หากได้มาเที่ยว จ.ลำปาง หลายคนต้องนึกถึง “รถม้า” ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งเมืองลำปาง แต่ที่นี่ก็ยังมีอีกหนึ่งสถานที่นั่นก็คือที่ “หล่มภูเขียว” ภายในอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ที่เป็นอีกหนึ่งอันซีนของจังหวัดนี้
ก่อนอิ่นขอแนะนำให้รู้จักกับ “อช. ถ้ำผาไท” อุทยานแห่งชาติที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนัก แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายซ่อนอยู่ ทั้งน้ำตกและถ้ำสวยงามหลายแห่ง รวมถึงหล่มภูเขียวที่เป็นไฮไลต์คู่อุทยานฯ นี้ด้วย
โดย อช. ถ้ำผาไท มีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่อำเภองาว อำเภอเมือง อำเภอแจ้ห่ม อำเภอแม่เมาะ อำเภอวังเหนือจังหวัดลำปาง มีลักษณะภูมิประเทศทั่วไปเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน สภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์มาก
สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่จะพาไปชมกันก็คือ “หล่มภูเขียว” เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอที่มีลักษณะเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่ราว 1-2 ไร่ เป็นแหล่งน้ำอยู่บนเขามีลักษณะคล้ายปล่องภูเขาไฟ ซึ่งน้ำในแอ่งลึกมากจนมองเห็นเป็นสีเขียวมรกตสวยงาม แต่ความลึกนั้นไม่สามารถระบุได้
มีการสันนิษฐานว่าแอ่งแห่งนี้เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกในสมัยดึกดำบรรพ์ หรืออาจเกิดจากการยุบตัวของหินปูนซึ่งเคยเป็นเพดานถ้ำมาก่อน แล้วจมลงใต้น้ำ เรียกว่าหลุมยุบ (Sink Hole) ต่อมาจึงกลายเป็นแหล่งรับน้ำ และในแอ่งน้ำนั้นมีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
ธรรมชาติโดยรอบหล่มภูเขียวเป็นป่าดิบแล้ง มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้ที่พบสถานที่แห่งนี้เป็นครั้งแรกคือชาวบ้านที่เดินป่าเข้ามาพบแหล่งน้ำสีเขียวมรกตอยู่ภายใต้หุบเขาดังกล่าว จึงเรียกชื่อว่า "หล่มภูเขียว" ส่วนหุบเขาอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกันแต่ไม่มีน้ำ เรียกว่า "หล่มแล้ง"
ชาวบ้านเชื่อว่าหล่มภูเขียวเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีพญางูใหญ่อาศัยอยู่ จึงได้ทำพิธีบูชาน้ำเป็นประจำทุกปี โดยมีเรื่องเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่าสมัยก่อนชาวบ้านจะนำขันข้าวพร้อมดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หล่มภูเขียว โดยนำเครื่องบูชาไปวางบนขอนไม้และลอยไปกลางลำน้ำเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบึงน้ำ
และได้เกิดปรากฏการณ์ขอนไม้จมลงไปใต้น้ำแล้วลอยขึ้นมาโดยที่เทียนยังไม่ดับ จึงเกิดความเชื่อว่าแหล่งน้ำนี้เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านจึงนำน้ำจากหล่มภูเขียวมาใช้ดื่มกินและอธิษฐานขอให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บและนำไปใช้ในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวบ้านตามความเชื่อสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน ซึ่งใกล้กันนั้นยังมี “ศาลพ่อปู่หล่มภูเขียว” ที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลหล่มภูเขียวอยู่ให้ได้สักการะกันได้
นอกจากนั้นภายในเขต อช.ถ้ำผาไท ก็ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมาหมาย เริ่มที่ “ถ้ำผาไท” เป็นถ้ำหินปูนที่มีหินงอกและหินย้อยที่สวยงามอยู่ตลอดเส้นทางเดิน ตัวถ้ำมีความลึกประมาณ 1,150 เมตร แต่สามารถเข้าชมได้ประมาณ 405 เมตร ซึ่งภายในถ้ำมีรอยจารึกพระปรมาภิโธยย่อ “ป.ป.ร.” ซึ่งรัชกาลที่ 7 ทรงจารึกไว้เมื่อครั้งเสด็จประพาสถ้ำผาไทในปี 2469
และยังมี “ถ้ำโจร” ที่สามารถเดินทะลุถ้ำออกไปอีกเส้นทางหนึ่งได้โดยไม่ต้องย้อนกลับทางเดิม และ “ถ้ำราชคฤห์” ที่มีความลึกประมาณ 100 เมตร ให้เดินเที่ยวชมความงามของหิงอกหินย้อยกัน
จากนั้นมาคลายร้อนกันที่น้ำตกสวยๆ กันบ้าง โดยภายใน อช. ถ้ำผาไท จะมีน้ำตกอยู่หลายแห่งเช่นกัน เช่น “น้ำตกแม่แก้” น้ำตกขนาดเล็ก เกิดจากลำห้วยแม่แก้ สูงประมาณ 10 เมตร มีชั้นเล็กๆ น้อยๆ ลดหลั่นกันอีก 14 ชั้น สามารถลงเล่นน้ำได้ บริเวณนี้มีบ้านพักและลานกางเต็นท์ให้บริการด้วยเช่นกัน โดยเหมาะที่จะมาเที่ยวหลังฤดูฝนใหม่ๆ ซึ่งน้ำตกจะมีน้ำมากเป็นพิเศษ
จากน้ำตกแม่แก้สามารถขับรถต่อตามเส้นทางไปยัง “น้ำตกเกาฟุ” ได้ โดยจะอยู่ห่างจากน้ำตกแม่แก้ประมาณ 2 กิโลเมตร น้ำตกเกาฟุนี้เป็นน้ำตกที่เกิดจากสายน้ำซึ่งไหลมาจากถ้ำราชคฤห์ เป็นน้ำตกหินปูนที่ได้รับการปรับแต่ง ทัศนียภาพ ให้มีความสวยงาม โดยชาวไทยภูเขาชื่อนาย “เกาฟุ” จึงเรียกน้ำตกนี้ตามชื่อของเขา
และยังมี “น้ำตกตาดเหมย” เป็นน้ำขนาดตกขนาดกลาง ที่น้ำจะไหลลงแอ่งน้ำรองรับลงมาเป็นชั้นๆ มีความสูง 9 ชั้น และ “น้ำตกตาดน้อย” เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ที่มีน้ำใสไหลตลอดปีชวนเล่นไม่แพ้กัน
ส่วนใครที่ชอบการล่องแพชมธรรมชาติสามารถมาที่ “อ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม” ที่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมีชื่อเสียงของจังหวัดลำปาง อยู่ห่างจากตัวเมืองไป 38 กิโลเมตร
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาล่องแพหรือเรือชมทิวทัศน์ของทะเลสาบและเกาะกลางน้ำได้อีกด้วย โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจได้ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
ในขณะนี้ อช. ถ้ำผาไท ได้เปิดการท่องเที่ยวแล้วแบบ New Normal ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ผู้ที่สนใจจะเดินทางไปท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท โทร. 08-2936-7076 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท จังหวัดลำปาง -Tham Pha Thai National Park
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline