จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย และหากพูดถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติแล้วก็ขึ้นชื่อไม่แพ้ที่จังหวัดใดเช่นกัน
ที่เมืองสุพรรณบุรีเป็นที่ตั้งของ “อุทยานแห่งชาติพุเตย” ซึ่งถือเป็นอุทยานฯ แห่งเดียวในจังหวัดสุพรรณบุรี ครอบคลุมพื้นที่ในอำเภอด่านช้าง ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 198,422 ไร่ หรือ 317.48 ตารางกิโลเมตร
ซึ่งหากเข้ามาเที่ยวภายใน อช. พุเตย แล้ว ก็ต้องไม่พลาดมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกสุดอลังการบน “ยอดเขาเทวดา” ที่เรียกได้ว่าเป็น “หลังคาเมืองสุพรรณ” หรือเป็นจุดที่สูงที่สุดแผ่นดินสุพรรณนั่นเอง โดยมีระดับความสูง 1,123 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย
สำหรับการเดินขึ้นไปพิชิตยอดเขาที่นี่ จะมีระยะทางในการเดินขึ้นประมาณ 800 เมตร และมีเส้นทางเดินขึ้นที่สูงชัน โดยทางเดินจะเป็นทางเดินเล็กๆ และลื่น ระหว่างทางจะมีเชือกให้จับไปจนถึงด้านบน เมื่อถึงด้านบนจะพบกับเจดีย์สีเหลืองทองและพระพระพุทธรูปให้กราบไหว้
จากนั้นเดินตรงผ่านเจดีย์ไป จะเป็น “จุดชมวิวยอดเขาเทวดา” ที่ในยามเช้าจะสามารถมาชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ และยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่อลังการไม่แพ้ที่ไหน มีวิวเทือกเขามากมายเรียงรายสลับซับซ้อนอยู่เบื้องหน้า สวยงามจนได้ชื่อว่าเป็นจุดชมทะเลหมอกใกล้กรุงเทพเลยทีเดียว
ภายใน อช. พุเตย ยังมี “ป่าสนสองใบ” ที่เป็นป่าผืนเดียวในภาคกลางที่มีสนสองใบกระจายตัวอยู่กว่า 1,300 ต้น และยังมึเส้นทางในการศึกษาธรรมชาติ มีระยะทาง ประมาณ 7 กม. ให้เดินใกล้ชิดธรรมชาติอีกด้วย
นอกจากนั้นยังมี “น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่” อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติพุเตย ประมาณ 18 กม. เป็นน้ำตกไม่ใหญ่มาก แต่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมาก ซึ่งลำธารสายนี้เกิดจากผืนป่าตะเพินคี่อันอุดมสมบูรณ์ เหมาะที่จะท่องเที่ยวในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม
และ “น้ำตกตะเพินคี่น้อย” น้ำตกขนาดเล็กเกิดจากสายน้ำไหล ลัดเลาะ ลงมาตามผาหินน้อยใหญ่ ซับซ้อน สู่ลำธารด้านล่างทั้งมีสภาพแวดล้อมโดยรอบชุ่มชื่นอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและผจญภัย
อีกน้ำตกสวยภายใน อช.พุเตย ก็คือที่ “น้ำตกพุกระทิง” ซึ่งเกิดจากผาหินที่มีความสูงถึง 30 เมตร บีบตัวเข้าหากันทำให้เกิดสายน้ำไหลผ่าน กระทบโขดหินลดหลั่นกระเซ็นเป็นละออง ลอดผ่านเกาะแก่งรวมเป็นสายธารสู่พื้นล่าง
รวมถึงมีถ้ำสวยๆ ให้ได้ชมกันอีกด้วย ได้แก่ “ถ้ำตะเพินเงิน” เป็นถ้ำหินปูนขนาดกลาง ประกอบด้วยโถงถ้ำ 4 ห้องด้วยกัน ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย สีขาวบริสุทธิ์ เป็นประกายระยิบระยับดุจดังเพชรสีขาว
“ถ้ำตะเพินทอง” เป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่ มีพระพุทธรูปประดิษฐานไว้ภายในถ้ำเพื่อเป็นที่สักการบูชา และเป็นที่เจริญวิปัสสนากรรมฐานของพระภิกษุสงฆ์ และสุดท้ายคือ “ถ้ำตะเพินเพชร” ซ่อนอยู่กลางภูเขาหินปูนปูนขนาดใหญ่ ทางเข้าค่อนข้างแคบ แต่ด้านในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ มีหินงอกหินย้อยส่องประกายระยิบระยับเหมือนดั่งประกายเพชร เมื่อต้องแสงไฟ
ปิดท้ายที่ “จุดชมเครื่องบินตก” ที่เป็นจุดที่เครื่องบินเลาดาห์แอร์ (Lauda Air) ตกเมื่อปี 2534 ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 223 คน บริเวณนี้จะมีซากเศษเครื่องบินกระจัดกระจายไว้ให้ได้ชม และมีการสร้างศาลเลาดาห์ไว้ให้ได้ทำความเคารพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
ส่วนใครที่เป็นสายกางเต็นท์ภายในอุทยานฯ ก็จัดจุดกางเต็นท์ให้เลือกหลายจุดด้วยกัน เริ่มที่จุดแรกคือที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พต.1 (พุเตย) จุดที่สองคือที่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ และจุดสุดท้ายคือที่จุดสกัดชั่วคราว (ตะเพินคี่) ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากอยู่ระหว่างน้ำตกตะเพินคี่ใหญ่และน้ำตกตะเพินคี่น้อย ซึ่งในยามเช้ายังสามารถเดินทางต่อเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขาเทวดาได้
“อุทยานแห่งชาติพุเตย” นับเป็นอุทยานฯ ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวและจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม หากใครอยากสัมผัสธรรมชาติ ที่พุเตยแห่งนี้มาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline