เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีข่าวการเปิดพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่สุดล้ำยุคที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจ ด้วยจุดขายการจำลองภาพของอนาคตในปี 2071 หรือในอีกราว 50 ปีข้างหน้า
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีชื่อว่า “Museum of the Future” หรือ พิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต ซึ่งตั้งอยู่ในย่านการเงินของดูไบ บนถนนถนน Sheikh Zayed หรือถนนที่รู้จักกันดีในนามของถนนเส้นที่ยาวที่สุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
โครงการก่อสร้าง Museum of the Future เริ่มต้นขึ้นในปี 2015 ด้วยงบประมาณกว่า 136 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือราว 4,410 ล้านบาท) ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2021 แต่เพิ่งมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2022 หรือหากจะเขียนเป็นตัวเลขคือ 22022022 นอกจากจะเป็นเลขสวยและฤกษ์มงคล ก็ยังมีความพิเศษคือเป็นเลขพาลินโดรม (Palindrome) วันที่ไม่ว่าจะสลับหน้าหลังอย่างไรก็จะได้ตัวเลขเหมือนเดิม ความสุดยอดอีกอย่างคือมีเลข 2 ในวันมากถึง 6 ตัว นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์อย่างมากในการประชมสัมพันธ์ เนื่องจากจดจำวันที่ได้ง่าย
คอนเซ็ปต์หลักของพิพิธภัณฑ์ คือการชวนผู้ชมเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศการจำลองดูไบในปี 2071 หรือในปีที่ครบเวลา 100 ปี ของการจัดตั้งประเทศใหม่ในชื่อสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยการสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ถูกคาดหวังให้กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของประเทศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้ามาสัมผัส
โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต หรือสถานที่ที่จะทำหน้าที่เป็นศูนย์ทดสอบในการสร้างนวัตกรรมต่างๆ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาทางสังคมของเหล่าคนรุ่นใหม่ในประเทศนี้อีกด้วย
จากด้านนอก เราสามารถมองเห็นตัวอาคารที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก เกิดจากการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีขั้นสูงกับงานศิลปะแบบดั้งเดิมของชาวอาหรับ เพื่อเชื่อมโยงระหว่างอดีตและอนาคตเข้าไว้ด้วยกัน โครงสร้างของพิพิธภัณฑ์นั้นใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ และเน้นแนวคิดความยั่งยืนด้วยการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ ซึ่งมีความสวยงามโดดเด่นจนถูกกล่าวว่าเป็รหนึ่งในอาคารที่สวยที่สุดในโลก
ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์มีความสูง 77 เมตร ลักษณะทรงกลมของอาคารสื่อถึงความเป็นมนุษย์ เนินดินสีเขียวซึ่งเป็นที่ตั้งสื่อถึงโลกของเรา และช่องว่างที่อยู่ตรงกลางของวงกลมเป็นสัญลักษณ์ของอนาคตที่ยังไม่สามารถทราบถึงได้ ที่สำคัญคือภายในตัวอาคารไม่มีเสาซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยีการก่อสร้าง
บนตัวอาคารด้านนอก มีตัวอักษรภาษาอาหรับ ที่สามารถมองเห็นทั้งในยามกลางวัน และโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยแสงไฟ LED ในยามค่ำคืน ประกอบด้วยคำพูด 3 ข้อความ ของ Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum นายกรัฐมนตรีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และผู้ปกครองรัฐดูไบ ได้แก่ “เราอาจอยู่ได้ไม่ถึงร้อยปี แต่ผลงานจากความคิดสร้างสรรค์ของเราสามารถทิ้งมรดกไว้ได้นานหลังจากที่เราไม่อยู่” , “อนาคตเป็นของผู้ที่สามารถจินตนาการได้ ออกแบบมัน และดำเนินการตามนั้น” และ “อนาคตไม่รอช้า อนาคตสามารถออกแบบและสร้างได้ในวันนี้”
สำหรับด้านในตัวอาคาร แบ่งออกเป็น 7 ชั้น บนพื้นที่ 30,000 ตารางเมตร แสดงให้เห็นถึงภาพจำลองอนาคตในปี 2071 ตั้งแต่ชีวิตความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม นวัตกรรม ไปจนถึงการท่องอวกาศ ทั้งหมดนี้มีรากฐานมาจากค่านิยมของชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรต และโลกอาหรับ ผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ในแต่ละชั้นจะมีกิจกรรมที่มีลักษณะเหมือนฉากในภาพยนตร์ ตามคอนเซ็ปต์ a future that you can inhabit, explore and interact with. ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป โดยในแต่ละชั้นก็จะมีเนื้อหาและหัวข้อที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา สามชั้นแรกมุ่งเน้นที่การพัฒนาทรัพยากรในอวกาศ ระบบนิเวศ วิศวกรรมชีวภาพ สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ชั้นอื่นๆ ก็มีการจัดแสดงเทคโนโลยีแห่งอนาคตอันใกล้ ที่จะมาจัดการกับปัญหาในด้านต่างๆ อาทิ สุขภาพ น้ำ อาหาร การคมนาคม และพลังงาน นอกจากนี้ยังมีส่วนที่ถูกออกแบบกิจกรรมไว้สำหรับเด็กๆ ด้วย
ผู้เข้าชมสามารถเยี่ยมชมนิทรรศการ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ และสนุกสนานไปกับกิจกรรม พร้อมทั้งสามารถสำรวจ โต้ตอบ หรือถามคำถามผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริงได้อีกด้วย โดยมีหัวข้อนิทรรศการที่หลากหลายและน่าสนใจเป็นอย่างมาก เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และนิเวศวิทยา, อนาคตของการเดินทางและการใช้ชีวิตบนอวกาศ, สุขภาพ, ความสุของค์รวมและจิตวิญญาณ เป็นต้น
ในขณะนี้ “Museum of the Future” ได้เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการแล้ว โดยสามารถเข้าชมได้ทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น. สามารถจองตั๋วเข้าชมได้ผ่านทางเว็บไซต์ museumofthefuture.ae/en สำหรับบุคคลทั่วไป (อายุ 3-60 ปี) ราคาตั๋ว 145 เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ประมาณ 1,270 บาท) ส่วนผู้เข้าชมที่มีอายุต่ำกว่า 3 ปี ประชาชนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และบุคคลที่ได้รับการยกเว้น สามารถจองตั๋วเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
มองจากภายนอกอาคารก็เห็นถึงความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมแล้ว การจัดแสดงภายในก็มีเนื้อหาที่น่าสนใจอย่างมาก เชื่อว่าหากการเดินทางระหว่างประเทศสะดวกมากขึ้น นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกคงต้องอยากไปสัมผัสกับโลกแห่งอนาคตภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่มากก็น้อย
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline
