xs
xsm
sm
md
lg

ไหว้ “คำชะโนด-พระใส” เที่ยวมิติใหม่ “อุดร-หนองคาย” ในแบบ “Happy Model”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี


สักการะปู่-ย่า พญานาคที่คำชะโนด แหล่งท่องเที่ยวสายมูยอดฮิตของไทย
ชวนไหว้ขอพร พ่อปู่-ย่า พญานาคแห่ง “คำชะโนด” ขอพร “หลวงพ่อพระใส” ในเส้นทางนคราธานี “อุดร-หนองคาย” กับการท่องเที่ยวแนวคิดใหม่ “Happy Model” เน้น กินดี อยู่ดี ออกกำลังกายดี และแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน

ไวรัสนรก “โควิด-19” ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างบนโลกนี้เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

ส่งผลให้เทรนด์การท่องเที่ยวในยุค New Normal และ Next Normal หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายและผ่านพ้น ผู้คนส่วนหนึ่งต่างหันมาท่องเที่ยวอย่างใส่ใจในเรื่องของสุขภาพกาย-ใจ-จิต ชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้ทาง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)" จึงจับมือกับ “หอการค้าไทย” และพันธมิตร จัดกิจกรรมท่องเที่ยวในแนวคิดใหม่ “Happy Model” (โมเดลอารมณ์ดีมีความสุข) ที่มุ่งเน้นการ “กินดี อยู่ดี ออกกำลังกายดี แบ่งปันสิ่งดี ๆ” ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์สนุกเพลิดเพลิน สนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น และพยายามลดคาร์บอนให้มากที่สุด ภายใต้แนวคิด BCG: Bio-Circular-Green Economy ท่องเที่ยวสมดุล ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism) เพื่อมุ่งสู่ “การท่องเที่ยวคุณภาพสูง” (การท่องเที่ยวที่ตอบสนองต่อนักท่องเที่ยวคุณภาพและยั่งยืน)

เริงลีลาศริมหนองประจักษ์ กิจกรรมออกกำลังกายดีในแบบ แฮปปี้โมเดล
อุดร-คำชะโนด

สำหรับโครงการแฮปปี้โมเดลเปิดประเดิมกิจกรรมแรก (ทริปพิเศษ) ในเส้นทางวงรอบ 2 เมืองนคราธานี “อุดรธานี-หนองคาย-อุดรธานี” (3 วัน 2 คืน) ที่ถือเป็นทริปตัวอย่างนำร่องให้ผู้ประกอบการที่สนใจ นำแฮปปี้โมเดลไปประยุกต์ใช้กับกิจกรรมท่องเที่ยววิถีใหม่ในพื้นที่ของตน

ทริป “แฮปปี้โมเดล” อุดรฯ-หนองคาย เป็นการเชื่อมโยงวิถีความเชื่อดั้งเดิมเรื่อง “พญานาค” เข้ากับกิจกรรมท่องเที่ยววิถีใหม่ โดยผู้เข้าร่วมทริปจะต้องผ่านการคัดกรองตามมาตรการทางสาธารณสุขของทั้ง 2 จังหวัด

พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี
สำหรับกิจกรรมวันแรกเราเปิดประเดิมกันที่ “พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี” ที่เป็นการนำอาคารเก่า (ราชินูทิศ) สถาปัตยกรรมโคโลเนียลอันสวยงาม มาปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยนำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของจังหวัดอุดรธานีได้อย่างน่าสนใจ

ต่อจากนั้นเป็นการนั่งรถราง “คุณทองโบราณ” ชมตัวเมืองอุดร ผ่านสถานที่น่าสนใจต่าง ๆ อาทิ วัดโพธิสมภรณ์ หนองประจักษ์ ศาลหลักเมือง อนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ฯ ก่อนไปจบที่ “ศาลเจ้าปู่ย่า” เพื่อสักการะอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองอุดร แล้วไปต่อกันที่ “ศูนย์วัฒนธรรมไทยจีน” ที่ภายในอวลไปด้วยกลิ่นอายบรรยากาศแห่งความเป็นจีนที่น่าสนใจยิ่ง

ศรัทธาที่ป่าคำชะโนด วังนาคินทร์
จากนั้นในภาคบ่ายเรามุ่งหน้าสู่ “ป่าคำชะโนด วังนาคินทร์” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “คำชะโนด” (ต.วังทอง อ.บ้านดุง) เกาะลอยน้ำอันน่าทึ่ง ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญประจำทริป แหล่งท่องเที่ยวสายมูที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย

ที่คำชะโนดมีไฮไลท์อยู่ 3 จุดหลัก ๆ ให้เดินสักการะขอพร ไล่เรียงกันไปในเส้นทางวงรอบ เริ่มจาก “ศาลพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา” องค์พญานาคราชและนาคราชเทวี ที่เป็นองค์ประธานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของคำชะโนด เชื่อกันว่าท่านเป็นผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้

ถัดมาเป็นจุด “ต้นมะเดื่อยักษ์” ขนาดใหญ่มีอายุนับร้อยปี เชื่อกันว่าเป็นขุมทรัพย์ของพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา

ต้นมะเดื่อยักษ์
และปิดท้ายกันที่ “บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์” หรือ “บ่อคำชะโนด” เชื่อกันว่าเป็นทางเข้า-ออก ระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ของเหล่าพญานาค

สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คำชะโนดสามารถขอพรได้หลากหลาย โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ เลขเด็ด ที่มีคนมากมายสมหวัง ถูกหวยรวยกันมานักต่อนัก (อย่างไรก็ดีชาวบ้านที่นี่แนะนำว่าไม่ควรขอเรื่องความรัก คู่ครอง เพราะจะไม่สมหวัง)

นอกจากนี้เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของคำชะโนด (ซึ่งเป็นผลพวงจากความเชื่อเรื่องพญานาค) คือการอนุรักษ์สภาพธรรมชาติของ “ป่าพรุดิบชื้น” หรือ “เกาะลอยน้ำ” พื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญของภาคอีสานเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะป่า “ต้นชะโนด” ไม้หายาก ซึ่งที่นี่ถือเป็นป่าต้นชะโนดขนาดใหญ่ผืนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ในบ้านเรา

คำชะโนด ป่าต้นชะโนดผืนใหญ่แห่งสุดท้ายในเมืองไทย
จากป่าคำชะโนดเราเดินทางกลับสู่ตัวเมืองอุดรฯ มาออกกำลังกายเบา ๆ เดินทอดน่องชมบรรยากาศของ “หนองประจักษ์” ยามค่ำ ก่อนรับประทานอาหารเย็นมื้อพิเศษริมหนองประจักษ์ (ด้านหลังพิพิธภัณฑ์พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี) ที่มีดนตรีขับกล่อมพร้อมการเต้น “ลีลาศ” หน้าฟลอร์ ให้ผู้สนใจได้เริงลีลาศขยับแข้งขยับขากัน กับกิจกรรมออกกำลังกายดี จากการแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน ก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายไปพักผ่อนเข้านอนตามอัธยาศัย

ทะเลบัวแดง-หนองคาย


ทะเลบัวแดง หนองหาน กุมภวาปี
เช้าวันที่ 2 คณะเราตื่นแต่เช้าตรู่ แล้วมุ่งหน้าสู่ “หนองหาน” อ.กุมภวาปี เพื่อล่องเรือชมความงามของดอก “บัวสาย” หรือ “บัวแดง” ที่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ทางการท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรฯในช่วงหน้าหนาว (ราว ธ.ค.-ก.พ.)

ทุก ๆ ปีบรรดาดอกบัวสายในหนองหานจะพร้อมใจกันออกดอกเบ่งบานชมพูสะพรั่งสวยงามเต็มผืนน้ำ จนได้เชื่อว่าเป็น “ทะเลบัวแดง” อันลือลั่น ซึ่งสื่อต่างชาติเคยยกให้ทะเลบัวแดงหนองหาน เป็นทะเลสาบสวยแปลกอันดับ 2 ของโลกมาแล้ว

นกอีโก้ง เริงร่าออกหากิน
นอกจากทะเลบัวแดงแล้วหนองหานยังมีวิวทิวทัศน์อันงดงาม และนกน้ำจำนวนมากที่ออกหากินยามเช้า โดยเฉพาะ “นกอีโก้ง” ที่พบเจอมากเป็นพิเศษ ทั้งในดงดอกบัว ทุ่งหญ้า และทุ่งจอกแหนที่แลดูเป็นแผ่นผืนใหญ่กลางทะเลสาบ

ช่วงบ่ายเรามุ่งหน้าสู่ “วัดป่าภูก้อน” (อ.นายูง) อีกหนึ่งวัดงามและวัดดังของอุดรฯ ที่สร้างอยู่บนเขาอันร่มรื่น บนนั้นเป็นจุดชมวิวชั้นดี

พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี วัดป่าภูก้อน
วัดป่าภูก้อนมีอาคารประธานคือ “วิหารสังฆบิดร” อันสวยงามอลังการ ภายในประดิษฐาน “พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี” พระพุทธรูปนอนปางปรินิพพานขนาดใหญ่ ยาว 20 เมตร แกะสลักอย่างประณีตสวยงามจากหินอ่อน ให้สาธุชนได้เคารพสักการะกัน

ต่อจากนั้นเราเดินทางข้ามจังหวัดจากอุดรฯ สู่ “หนองคาย” เพื่อไปทำกิจกรรมที่ “ศูนย์วิสาหกิจชุมชนปากโสม-ลําภูพาน” (บ้านปากโสม ต.ผาตั้ง อ.สังคม) แหล่งท่องเที่ยวชุมชนริมฝั่งโขงอันทรงเสน่ห์

ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของการนำ “หมากหลอด” ผลไม้พื้นบ้านมาทำเป็นน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ

ทดลองคั่วชาสมุนไพรใบหมากหลอดริมโขง
นอกจากนี้ผู้มาเยือนยังสามารถร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ กับชุมชน อย่างเช่น พิธีสักการะ “หลวงปู่วัดลุ่มต้นโพธิ์” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสังคม ตามความเชื่อพื้นบ้านด้วยขันหมากเบ็ง ทดลอง (D.I.Y.) คั่วชาสมุนไพร “ใบหมากหลอด” หรือใครจะมานอนเสพบรรยากาศริมโขงที่สังคมแล้ว เที่ยวแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน ยลทะเลหมอกที่ “ผาชมหมอก” (ที่เที่ยวใหม่) อันสวยงามก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

สกายวอล์คพื้นกระจกใสแห่งแรกของเมืองไทยที่วัดผาตากเสื้อ
ช่วงเย็นเราไปชมวิวริมโขง ที่ “สกายวอล์ควัดผาตากเสื้อ” ซึ่งเป็นสกายวอล์คพื้นกระจกใสแห่งแรกของเมืองไทย ที่นอกจากจะมีวิวทิวทัศน์สวยงามของ 2 แผ่นดินไทย-ลาวแล้ว ที่นี่ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ องค์พระประธาตุ และพระธาตุเจดีย์ริมโขงให้กราบสักการะกัน ก่อนพวกเราเดินทางเข้าสู่ที่พักในตัวเมืองหนองคายปิดท้ายโปรแกรมวันที่ 2 ชองทริป

หลวงพ่อพระใส-วัดป่าบ้านตาด


เช้าวันที่ 3 วันสุดท้ายของทริป เราตื่นกันแต่เช้าอีกวันเพื่อไปใส่บาตรริมฝั่งโขง จากนั้นในช่วงสายไปไหว้ “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหนองคายเสริมสิริมงคลกันที่ “วัดโพธิชัย” ในตัวเมืองหนองคาย

หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหนองคาย
สำหรับจังหวัดหนองคาย หลังการเปิดเส้นทางรถไฟจีน-ลาว “คุนหมิง-เวียงจันทน์” ถือว่ามีความคึกคักเป็นพิเศษ เพราะเป็นประตูเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟดังกล่าว ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ของภาครัฐและเอกชนในหนองคาย ที่จะต้องวางแผนเตรียมความพร้อมรับมือกับการเดินทางของคนจีนที่จะผ่านลาว (เวียงจันทน์) เข้าสู่ไทยในอนาคต เพื่อให้เราได้ประโยชน์ใมนหลากหลายมิติจากการมีเส้นทางรถไฟดังกล่าว

หลังไหว้หลวงพ่อพระใส เราไม่ลืมที่จะไปชอปปิ้งกันที่ “ตลาดท่าเสด็จ” ที่มีสินค้าหลากหลายให้เลือก โดยเฉพาะสินค้าจากจีนและเวียดนามที่เป็นดาวเด่นของที่นี่ ก่อนจะไปเดินชิลล์ ชมวิวริมโขงรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านริมโขง และมุ่งหน้ากลับสู่จังหวัดอุดรธานีอีกครั้ง

ริมโขงท่าเสด็จมีทั้งตลาดแหละทางเดินชมวิว
สำหรับช่วงท้ายของทริป (วันที่ 3) ที่อุดรฯ เราไปยัง “วัดป่าบ้านตาด” (ต.บ้านตาด อ.เมือง) เพื่อชม “พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล” ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่บรรจุอัฐิธาตุ และสถานที่เผยแผ่พระธรรมคำสอน ของ “หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน” ซึ่งวันนี้พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กใหม่ทางพุทธศาสนาของอุดรธานี (วันนี้เปิดให้ชมเฉพาะภายนอก และคาดว่าจะเปิดให้ชมภายในหลังการเปิดอย่างเป็นทางการในราวเดือนมีนาคม 2565)

พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล
ก่อนปิดทริปจากเมืองอุดรฯ เราไปทำกิจกรรม D.I.Y กระเป๋าทำมือกันที่ “อ้วนกลม แฮปปี้ ฟาร์ม” ที่ได้รับรางวัล ”สุดยอดนวัตกรรมสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว TAT GYM 2021” ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับวัดป่าบ้านตาด

จากนั้นไปปิดท้ายทริปด้วยการเลือกซื้อของฝากที่ “VT แหนมเนือง Community Mall” หนึ่งในจุดรับประทานอาหารและเลือกซื้อของฝากขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหนองคาย ถือเป็นการปิดท้ายทริป “แฮปปี้โมเดล” อุดร-หนองคาย ในแบบแฮปปี้ ๆ ที่คาดว่าบางคนในทริปนี้อาจจะยิ่งแฮปปี้มากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณหลังวันหวยออก อันเนื่องมาจากอานิสงส์ของพ่อปู-ย่า พญานาคแห่งคำชะโนด ที่นำโชคลาภมาให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาและคิดดี ประพฤติ ปฏิบัติดี

หนองคาย ประตูสำคัญของการเชื่อมเส้นทางรถไฟจีน-ลาว
#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline




กำลังโหลดความคิดเห็น