” ที่ท่าเรือมหาราช


สำหรับผู้ที่สนใจกิจกรรม “Scootdy Tour” มีเส้นทางอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ รอบเกาะรัตนโกสินทร์, นิทรรศวัดวังพระนคร, เจริญกรุง-ตลาดน้อย-เยาวราช, แลนด์มาร์กกรุงเทพฯ และเส้นทางต่างจังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี และบางกระเจ้า สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ /www.itd2020.com, Facebook : scootdytour หรือ โทร. 06-5502-9940

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline