ดราม่า "ภูผาด่าง" อช.ภูผายล อุทยานยังไม่เปิด แต่นทท. แอบลักลอบขึ้นไปเที่ยวเพียบ

เกิดเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมา เมื่อมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มได้แอบเข้าไปยัง “ภูผาด่าง” ที่อยู่ภายในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูผายล จ.สกลนคร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ออกมาห่วงเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวยังไม่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว


โดยทางเฟซบุ๊กเพจอุทยานแห่งชาติภูผายล - Phu Pha YonNational Park ได้โพสต์ภาพของกลุ่มนักท่องเที่ยวพร้อมข้อความว่า “ประกาศ สถานที่ดังกล่าวยังไม่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว หากผู้ใดเข้าไปในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯจะมีโทษตามกฏหมาย มาตรา ๒๐ บุคคลซึ่งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้สั่งให้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
เนื่องจากทางอุทยานแห่งชาติภูผายล เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทุกท่านที่เข้าไปในสถานที่นี้”

สำหรับภาพที่ทาง อช. ภูผายล ได้นำมาลงนั้น เป็นภาพจากเฟซบุ๊กของกลุ่มนักท่องเที่ยวหลายกลุ่ม ที่ได้มีการเดินทางเข้ามายังภูผาด่างโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากทาง อช.ภูผายล ก่อน และนอกจากนั้นยังมีหลายเพจที่แอบอ้างเพื่อนำพาเข้าไปท่องเที่ยวอีกด้วย


ทั้งนี้จากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผายล ยังได้รับการยืนยันว่า “ภูผาด่าง ยังไม่เปิดให้เข้าไปท่องเที่ยว เนื่องจากว่าเส้นทางยังไม่ได้รับการศึกษาเพื่อใช้สำหรับการท่องเที่ยว และพื้นที่โดยรอบยังมีความอันตรายอยู่ ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีนโยบายที่จะเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะว่าเจ้าหน้าที่ภายในอุทยานฯ มีจำนวนน้อยไม่เพียงพอต่อการสำรวจเส้นทางและดูแลนักท่องเที่ยว โดยที่เห็นว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวเข้าไปนั้น เป็นการแอบเข้าไปเอง ซึ่งผิดกฏหมายและอาจถูกปรับได้”








สำหรับ “ภูผาด่าง” โดยรอบมีลักษณะเป็นหน้าผาและมีชะง่อนหินยื่นออกไปจากหน้าผา ซึ่งหากยังไม่ได้รับการสำรวจพื้นที่บริเวณนี้ให้ดี อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เข้าไปยังไม่ชำนาญเส้นทาง อาจทำให้พลาดท่าตกหน้าผาได้ รวมถึงเส้นทางที่ใช้เดินทางเข้าไปยังไม่เหมาะกับการท่องเที่ยว อาจทำให้หลงทางหรือเจออันตรายระหว่างเส้นทางได้








ซึ่งหลังจากที่ทาง อช. ภูผายล ได้โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งฝั่งที่เห็นด้วยว่าไม่ควรเข้าไปในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับอนุญาต และฝั่งที่เห็นว่าควรเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว


โดยฝั่งที่เห็นด้วยว่าไม่ควรเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตมีการแสดงความคิดเห็นว่า "มันก็ต้องศึกษาระบบนิเวศ พันธุ์พืช สัตว์ ผลกระทบก่อน อุทยานที่เขามีด่านห้ามเข้าคือมีพืชหรือสัตว์ที่หายากหรือใกล้สูญพันธ์ ป่านะไม่ใช่แปลงผักที่จะสำรวจวันเดียวละรู้เลย งบการสำรวจแต่ละท้องที่ก็ไม่เท่ากัน", "เป็นพื้นที่ของอุทยาน ยังไม่ได้ศึกษาผลกระทบของการเข้าไปเที่ยว กางวางแผนเรื่องความปลอดภัย เผื่อมีคนหาย คนหลงทาง คนบาดเจ็บจะได้เข้าไปช่วยได้ง่าย ต้องมีเจ้าหน้าที่ไปดูแล การจะเป็นสถานที่เที่ยวได้ต้องมีความพร้อมค่ะ จากที่เห็นคือมีคนในพื้นที่พาขึ้นไป ไม่ได้ขออนุญาตทางเจ้าหน้าที่ของอุทยานค่ะ", "เข้ากันเองโดยไม่ขออนุญาตพอเป็นอะไรมาก็เป็นภาระเจ้าหน้าที่อีก" เป็นต้น


ส่วนในฝั่งที่เห็นว่าควรเปิดให้เข้าไปท่องเที่ยวได้มีการแสดงความคิดเห็นว่า "อุทยานแห่งชาติ เป็นสมบัติของของคนทั้งชาติ แต่คนออกกฎระเบียบ กำหนดข้อห้าม ค่าปรับ ค่าใช้สถานที่ เหมือนไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับประโยชน์ …", "น่าจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน สร้างรายได้ให้ชุมชน ให้ชุมชนช่วยดูแลรักษาป่า เข้าใจว่าติดขัดข้อกฏหมายแต่บางที่มันก็ควรได้รับการพัฒนาและทำให้ถูกต้องได้แล้ว" เป็นต้น





#################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline