กำลังเป็นกระแสอยู่ในความสนใจ สำหรับ "นกแก้วโมงวัดสวนใหญ่" หลังจากเพจ "นกแก้วโมง ฝูงสุดท้าย #วัดสวนใหญ่" ได้โพสต์ภาพอันสวยงามของนกแก้วโมงและนกแขกเต้าในธรรมชาติที่อาศัยอยู่บนต้นยางนาด้านหลังวัดสวนใหญ่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จนทำให้คนรักนกและประชาชนทั่วๆ ไปได้รู้จักกับนกแก้วโมงมากขึ้น ไม่ใช่รู้จักเพียงนกแก้วเลี้ยงในกรงเท่านั้น
“นกแก้วโมง” หรือ “นกแก้วโม่ง” นี้ ข้อมูลจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า เป็นนกตระกูลนกแก้วขนาดเล็ก-กลาง แต่เป็นนกแก้วขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มีความยาววัดจากหัวถึงปลายหางได้ราว 51-58 ซม. หัวและลำตัวมีสีเขียว จะงอยปากอวบอูมสีแดงสด บริเวณหัวไหล่จะมีแถบสีแดงแต้มอยู่ทั้งสองข้าง นกเพศผู้จะปรากฏมีแถบขนสีดำและสีชมพูรอบคอที่เรียกกันว่า "Ring Neck" ส่วนนกเพศเมียไม่มีแถบดังกล่าวและมีขนาดเล็กกว่า
นกแก้วโมงจะหากินอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็กๆ นอนบนต้นไม้เป็นกลุ่มใหญ่ ส่งเสียงร้องกันระงม ชอบเกาะตามยอดไม้และมักเลือกที่จะทำรังตามโพรงไม้ใหญ่ๆ โดยใช้วิธีแทะหรือขุดโพรงไม้จำพวกไม้เนื้ออ่อน หรืออาจเลือกใช้โพรงไม้เก่าในที่ต่างๆ
ส่วนนกแก้วโมงแห่งวัดสวนใหญ่ฝูงนี้มีอยู่ราว 20-30 ตัว (ถ้าเป็นหน้าผสมพันธุ์จะมีจำนวนมากขึ้นราว 50-100 ตัว) จะอาศัยอยู่รวมกันที่ยอดต้นยางนาต้นสูงใหญ่ 2 ต้น อายุกว่า 200 ปี ริมคลองบางกรวย ในวัดสวนใหญ่ โดยจะแยกย้ายออกหากินในตอนเช้า จากนั้นในตอนเย็นราว 5-6 โมงเย็น ก็จะกลับมานอนพักผ่อนอยู่บนต้นยางนา ส่งเสียงร้องเซ็งแซ่บนยอดไม้ ชาวชุมชนวัดสวนใหญ่และใกล้เคียงต่างก็เห็นนกแก้วเหล่านี้จนชินตา อาศัยอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าเรื่อยมาอย่างสงบสุข
เหตุที่มีนกแก้วโมงมาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ เนื่องจากในย่านบางกรวยสมัยอดีตยังเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีสวนผลไม้อันเป็นแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของฝูงนกแก้วโมงและนกแขกเต้า บริเวณนี้จึงเป็นทั้งแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัย ในภายหลังเมื่อพื้นที่สวนเริ่มลดน้อยลง บ้านจัดสรรและสิ่งก่อสร้างเข้ามาแทนที่ ทำให้พื้นที่หากินของนกมีจำกัด อีกทั้งความสวยงามของนกแก้วโมงก็ทำให้บ้างก็ถูกจับถูกนำไปเลี้ยง ทำให้นกแก้วโมงเหล่านี้ลดจำนวนน้อยลงไป แต่ก็ยังคงมีหลงเหลืออยู่ในธรรมชาติและสามารถมาชมได้ที่วัดสวนใหญ่แห่งบางกรวยนี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นแหล่งอยู่อาศัยตามธรรมชาติของนกแก้วโมงแห่งสุดท้ายในบางกรวยก็ว่าได้
ในกลุ่มนักดูนกและนักอนุรักษ์นกจะรู้จักนกแก้วโมงแห่งวัดสวนใหญ่ดีอยู่แล้ว โดยเมื่อช่วงต้นปี 2564 ก็ได้มีกลุ่มอนุรักษ์มาร่วมกันทำโพรงรังเทียมขึ้นไปติดบนต้นยางนาบนความสูงประมาณ 20 เมตร เนื่องจากนกแก้วโมงจะไม่ทำรัง แต่จะหาโพรงตามธรรมชาติอยู่ ปัจจุบันโพรงธรรมชาติเหล่านี้เหลือน้อย ทางกลุ่มอนุรักษ์จึงได้ร่วมกันทำโพรงรังเทียม เพื่อเป็นการอนุรักษ์นกแก้วโมงไว้อีกทางหนึ่ง
เนื่องจากเจ้านกแก้วจะเกาะอยู่บนยอดไม้ที่มีความสูงถึง 20 เมตร หากชมด้วยตาเปล่าจึงอาจจะเห็นเป็นตัวเล็กๆ ไม่ชัดเจนนัก หากใครอยากเห็นชัดๆ จึงควรเตรียมกล้องส่องทางไกลหรือกล้องดูนกมา และถ้าอยากถ่ายภาพก็ควรเป็นเลนส์ระยะไกล ความยาว 200 มม. ขึ้นไปก็น่าจะดี
แต่ต้องบอกไว้ก่อนสำหรับใครที่เห็นนกแก้วสวยๆ เหล่านี้แล้วนึกอยากเลี้ยงขึ้นมา นกแก้วโมงและนกแขกเต้าถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 นั่นหมายถึงว่า กฎหมายไม่อนุญาตให้ล่าหรือมีไว้ในครอบครองนั่นเอง ดังนั้นใครที่คิดอยากได้นกแก้วโมงมาเลี้ยง นั่นคือการทำผิดกฎหมาย โดนจับปรับได้เลย
เมื่อได้มาชมนกแก้วโมงถึงที่วัดสวนใหญ่แล้ว อย่าลืมแวะเข้ามากราบพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ภายในวัดสวนใหญ่ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่คู่ชุมชนมาตั้งแต่ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์
สำหรับประวัติของวัดสวนใหญ่นั้น พระอธิการทองศูนย์ ขันติพโล เจ้าอาวาสวัดสวนใหญ่ ได้เล่าให้เราฟังว่า วัดสวนใหญ่เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นในราว พ.ศ.2375 เป็นวัดในป่าทึบริมคลองที่ประชาชนชาวบ้านในละแวกนี้ร่วมใจบริจาคพื้นที่สร้างวัดขึ้น แต่ก่อนเรียกว่า “วัดใหม่" ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดสวนใหญ่" ซึ่งมีความหมายว่า วัดที่ตั้งอยู่ในสวนอันกว้างขวาง สังเกตได้ว่าจะมีต้นไม้อยู่เยอะ
ถ้ามาที่วัดสวนใหญ่ สามารถเข้าไปสักการะหลวงพ่อพระพุทธชินราช (จำลอง) ภายในโบสถ์ และยังมีวิหารหลวงพ่อโตบริเวณด้านข้างอุโบสถที่มักมีคนมากราบไหว้และบนบานเรื่องการงาน อีกทั้งด้านหลังวัดยังเป็นคลองบางกรวย ที่คนมักจะซื้อปลาจากตลาดที่อยู่ด้านหน้าวัดแล้วนำมาปล่อยในคลองนี้อีกด้วย
“สำหรับนกแก้วโมงนี้ อาตมามาอยู่ที่วัดสวนใหญ่ 15 ปี ก็เห็นนกแก้วเหล่านี้อยู่ตลอด ส่วนต้นยางที่นกแก้วอยู่อาศัยนี้คนเก่าคนแก่บอกว่าเมื่อเกิดมาก็เห็นต้นยางสูงใหญ่อย่างนี้อยู่แล้ว อาจจะมีมาก่อนวัดด้วยซ้ำ เมื่อก่อนมีทั้งนกกระตั้วและนกแก้ว เคยมีนกแก้วมาทำรังที่โบสถ์ด้วย คนแถวนี้เห็นจนชินจนเป็นเรื่องธรรมดา และมีนักดูนกมาส่องมาถ่ายรูปอยู่เรื่อยๆ จนตอนหลังมีโยมถ่ายรูปไปลงเฟซบุค คนก็มาดูเยอะมากขึ้น มีมาทุกวัน บางคนก็มาจากที่ไกลๆ แต่อาจจะไม่เยอะมากเพราะเป็นช่วงโควิด” พระอธิการทองศูนย์ กล่าวปิดท้าย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ซึ่งโรคโควิด-19 กำลังระบาดหนัก และจังหวัดนนทบุรีถือเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ดังนั้นใครที่อยากมาชมนกแก้วโมงก็ขอให้ชะลอการเดินทางไว้ก่อนตามนโยบายของรัฐบาล รอให้สถานการณ์ของโรคคลี่คลายลงเสียก่อนค่อยมาชม และไม่ต้องห่วงว่านกแก้วโมงจะหนีหายไปไหน เพราะที่นี่คือบ้านของเขามายาวนาน อีกทั้งคนในชุมชนวัดสวนใหญ่ต่างก็คอยดูแลเป็นหูเป็นตา ไม่ยอมให้ใครมาทำอันตรายหรือรบกวนนกจนเกินควร
#################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline