ก้าวเข้าสู่ปีใหม่มาได้ราวสองอาทิตย์ หลายๆ คนยังคงรู้สึกถึงบรรยากาศของปีใหม่ที่ยังอบอวลอยู่ในเดือนมกราคม เราจึงขอต้อนรับปีขาล-ปีเสือนี้ ด้วยการพาไปเที่ยวชม 8 แหล่งท่องเที่ยวที่มีความเกี่ยวข้องกับ “เสือ” ให้ทุกคนได้ไปเที่ยวในปีเสือนี้มาฝากกัน
“ศาลเจ้าพ่อเสือ” กรุงเทพฯ
ศาลเจ้าพ่อเสือเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ในกรุงเทพมหานคร เป็นศาลเจ้าจีนแต้จิ๋วที่ถือว่าเก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง ภายในศาลประดิษฐานองค์เหี่ยงเที่ยงเสี่ยงตี่กง (ตั่วเล่าเอี๊ยกง) หรือเจ้าพ่อใหญ่, เจ้าพ่อเสือ, เทพเจ้าโชคลาภ และเทพเจ้าต่างๆ เป็นที่เคารพนับถือของทั้งคนไทยและจีนเป็นอย่างมาก
ตัวอาคารศาลเจ้าพ่อเสือที่อายุร้อยกว่าปีนี้มีความงดงามตามรูปแบบศาลเจ้าที่นิยมทางภาคใต้ของจีน ในแต่ละวัน ศาลเจ้าพ่อเสือจะคับคั่งไปด้วยผู้คนที่พากันมากราบไหว้เพื่อเสริมอำนาจบารมี โดยเฉพาะในปีเสือนี้น่าจะมีผู้คนมากราบไหว้มากเป็นพิเศษ ซึ่งหากใครจะมากราบไหว้สักการะก็สามารถเข้ามาซื้อเครื่องไหว้ที่ร้านธูปเทียนของศาลเจ้าได้โดยตรงภายในตัวศาลเจ้า หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ศาลเจ้าได้ หรือหากใครจะซื้อเครื่องเซ่นไหว้จากร้านค้าด้านนอกศาลก็อย่าลืมสอบถามตกลงราคาให้เรียบร้อยก่อนไหว้ เดี๋ยวจะเกิดกรณีไหว้ก่อนจ่ายทีหลังไปเกือบหมื่นบาทอย่างที่เป็นข่าว
“วัดถ้ำเสือ” กาญจนบุรี
“วัดถ้ำเสือ” ถือเป็นวัดดังเมืองกาญจน์ ตั้งอยู่ใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี โดดเด่นด้วยองค์พระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในกาญจนบุรี ตัวองค์พระมีความงดงาม ประดับด้วยโมเสกสีเหลืองทองดูอร่ามไปทั้งองค์
ไหว้พระเสร็จแล้วจะเดินไปชมวิวทุ่งหน้ากว้างๆ ให้สดชื่นที่ด้านหลังองค์พระ หรือถ้าเดินไหวก็แนะนำให้ขึ้นไปยังพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท บนชั้นต่างๆ ก็จะประดิษฐานพระพุทธรูป ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งที่ชั้นอื่นๆ ก็มีหน้าต่างรับลม และชมความงามของวิวรอบๆ และจะได้เห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นสีทอง ตัดกับความเขียวขจีของทุ่งนาที่อยู่โดยรอบ
“วัดถ้ำเสือ” กระบี่
อีกหนึ่งวัดชื่อเดียวกัน “วัดถ้ำเสือวิปัสสนา” ตั้งอยู่ใน ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 5-6 ก.ม. ที่นี่ในอดีตเป็นสำนักสงฆ์ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของ “หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ” พระเกจิชื่อดังของกระบี่
ภายในวัดถ้ำเสือมีพื้นที่กว้างขวาง ด้านล่างประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมให้กราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล และหากใครเรี่ยวแรงดีก็สามารถเดินขึ้นบันได 1,237 ขั้น ของวัดถ้ำเสือขึ้นสู่ยอดเขาแก้ว ซึ่งด้านบนนั้นเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุให้สักการบูชากัน และยังเป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองกระบี่ชั้นดี สามารถชมวิวได้ 360 องศารอบตัว และในยามเช้าบางวันที่สภาพอากาศเหมาะสมก็สามารถชมทะเลหมอกงดงามได้ไม่แพ้ภาคเหนือเลยทีเดียว
“วัดร่องเสือเต้น” เชียงราย
วัดร่องเสือเต้น เป็นวัดงามที่มีเอกลักษณ์และสีสันที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร ตัววัดตั้งอยู่ที่หมู่บ้านร่องเสือเต้น ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย วัดนี้สร้างสรรค์ขึ้นจากฝีมือของศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย คือนายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ลูกศิษย์อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผู้สร้างวัดร่องขุน ที่ได้นำฝีมือทางศิลปะมาสร้างวิหารวัดร่องเสือเต้นจนงดงามเป็นที่เลื่องลือ
