xs
xsm
sm
md
lg

เยือน “อช.แก่งกระจาน” หนึ่งในพื้นที่มรดกโลกที่ควรค่าแก่การรักษาและเที่ยวชม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (ภาพจาก อช.แก่งกระจาน)
เรื่องน่ายินดีที่กำลังเป็นที่พูดถึงในช่วงนี้ก็คือเรื่อง การที่ “กลุ่มป่าแก่งกระจาน” ได้รับประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ ซึ่งถือเป็นมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของไทย ต่อจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ – ห้วยขาแข้ง ในปี พ.ศ. 2534 และ กลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ ในปี พ.ศ. 2548

ความสมบูรณ์ของผืนป่าแก่งกระจาน (ภาพจาก อช.แก่งกระจาน)
โดยกลุ่มป่าแก่งกระจานนั้น เป็นผืนป่าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรีมีพื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ จังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วยพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 3 แห่ง และ 1 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ได้แก่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน, อุทยานแห่งชาติกุยบุรี, อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี

กลุ่มป่าแก่งกระจานแหล่งต้นน้ำสำคัญ (ภาพ : ปชส.กรมอุทยานฯ)
สำหรับ “อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน” นั้น เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด ได้แก่ อำเภอหนองหญ้าปล้อง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาซับซ้อนในเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นเขตแดนระหว่างประเทศไทยและพม่า มีผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยสัตว์ป่าและพรรณไม้นานาชนิด อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำปราณบุรีและแม่น้ำเพชรบุรีอีกด้วย

อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน
ซึ่งนอกจากจะมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติแล้ว ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานยังได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเมื่อมาที่นี่แล้วก็ต้องแวะมาเที่ยวที่ “อ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน” ที่เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เหมาะสำหรับการนั่งเรือชมทัศนียภาพและชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สันเขาตะนาวศรี

เขาพะเนินทุ่ง
ส่วนจุดเช็คอินยอดนิยมของที่อุทยานฯ ก็คือที่ “เขาพะเนินทุ่ง” มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าและป่าดิบ อากาศหนาวเย็นตลอดปี ด้วยสภาพภูมิประเทศของเขาพะเนินทุ่งที่โอมล้อมด้วยขุนเขาต่างๆ จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมทะเลหมอกที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าที่ไหน ในช่วงปลายฤดูฝนและต้นฤดูหนาว

จุดชมวิวเขาพะเนินทุ่ง
โดยในยามเช้าที่ “จุดชมวิวเขาพะเนินทุ่ง” จะสามารถมองเห็นทะเลหมอกสีขาวปกคลุมทั่วทั้งหุบเขา และเมื่อทะเลหมอกสลายตัวไป จะเห็นผืนป่าสลับซับซ้อนอยู่เบื้องหน้า ส่วนใครที่เป็นสายลุยอยากเดินพิชิตยอดเขาพะเนินทุ่ง ที่มีความสูงประมาณ 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำทางพาเดินเท้าขึ้นยอดเขาพะเนินทุ่งได้

ทะเลหมอกสุดอลังการบริเวณจุดชมวิว กม. 36
อีกหนึ่งจุดไฮไลต์ที่อยู่ห่างจากพะเนินไปทุ่งไปประมาณ 6 กม. ก็คือ “จุดชมวิว กม. 36” ถือเป็นอีกหนึ่งจุดทะเลหมอกอันงดงามใกล้กรุง ที่นี่มีหมอกให้ชมกันเป็นประจำในทุกเช้า มากบ้าง น้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้นๆ

น้ำตกป่าละอู (ภาพจาก อช.แก่งกระจาน)
และยังมี “น้ำตกป่าละอู” ที่อยู่ในเขตทางตอนใต้ของอุทยานฯ ซึ่งน้ำตกป่าละอูนั้นประกอบด้วยน้ำตกป่าละอูใหญ่และ น้ำตกป่าละอูน้อย มีทั้งหมด 15 ชั้น โดยน้ำตกชั้นแรกๆ จะเป็นน้ำตกขนาดเล็ก และน้ำตกตั้งแต่ชั้นที่ 5 เป็นต้นไป ตัวน้ำตกจะมีขนาดใหญ่ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปได้ถึงน้ำตกชั้นที่ 7 เท่านั้น ส่วนชั้นที่อยู่สูงขึ้นไปจะอยู่ในป่าทึบและมีความสูงชัน ยากต่อการเดินทางเข้าถึง แต่ถ้าใครที่ชอบการผจญภัย ก็สามารถติดต่อที่เจ้าหน้าที่ให้พาเดินทางขึ้นไปได้

