อีกไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยแล้ว จากกำหนดเดิมในเดือนตุลาคม เลื่อนมาเป็นวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เพื่อเตรียมความพร้อมให้ได้มากที่สุด กับพื้นที่ 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และ ชลบุรี
ซึ่งที่ “เชียงใหม่” นั้น เตรียมพร้อมจะเปิดพื้นที่บางส่วนเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภายใต้โครงการ “Charming Chiang Mai” (ชาร์มมิ่ง เชียงใหม่) โดยมีพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอแม่ริม อำเภอแม่แตง และอำเภอดอยเต่า
แนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของเชียงใหม่ล่าสุดคือ จะเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาสู่จังหวัดเชียงใหม่ โดยผ่านทางสายการบิน หรือผ่านทางภูเก็ต หรือเป็นเมืองเชื่อมต่อมาจากภูเก็ต หรือ เกาะสมุย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องทำการจองโปรแกรมและชำระเงินล่วงหน้า และเป็นการท่องเที่ยวแบบ Seal Route ถอดแบบมาจาก Phuket Sandbox
นอกจากนี้ยังมีการเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ชุมชนต่างๆ ที่เป็นเส้นทางท่องเที่ยว อาทิ ในเขตคูเมืองเชียงใหม่ตั้งเป้าให้ครบ 100% เพื่อให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย หรือ COVID Free Zone รวมถึงเพิ่มความเข้มงวดพื้นที่ในสถานประกอบการต่าง ๆ ให้สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวใน “อำเภอเมืองเชียงใหม่” นั้น มีทั้งส่วนที่เป็นวัดวาอารามเก่าๆ ศิลปะแบบล้านนา คูเมือง กำแพงเมือง ย่านช้อปปิ้ง รวมไปถึงร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ และร้านของฝากต่างๆ
เขตเมืองเก่าในตัวเมืองเชียงใหม่ มีทั้งในและนอกกำแพงเมือง ซึ่งจะแบ่งเขตด้วย 4 แจ่ง และ 5 ประตูของเมืองเชียงใหม่ รวมถึงมีคูเมืองล้อมรอบ ได้แก่ แจ่งศรีภูมิ แจ่งก๊ะต้ำ แจ่งกู่เฮือง และ แจ่งหัวลิน ส่วนประตูเมืองได้แก่ ประตูช้างเผือก ประตูเชียงใหม่ ประตูท่าแพ ประตูสวนดอก และ ประตูสวนปรุง
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นวัด ตลาด และสถานที่สำคัญในตัวเมืองเชียงใหม่ ก็มีที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น “อนุสาวรีย์สามกษัตริย์” อันได้แก่ พญามังราย พ่อขุนรามคำแหง และพญางำเมือง ผู้ทรงเป็นพระสหายและได้ร่วมกันสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้น
“วัดเชียงมั่น” วัดที่เก่าแก่ที่สุดในตัวเมืองเชียงใหม่ และถือเป็นวัดแห่งแรกในเขตกำแพงเมือง เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสําคัญของเชียงใหม่ คือ “พระแก้วขาว” (พระเสตังคมณี) และ “พระศิลาเจ้า” ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนชาวเชียงใหม่ มีพระวิหารหลวง สถาปัตยกรรมแบบล้านนา ด้านหลังเป็น “เจดีย์ช้างล้อม” รูปทรงสถาปัตยกรรมล้านนาฐานช้างล้อม องค์เจดีย์ผสมสี่เหลี่ยมและทรงกลมเปิดทองจังโก สร้างขึ้นครั้งพญามังรายสถาปนาวัดเชียงมั่น และได้รับการบูรณะซ่อมแซมจากผู้ครองนครเชียงใหม่สืบมา
“วัดเกตการาม” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง ฝั่งตรงข้ามกับตลาดวโรรส ภายในวัดมี “พระเกษแก้วจุฬามณี” ที่คนเกิดปีจอ นิยมไปทำบุญสักการะกันเพราะเป็นพระธาตุประจำปีจอ สำหรับ “อุโบสถ” ของวัด ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม เพราะถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อุโบสถหลังนี้จะเปิดใช้เฉพาะในงานพิธีอุปสมบทเท่านั้น และที่สำคัญห้ามสุภาพสตรีขึ้นไป แม้จะไม่ได้เข้าชมแต่ก็สามารถชมความงดงามของศิปกรรมที่ประดับอยู่ด้านหน้าได้ ส่วน “พระวิหาร” มีประตูทางเข้าสามทาง หลังคาทรงจั่วเรียงซ้อนกัน 5 ชั้น ศิลปกรรมงดงามทั้งภายในและภายนอก