ความโดดเด่นของวัดอยู่ที่ตัววิหารที่งดงามด้วยโทนสีน้ำเงินฟ้าตัดกับสีทอง โดยสีน้ำเงินฟ้าของตัววิหารนั้นแสดงถึงธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นศิลปแนวพุทธศิลป์ร่วมสมัยที่แฝงด้วยธรรมของพุทธองค์ ลวดลายปูนปั้นที่ประดับตามจุดต่างๆ ของวิหาร รวมถึงพญานาคราวบันไดและสัตว์หิมพานต์ต่างๆ นั้นก็ล้วนเป็นผลงานชั้นเยี่ยม ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนวัดแห่งนี้อยู่เสมอ
“คอกเสือ” น่าน
คอกเสือแห่ง จ.น่านนี้ คือส่วนหนึ่งของ “เสาดินนาน้อยและคอกเสือ” แหล่งท่องเที่ยวที่เกิดจากความน่าอัศจรรย์ทางธรณีวิทยา 2 แห่ง คือเสาดินนาน้อย หรือฮ่อมจ๊อม และคอกเสือ ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน โดยเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.นาน้อย จ.น่าน
เสาดินนาน้อยและคอกเสือเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา โดยมีอายุราว 10,000-30,000 ปี และเคยเป็นก้นทะเลมาก่อน ก่อนจะมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในยุคเทอร์เชียรีตอนปลาย แล้วถูก ดิน น้ำ ลม กัดเซาะจนเกิดจากการพังทลายของดินเป็นบริเวณกว้าง เกิดเป็นธรรมชาติรูปร่างประหลาด
สำหรับ “เสาดินนาน้อย” มีพื้นที่ราว 20 ไร่ มีประติมากรรมธรรมชาติรูปทรงประหลาด เป็นเสา เป็นแท่ง เป็นภูเขาแหลมลูกเล็กๆ หรือเป็นแนวกำแพงดินคล้ายเขาวงกต ส่วน “คอกเสือ” มีลักษณะเป็นหลุมดินกว้าง มีบันไดทางเดินลงไปสู่ด้านล่าง เหตุที่บริเวณนี้เรียกว่าคอกเสือ เนื่องมาจากในอดีตแถบนี้มีเสืออาศัยอยู่จำนวนมาก และมักจะออกมาไล่กินสัตว์ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ เหล่าชาวบ้านจึงช่วยกันไล่ต้อนเสือให้ลงไปในหลุมดินแห่งนี้แล้วช่วยกันปาก้อนหินและไม้แหลมขว้างใส่เสือจนตาย
“แก่งเสือเต้น” แพร่
แก่งเสือเต้น คือชื่อของเกาะแก่งธรรมชาติในแม่น้ำยม มีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร อยู่บริเวณหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ยม อ.สอง จ.แพร่ โดยชื่อของแก่งเสือเต้นนี้มาจากลักษณะของหินธรรมชาติก้อนหนึ่งในแก่งที่มีลักษณะคล้ายรอยเท้าเสือปรากฏอยู่
บริเวณแก่งเสือเต้นนี้จะมีหาดทรายปรากฏอยู่ทั่วไป เหมาะสำหรับกางเต็นท์พักแรมชมธรรมชาติและพักผ่อนฟังเสียงน้ำไหล โดยอุทยานแห่งชาติแม่ยมนี้มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ อ.สอง จ.แพร่ และ อ.งาว จ.ลำปาง มีสภาพป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยป่าสักธรรมชาติขนาดสูงใหญ่ นับได้ว่าเป็นตัวแทนป่าไม้สักของภาคเหนือเลยทีเดียว
“ตำหนักพระเจ้าเสือ” วัดตึก อยุธยา
วัดตึกเป็นวัดโบราณใน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระอารามที่สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘ (พระเจ้าเสือ) ทรงสถาปนาขึ้นโดยยังมีหลักฐานคือพระตำหนักที่ประทับปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้ โดยในรัชสมัยที่สมเด็จพระเพทราชาทรงครองราชย์สมบัตินั้น สมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ เมื่อเสด็จมาประทับ ณ พระนครศรีอยุธยา ก็ทรงประทับที่พระราชวังจันทร์เกษม (วังหน้า) และบางคราวก็เสด็จมาประทับ ณ พระตำหนักของพระองค์ ภายหลังที่ทรงครองราชย์สมบัติก็ทรงสถาปนาพระตำหนักของพระองค์ถวายเป็นพุทธาวาส และทรงยกตำหนักที่ประทับให้เป็นวิหารของวัด
ปัจจุบัน ภายในพระตำหนักเดิมของพระเจ้าเสือได้ประดิษฐานพระบรมรูปพระเจ้าเสือและทหารคู่พระทัยคือพันท้ายนรสิงห์
“หลวงพ่อเสือ วัดแดงธรรมชาติ” นนทบุรี
มาที่วัดแดงธรรมชาติ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี ที่หลายคนอาจจะเคยเห็นองค์พระพุทธรูปปางนาคปรกองค์ใหญ่เด่นสง่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ที่วัดแดงธรรมชาติมีวิหารหลวงพ่อเสือ ที่ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปนามว่า "หลวงพ่อเสือ" เป็นพระพุทธรูปบางนาคปรก เนื้อศิลาแลง ด้วยลักษณะของพระพักตร์ที่ดุดันเหมือนเสือ ชาวบ้านจึงเรียกว่า "หลวงพ่อเสือ" และด้วยเหตุนี้เอง เมื่อใครมาบนบานศาลกล่าวแล้วประสมความสำเร็จ ก็จะแก้บนด้วยการถวายรูปปั้นเสือ และคนเกิดปีเสือก็มักมากราบไหว้ท่านด้วยเช่นกัน
#################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline
