พบรอยร้าวเพิ่มที่องค์พระประธานวัดภูมินทร์ จ.น่าน หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวใน สปป.ลาว หลังเคยร้าวจากแผ่นดินไหวครั้งก่อนเมื่อปี 62
หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวใน สปป.ลาว ความแรง 5.8 แมกนิจูด เมื่อเวลา 04.06 น.ที่ผ่านมา จนผู้คนในบริเวณใกล้เคียงสามารถรับรู้และรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้อย่างชัดเจน
จากแรงสั่นสะเทือนดังกล่าว ทำให้เกิดความเสียหายที่วัดภูมินทร์ วัดสำคัญของ อ.เมือง จ.น่าน โดยพบร่องรอยกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือหลุดออก และองค์พระประธานจตุรพักตร์ 4 ด้าน ซึ่งตั้งประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถพบรอยร้าว ขยายเพิ่มจากความเสียหายแผ่นดินไหวครั้งก่อน 6.4 ริกเตอร์เมื่อปี 2562 และพบรอยร้าวใหม่อีกหลายจุดเป็นแนวยาวจนมองเห็นปูนภายในอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวครั้งนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่จะเร่งออกสำรวจ อีกทั้งในจังหวัดน่านยังมีวัดเก่าแก่อายุหลายร้อยปีจำนวนมาก ทั้งวัดพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุเขาน้อย วัดพระธาตุเบ็งสกัด และวัดต้นแหลง อ.ปัว และวัดหนองแดง อ.เชียงกลาง ซึ่งอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางของแผ่นดินอีกด้วย
สำหรับ “วัดภูมินทร์” เป็นวัดงามโดดเด่นแห่งเมืองน่าน สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2139 โดยเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ สร้างขึ้นหลังจากพระองค์ขึ้นครองนครน่านได้ 6 ปี ปรากฏชื่อในคัมภีร์เมืองเหนือว่าเดิมชื่อ “วัดพรหมมินทร์” แต่ภายหลังได้เรียกเพี้ยนจากเดิมเป็นวัดภูมินทร์ ที่วัดแห่งนี้มีความงดงามทางด้านพุทธศิลป์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มีพระวิหารและพระอุโบสถเป็นหลังเดียวกันสร้างทรงจัตุรมุข ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาค 2 ตัว
ที่เป็นไฮไลท์คือในพระวิหารมี “พระประธานจตุรทิศ” เป็นพระประธานปางมารวิชัยองค์ใหญ่สีทองอร่าม 4 องค์ ประทับนั่งบนฐานชุกชีเดียวกัน หันพระปฤษฎางค์ชนกัน (หันหลังชนกัน) หันพระพักตร์ไปทางทิศทั้ง 4
นอกจากนั้นภาพจิตรกรรมฝาผนังของที่นี่ยังมีความโดดเด่น สันนิษฐานว่าวาดโดย “หนานบัวผัน” ศิลปินพื้นเมืองชาวไทลื้อท่านเดียวกับที่ฝากผลงานภาพจิตรกรรมฝาผนังไว้ที่วัดหนองบัว อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ภาพเด่นๆ ที่หลายคนรู้จักดีก็คือภาพของ “ปู่ม่าน ย่าม่าน” ที่อยู่ใกล้กับประตูทิศตะวันตก ได้ชื่อว่าเป็นภาพกระซิบรักบันลือโลก ที่ใครมาก็ต้องมาชมและขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดภูมินทร์นั้นสามารถถ่ายทอดวิถีชีวิตชาวเมืองน่านออกมาได้อย่างน่าชม โดยเรื่องราวส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของคันทนกุมารชาดกและเนมิราชชาดก แต่ศิลปินผู้วาดภาพได้สอดแทรกและบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตชาวเมืองน่านเข้าไปในภาพได้อย่างกลมกลืน เช่น การแต่งกายของหญิงสาวที่นิยมนุ่งผ้าซิ่นตีนจกซึ่งเป็นซิ่นลายน้ำไหล อันเป็นผ้าทอเอกลักษณ์ของเมืองน่าน การสักลายตามตัวของหนุ่มๆ ชาวล้านนา กิจกรรมในวิถีชีวิตประจำวันเช่นการทอผ้าด้วยหูก การเกี้ยวพาราสีของหนุ่มสาว การมาพบปะกันระหว่างหนุ่มสาวที่ชานบ้านในเวลาค่ำขณะที่หญิงสาวกำลังปั่นฝ้าย สภาพบ้านเรือนของชาวล้านนาสมัยก่อน รวมไปถึงชาวพื้นเมืองและฝรั่งต่างชาติที่เดินทางเข้ามาติดต่อค้าขายในเมืองน่านสมัยนั้น เป็นต้น
#################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline