"ดอกชมพูภูคา" ดอกไม้หายากใน จ.น่าน บานสวยแล้วในเดือนแห่งความรัก โดยมีให้ชม 2 แห่งที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ.ปัว และที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน อ.นาน้อย จ.น่าน
ต้น "ชมพูภูคา" เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่หาได้ยากและใกล้สูญพันธุ์ ชมพูภูคาจะขึ้นอยู่ในบริเวณป่าดิบเขาที่ระดับความสูง 1,200-1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนใหญ่แล้วจะพบในบริเวณทางตอนใต้ของประเทศจีน ภาคเหนือของเวียดนาม ไต้หวัน และไทย โดยในประเทศไทยพบที่ดอยภูคา และที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จ.น่าน
อย่างไรก็ดีพบว่าภายหลังป่าบริเวณที่มีต้นชมพูภูคาในต่างประเทศที่กล่าวมาถูกทำลายไปหมด จึงคาดว่าต้นชมพูภูคาอาจสูญพันธุ์ไป ซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลระบุว่าพบต้นชมพูภูคาที่จังหวัดน่าน ประเทศไทย เพียงแห่งเดียวในโลกเท่านั้น
ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่ที่ต้นชมพูภูคาจะเจริญเติบโต จะมีร่มเงาของไม้ใหญ่หนาทึบ มีอากาศหนาวเย็น มีความชุ่มชื้นสูง มีเมฆหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี จึงถือว่าระบบนิเวศของชมพูภูคามีความเปราะบางมาก
นอกจากนี้ อีกสาเหตุที่ต้นชมพูภูคากลายเป็นพรรณไม้หายาก เนื่องจากในเมล็ดของชมพูภูคามีเมือกสำหรับยับยั้งการเจริญเติบโต อีกทั้งระบบนิเวศของป่าดิบเขาเริ่มเปลี่ยนไป ทำให้มีการขยายพันธุ์ได้ยาก
ทุก ๆ ปี ต้นชมพูภูคาที่ดอยภูคา จ.น่าน จะออกดอกบานระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม โดยดอกชมพูภูคาจะออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ตัวดอกมีสีชมพู เมื่อบานดอกจะชิดกันแน่น ทำให้ดูเป็นพุ่มสวยงาม