“ตลาดจริงใจ” หรือ “จริงใจ มาร์เก็ต” ตลาดนัดยามเช้าใต้ร่มไม้ใหญ่ ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ภายในตลาดจะแบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนจริงใจ Farmers Market เชียงใหม่ พืชผักผลไม้ออร์แกนิคและปลอดสาร ส่งตรงจากสวนเกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง และโซนรัสติคมาร์เก็ต จำหน่ายสินค้าแฮนด์เมด ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า งานไอเดีย ของตกแต่งบ้าน ซึ่งทำด้วยมือนำเสนอด้วยใจจากช่างฝีมือคนท้องถิ่น
ส่วนที่ “อำเภอแม่แตง” เมืองที่ยังคงมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมหลากหลาย เริ่มจากการทำกิจกรรมกับช้างที่ “ปางช้างแม่แตง” ล่องแพสนุกๆ กับ “ล่องแพแก่งกึ้ด” พิชิตสายน้ำแม่และและแก่งกึ้ดที่น่าตื่นเต้น ชมวิวสวยๆ ของ “เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล”
ส่วนวัดสวนๆ ของที่นี่ก็มีที่น่าสนใจ คือ “วัดแม่ตะมาน” นอกจากจะมาไหว้พระที่นี่แล้ว ก็จะมีไฮไลต์สำคัญคือ “ภาพวาดสามมิติ” ที่อยู่บริเวณทางเข้าวัด เป็นภาพที่เล่าเรื่องวิถีชีวิตของชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรม ประเพณี งานบุญต่างๆ และยังมีภาพช้างตัวโต ที่มีต้นแบบมาจากช้างในปางช้างอีกด้วย
“วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน” หรือ “วัดบ้านเด่น” เดิมเป็นเพียงวัดเล็กๆภายในหมู่บ้าน แต่หลังจากที่ “ครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล” มาจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ ก็มีการตั้งชื่อวัดให้ใหม่เป็น “วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน” เนื่องจากหลังท่านมาจำพรรษา มีต้นโพธิ์หรือที่ภาษาถิ่นเรียกว่า “ต้นสะหลี” เติบโตขึ้นมา ขณะที่ “เมืองแกน” นั้นก็คือเมืองโบราณในบริเวณนี้ที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อน
ปัจจุบันวัดเด่นสะหลีฯ ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีอาณาเขตกว้างขวางกว่า 80 ไร่ ภายในวัดโดดเด่นไปด้วยงานสถาปัตยกรรมแบบล้านนาประยุกต์ ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นวัดบ้านกับวัดป่าเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ครูบาเจ้าเทืองยังยึดหลักการสร้างโดยใช้ความเชื่อเรื่องบุญเป็นตั้งมั่น สร้างสรรค์วัดเด่นสะหลีฯออกมาได้อย่างงดงาม วิจิตรตระการตา ลวดลายประดับ ลวดลายปูนปั้นต่างๆ ล้วนมีรายละเอียดของเรื่องราว และฝีมืองานช่างที่ละเอียดเนี้ยบชวนมอง
“วัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์” เป็นวัดที่มีอยู่เดิม ก่อนที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ มีพระดำริที่จะบูรณะให้ดีขึ้น เมื่อครั้งเสด็จเยือนในปี 2548 โดยทรงออกแบบการบูรณปฏิสังขรณ์พระวิหารให้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานศิลปกรรมท้องถิ่นแบบล้านนา
ภายในวิหารมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เป็นภาพจากบทพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก และพระบรมสาทิสลักษณ์ที่สื่อถึงพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ส่วนพระประธานในวิหารมีนามว่า พระพุทธปฏิมาสิริภานิรมิต
ส่วนที่ “อำเภอแม่ริม” ที่อยู่ใกล้กับตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นแหล่งปลูกไม้ตัดดอกแหล่งใหญ่ของเชียงใหม่ จึงมีสวนดอกไม้สวยๆ ให้ไปถ่ายรูปกันมากมาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของภาคเหนือ อากาศดี เหมาะกับการเดินชมสวน
สุดท้ายที่ “อำเภอดอยเต่า” อีกเมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ห้ามพลาด “ทะเลสาบดอยเต่า” อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เหนือเขื่อนภูมิพล มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนั่งเรือชมทิวทัศน์รอบๆ ล่องแพพักค้างคืนกลางทะเลสาบ ถ่ายภาพสวยๆ ของภูเขาสลับซับซ้อนที่เป็นฉากหลังของทะเลสาบ และยังมี "วัดพระธาตุดอยเกิ้ง" ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองดอยเต่า อายุกว่า 1,400 ปี
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline
