พังงาชวนกิน “ลูกกอ” หรือ “เกาลัดปักษ์ใต้” ที่เมื่อนำเมล็ด นำมาคั่ว แล้วเนื้อข้างในจะมีรสชาติมันออกหวานเคี้ยวเพลิน ซึ่งเกษตรกรชาวพังงาได้อนุรักษ์ต้นไว้ให้ลูกหลานรู้จัก พร้อมเก็บเมล็ดขายเป็นรายได้เสริม
ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี จะเป็นช่วงหน้าฝนและเป็นฤดูกาลผลไม้ของชาวจังหวัดพังงา ที่มีทั้งทุเรียนพื้นบ้าน ทุเรียนพันธุ์ต่าง ๆ มังคุด และเงาะ ออกสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ก็ยังมีไม้ป่าชนิดหนึ่งซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนในพื้นที่ นั่นก็คือ “ลูกกอ” หรือ “เกาลัดป่า” หรือ “เกาลัดปักษ์ใต้”
ต้นกอ หรือต้นลูกกอ เดิมมักจะขึ้นตามธรรมชาติ ตามป่าริมภูเขาทางภาคใต้ กอเป็นไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกา ไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530 เนื่องจากเป็นไม้ผลที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางปกป้องสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ เพราะส่วนใหญ่ชอบขึ้นตามป่าดิบเขา ตามที่ลาดชันสูง จึงเป็นกลุ่มพืชที่สำคัญที่ช่วยปกป้องการพังทลายของดิน รักษาอุณหภูมิและดูดซับความชุ่มชื้นเก็บไว้ในดินได้ดี
ต้นกอ เป็นไม้ป่าที่ลำต้นขนาดใหญ่ สูงประมาณ 30 เมตร ยามเมื่อออกผลแล้วหล่นลงมาบนพื้น ชาวบ้านจะเก็บ “ลูกกอ” ที่เปลือกมีขนคล้ายเงาะ แต่ขนเป็นหนามแหลม เวลาเก็บจึงต้องใช้ความระมัดระวังจากหนามแหลมบนเปลือกที่ตำมือ
เมื่อแกะเปลือกออกแล้วนำมาคั่วให้สุกเพื่อแกะกินเนื้อข้างใน ที่มีรสชาติมันออกหวานและอร่อย
นอกจากนี้ลูกกอ ยังมีสรรพคุณบำรุงร่างกาย แก้วัณโรค อาเจียนเป็นเลือด ช่วยห้ามเลือด แก้ไอ ละลายเสมหะ แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น ท้องอืดบ่อย ๆ อาหารไม่ย่อย ไม่ควรกิน ผู้ที่เป็นโรคไขข้ออักเสบ ร้อนใน ตาบวม ห้ามกิน
ลูกกอ จึงถือเป็นของกินเล่นในวัยเด็กที่คนปักษ์ใต้และพื้นที่อื่น ๆ หลายคนอาจได้เคยลองลิ้มชิมรสกันมาบ้าง
นายสถิต ผลแก้ว อายุ 65 ปี ชาว ม.6 บ้านโตนดินนอก ต.ถ้ำ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เกษตรกรผู้อนุรักษ์ต้นกอเอาไว้ให้ลูกหลาน พร้อมเก็บลูกกอขายเป็นรายได้เสริม เปิดเผยว่า ตนได้อนุรักษ์ต้นกอกว่า 10 ต้นที่ขึ้นภายในสวนทุเรียนไว้ ซึ่งในปีนี้ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายสถิตได้เก็บเมล็ดลูกกอสดไปขาย ทำให้สามารถสร้างรายได้เสริมเข้าสู่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี (ช่วงเดือนมิ.ย. ราคา กก.ละ 50-60 บาท ส่วนล่าสุดลดลงมาเหลือ กก ละ 30 บาท)
นายสถิตกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังต้องการอนุรักษ์ต้นกอไว้ให้ลูกหลานหรือคนรุ่นใหม่ให้ได้เห็นกันต่อไป
ขณะที่ชาวบ้านบางคนในจังหวัดพังงา ช่วงที่ต้นกอออกผลก็จะอาศัยช่วงที่กรีดยางไม่ได้ ไปเก็บลูกกอในป่า นำออกมาขายเป็นรายได้เสริมเข้าสู่ครอบครัวเช่นเดียว ซึ่งลูกกอจะให้ผลปีละ1ครั้งในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของทุกปี
ด้านนางสายใจ พุกบุญมี อายุ 39 ปี บุตรสาวของนายสถิต ได้บอกถึงวิธีการคั่วลูกกอว่า เมื่อเก็บผลมา ตนจะนำมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วตากให้แห้ง ก่อนจะนำมาคั่วในกระทะด้วยไฟปานกลาง แล้วใช้ฝาครอบไว้ประมาณ 5 นาที ก่อนจะเปิดฝาแล้วคั่วต่ออีกเล็กน้อย
จากนั้นก็ตักออกจากกระทะมาวางไว้ให้หายร้อน แล้วใช้ของแข็ง มาทุบเปลือกให้แตกแล้วแกะเนื้อข้างในกิน บางคนที่มีฟันแข็งแรงก็ใช้ฟันขบเปลือกให้แตกได้เช่นเดียวกัน
“หลายคนที่ได้กินลูกกอจะบอกว่ารสชาติหวานมัน หรอยจังฮู้ ขณะที่บางคนบอกว่าลูกกอนั้น มีรสชาติอร่อยกว่าเกาลัดที่นำเข้ามาจากต่างประเทศเสียอีก” นางสายใจกล่าว