สายน้ำชวนเล่นที่น้ำตกป่าละอู (ภาพจาก อช.แก่งกระจาน)
น้ำตกแห่งนี้มีจุดเด่นก็คือ มีบรรยากาศที่เงียบสงบใกล้ชิดธรรมชาติ และยังมีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปีอีกด้วย เนื่องจากผืนป่าบริเวณน้ำตกปกคลุมด้วยป่าทึบ เลยทำให้มีฝนตกเกือบทุกวัน โดยช่วงที่แนะนำให้มาก็คือ เดือนสิงหาคม-มีนาคม เพราะเป็นช่วงที่มีน้ำมาก และเริ่มจะหมดฤดูฝน ทำให้การเดินทางไม่ลำบากจนเกินไป

จุดชมผีเสื้อที่แคมป์บ้านกร่าง
อีกหนึ่งเสน่ห์ของแก่งกระจานที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนก็คือการมาชมชมผีเสื้อ ที่ “แคมป์บ้านกร่าง” ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจานลึกเข้าไปอีกราว 35 กิโลเมตร สภาพถนนลาดยางอย่างดี รถยนต์สามารถขับไปถึงได้

ผีเสื้อแก่งกระจาน
แคมป์บ้านกร่างนี้เป็นจุดพักจุดผ่านของผู้ที่จะเดินทางขึ้นสู่เขาพะเนินทุ่ง โดยผีเสื้อที่นี่นั้นมีให้ชมมากกว่า 250 ชนิด โดยจะออกมาให้ชมจำนวนมากอย่างนี้ปีละครั้งในช่วงเดือน มี.ค.-ต้น มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้งที่ไม่มีฝนมากนัก

 จุดชมผีเสื้อบริเวณลำธาร
จุดชมผีเสื้อที่บ้านกร่างที่ชมได้ง่ายที่สุดก็คือบริเวณลำธารที่จะข้ามไปยังค่ายเยาวชน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่จอดรถของแคมป์บ้านกร่างไปนิดเดียว และหากเดินลึกเข้าไปในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบริเวณลำธาร 1, 2, และ 3 (เส้นทางที่จะขึ้นไปยังเขาพะเนินทุ่ง) ก็เป็นจุดชมผีเสื้อที่สวยงามเช่นกัน

สะพานแขวนภายในบ้านโป่งลึก-บางกลอย (แฟ้มภาพ)
จุดท่องเที่ยวที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก ที่อยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเช่นกัน ก็คือที่ “บ้านโป่งลึก-บางกลอย” ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานเข้าไปในป่าประมาณ 50 กม. ที่นี่มีชาวปกาเกอะญออาศัยอยู่ และจากความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ในปี 2561 จึงได้ทำการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมในพื้นที่นี้ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ

วิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอ (แฟ้มภาพ)
ซึ่งหากมาที่ชุมชนแห่งนี้แล้วก็จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอที่เรียบง่าย และมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาอย่างเช่น “การทอผ้ากี่เอว” ซึ่งเป็นวิธีการทอผ้าที่พวกเขายังใช้ทอใส่ในชีวิตประจำวัน และ “การจักสาน” ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น ฝาชี เสื่อ ตะกร้า เป็นต้น

การล่องแพเปียก (แฟ้มภาพ)
และอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะพลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนที่นี่ก็คือ “การล่องแพเปียก” ผ่านแก่งเล็กๆ ในต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีโดยเป็นแพทรงยาวสามารถนั่งได้ 2-3 คน โดยจะมีชาวบ้านเป็นคนยืนพายบังคับอยู่ด้านหลังของแพ

ล่องแพชมธรรมชาติแสนสวยงาม (แฟ้มภาพ)
สำหรับในการล่องแพจะมีระยะทางประมาณ 1 กม. ใช้เวลาไม่เกิน 45 นาที ซึ่งจะล่องมาจนถึงจุดชมวิวสะพานแขวนที่เชื่อมต่อบ้านโป่งลึกและบ้านบางกลอย ระหว่างทางมีธรรมชาติงดงามให้ชมและมีบางช่วงให้ได้ตื่นเต้นกับแก่งหินเล็กๆ พอให้ได้ชุ่มฉ่ำ

 แก่งกระจาน ผืนป่ามรดกโลก
และนี่คือ “อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน” หนึ่งใน “กลุ่มป่าแก่งกระจาน” ที่เพิ่งได้รับประกาศให้เป็นมรดกโลก ที่มีคุณค่าควรแก่การรักษาและควรค่าแก่การไปเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น