รู้จัก “กรุงเคียฟ” เมืองหลวงยูเครน เป้าสงครามสำคัญ ยามปกติน่าเที่ยวไม่น้อย

สงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” มียุทธศาสตร์สำคัญ เป้าหมายหลักอยู่ที่ “กรุงเคียฟ” เมืองหลวงของยูเครน เพราะหากรัสเซียยึดเคียฟได้ เท่ากับว่าเป็นการได้ชัยชนะต่อยูเครนตามแบบฟอร์มของศึกสงครามทั่วไป (แต่ว่าหลังจากนั้นจะเกิดสงครามกองโจร และสงครามด้านอื่น ๆ ถาโถมเข้ามาถล่มรัสเซียอีกมากน้อยแค่ไหนคงต้องติดตามกันต่อไป)

สำหรับกรุงเคียฟ นอกจากจะเป็นเมืองหลวงของยูเครนแล้ว ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศนี้ที่ยามปกติมีความสวยงามน่าเที่ยวไม่น้อย ซึ่งเราขอไปทำความรู้จักกับกรุงเคียฟ จุดยุทธศาสตร์และเป้าหมายหลักสำคัญในสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” ที่จะตัดสินผลแพ้-ชนะกัน


“เคียฟ” (Kiev) ชื่อเมืองนี้ ข้อมูลจากวิกิพีเดียระบุว่ามาจาก ชื่อ “กึย” (Kyi) ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ผู้ก่อตั้งเมืองตามตำนาน ได้แก่ กึย, ชแชก (Shchek), คอรึว (Khoryv) และลือบิด (Lybid) โดยผู้ก่อตั้งเมืองทั้ง 4 ล้วนต่างเป็นพี่น้องกัน

เคียฟ ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนเหนือของประเทศยูเครน เคียฟนอกจากจะเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศยูเครนแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ การศึกษา และวัฒนธรรมของยุโรปตะวันออก รวมถึงทางด้านกีฬา ซึ่งในปี 2012 กรุงเคียฟได้รับบทบาทสำคัญให้เป็น 1 ใน 4 เมืองเจ้าภาพศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 โดยมีสนามกีฬาโอลิมปิกแห่งชาติเคียฟเป็นหนึ่งสถานที่แข่งขันหลักของศึกยูโร 2012


ขณะที่ทางด้านเศรษฐกิจนั้น เคียฟเป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญแห่งยุโรปตะวันออก โดยเมื่อไม่นานนี้ จีนได้เปิดเส้นทางรถไฟสินค้าจีน-ยุโรปสายใหม่ เชื่อมระหว่างนครฉางซา เมืองเอกของมณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน กับกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางค้าขายสำคัญของจีนกับยุโรปตะวันออก

นอกจากนี้กรุงเคียฟยังเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศยูเครน โดยบรรยากาศของตัวเมืองเคียฟที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำนีเปอร์นั้น จะอวลไปด้วยอาคารเก่ามรดกทางวัฒนธรรมของยูเครน และสถาปัตยกรรมแบบยุโรปตะวันอกดั้งเดิมที่ดูคลาสสิกสวยงามผสมผสานกับอาคารกลิ่นอายศิลปะโซเวียต และตึกรามบ้านเรือนร่วมสมัยที่ตั้งเรียงรายอยู่ด้วยอย่างกลมกลืนน่ายล ๆไม่ว่าจะเป็น ศาสนสถาน โรงละคร พิพิธภัณฑ์ จัตุรัส โบราณสถานต่าง ๆ และอาคารร่วมสมัยในยุคปัจจุบัน


ในสถานการณ์ปกติ ช่วงฤดูร้อนถือเป็นช่วงที่กรุงเคียฟมีอากาศกำลังดี ท้องฟ้าแจ่มใส แสงแดดสาดส่องต้องกระทบเมืองดูสวยงาม เหมาะต่อการเดินทอดท่องชม อาคารเก่าแก่คลาสสิกและวิถีชีวิตผู้คนที่ดูมีชีวิตชีวามากสีสัน

ส่วนในฤดูหนาวนั้น กรุงเคียฟก็ดูมีเสน่ห์โรแมนติกจากหิมะขาวโพลนที่ปกคลุมเมือง ซึ่งชาวยูเครนจำนวนมากจะใช้เวลาว่างกับครอบครัว ออกมาสนุกกับการเล่นเลื่อนหิมะบนทุ่งหญ้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลนท่ามกลางอากาศเย็นยะเยือกจากอุณหภูมิที่ติดลบ


สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ น่าสนใจกรุงเคียฟนั้นก็นำโดย “อารามมหาวิหารหลวงแห่งหมู่ถ้ำพอร์จเชตกาลาฟร่า” หรือ “อารามหลวงแห่งหมู่ถ้ำ” (Monastery of the Caves)

อารามหลวงแห่งหมู่ถ้ำ เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเคียฟกับสถาปัตยกรรมอารามหลวงสุดคลาสสิก สวยงามโดดเด่นมองเห็นแต่ไกล อารามแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงศตวรรษที่ 11 และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก พร้อมกับมหาวิหารเซนต์โซเฟีย (Saint-Sophia Cathedral)
ในปี ค.ศ. 1990


ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวเด่น ๆ อื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาดในกรุงเคียฟ อาทิ

-“St Michael’s Golden-Domed Cathedral” โบสถ์หลังงามที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือย่านการค้าของเมืองซึ่งขึ้นชื่อในด้านความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ “ยูเครน บาโร้ค”

-“พิพิธภัณฑ์สงครามกอบกู้ปิตุภูมิ” (Great Patriotic War) ที่โดดเด่นไปด้วยประติมากรรมมาตุภูมิ (Motherland Statue) ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านบน ซึ่งเป็นจุดที่สามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพของตัวเมืองเคียฟได้อย่างสวยงาม


-“ถนน Khreshchatyk” ย่านถนน ที่อวลไปด้วยวิถีสีสันของชาวยูเครน ในวันที่ปิดเป็นถนนคนเดินจะคึกคักไปด้วยร้านรวง ร้านอาหารการกิน บาร์ ร้านขายของที่ระลึก การแสดงดนตรี และกิจกรรมต่าง ๆ ท่ามกลางบรรยากาศของอาคารเก่าอวลไออดีต โดยมี “Independence Square” เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ

-“Mamajeva Sloboda” หรือ “Cossack village” พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่นำเสนอเรื่องราววิถีชีวิตชนบทของชาวยูเครนได้อย่างน่ายล


และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศยูเครนที่ในยามปกติน่าเที่ยวไม่น้อย ซึ่งแม้ในสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” ครั้งนี้จะมีคนถือหางทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึงประณามผู้ก่อสงครามและประณามอันธพาลชาติตะวันตกผู้อยู่เบื้องหลังการเกิดสงคราม แต่ยังไงก็ขอให้สงครามยุติโดยเร็ว

เพราะสงครามนั้นโหดร้าย มีแต่ความสูญเสีย ไม่ปราณีทั้งชีวิต ทรัพย์สิน ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ขณะที่ปีศาจผู้ค้าสงครามกับร่ำรวยมั่งคั่งไม่มีหยุดหย่อน