xs
xsm
sm
md
lg

เย็นฉ่ำ “น้ำตกไทรโยค” น้ำใส บรรยากาศดี เที่ยวได้แบบ New Normal

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


น้ำตกไทรโยคเล็ก
ฤดูฝนมาเยือนแบบนี้ทำให้แหล่งท่องเที่ยวอย่าง “น้ำตก” เป็นที่น่าสนใจ เพราะจะเป็นช่วงที่น้ำกำลังเยอะชวนให้ลงเป็นเล่นให้ชุ่มฉ่ำ และหากพูดถึงน้ำตกสวยๆ เหมาะกับการเล่นน้ำและมีกิจกรรมให้ทำกันในครอบครัว ชื่อของ “น้ำตกไทรโยค” ก็จะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ถูกเลือกขึ้นมา

บรรยากาศน้ำตกไทรโยคและจุดล่องแพ
น้ำตกไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถือเป็นน้ำตกที่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ มากนัก ตัวน้ำตกไหลลงสู่แม่น้ำแคว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาล่องเรือชมความงามของสองฝั่งแม่น้ำได้และยังลงเล่นน้ำได้เช่นกัน โดยน้ำตกไทรโยค เป็นส่วนหนึ่งของ “อุทยานแห่งชาติไทรโยค” ที่มีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ อ.ไทรโยค และ อ.ทองผาภูมิ มีเนื้อที่ 958 ตารางกิโลเมตรหรือ 598,750 ไร่

ความสวยงามของน้ำตกไทรโยคใหญ่
นอกจากที่นี่จะเป็นน้ำตกขึ้นชื่อของเมืองกาญจน์แล้ว มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานตั้งแต่ครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระองค์ได้เสด็จประพาสน้ำตกไทรโยค และได้ลงสรงน้ำในธารน้ำอันเย็นฉ่ำภายใต้ร่มเงาแห่งแมกไม้ของป่าใหญ่ถึงสองครั้ง และเป็นแรงบันดาลใจให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ทรงประพันธ์บทเพลง “เขมรไทรโยค” จนความงามของน้ำตกไทรโยคเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว

น้ำตกไทรโยคน้อย
ภายในอุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายให้ได้เที่ยวชมกัน เริ่มที่ “น้ำตกไทรโยคน้อย” หรือ “น้ำตกเขาพัง” เป็นน้ำตกชั้นเดียว เกิดจากการพังทลายของหน้าผาหินปูน จนเกิดเป็นโขดหินปูนลดหลั่นสวยงามสูงประมาณ 30 เมตร เป็นที่มาของชื่อน้ำตกเขาพังนั่นเอง

สายน้ำลดหลั่นตามชั้นหินที่น้ำตกไทรโยคน้อย
น้ำตกนี้เป็นน้ำตกสวยงามร่มรื่น โดยมีน้ำมากในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว แต่ช่วงฤดูร้อนน้ำตกจะมีน้ำน้อยถึงน้อยมาก โดยรอบน้ำตกมีร่มเงาของพันธุ์ไม้นานาชนิด ในลำธารมีต้นกกขึ้นอยู่กระจัดกระจาย นับเป็นบรรยากาศที่ชวนให้ไปสัมผัสอีกแห่งหนึ่ง

น้ำตกไทรไยคใหญ่
และยังมี “น้ำตกไทรโยคใหญ่” เรียกอีกชื่อว่า “น้ำตกเขาโจน” เป็นน้ำตกที่ไหลลงจากหน้าผาสู่แม่น้ำแควน้อย มีขนาดใหญ่และมีเพียงชั้นเดียว น้ำตกจะไหลลงมาแล้วรองรับด้วยหินสลับเป็นชั้นๆ ความสูงประมาณ 8 เมตร หากจะชมน้ำตกไทรโยคใหญ่ให้สวยงามต้องเดินข้ามสะพานแขวนบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรโยคไปยังอีกฝั่งเพื่อชมสายน้ำที่ไหลลงมาอย่างสวยงาม

น้ำตกไทรโยคเล็ก
อีกน้ำตกชวนชมที่ซ่อนตัวอยู่ภายในอุทยานฯ ก็คือ “น้ำตกไทรโยคเล็ก” เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี และที่สำคัญน้ำในน้ำตกนั้น เป็นน้ำที่ไหลมาจากพุต้นน้ำ ซึ่งมีความใส และสะอาดไม่แพ้น้ำตกไทรโยคใหญ่เลย

ถ้ำดาวดึงส์
นอกจากจะมีน้ำตกสวยๆ ถึง 3 จุดแล้ว ก็ยังมีถ้ำชวนเที่ยวถึง 3 ถ้ำด้วยกัน เริ่มที่ “ถ้ำดาวดึงส์” อยู่ทางตอนเหนือของอุทยานฯ เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียงและงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ภายในมีความลึกประมาณ 80 เมตร สามารถแบ่งเป็นห้องๆ ได้ 8 ห้อง มีชื่อตามลักษณะของหินงอก หินย้อย ที่โดยทั่วไปมีสีขาว เช่น ห้องโคมระย้า ห้องฉัตรแก้ว ห้องเจดีย์ และห้องม่านฟ้า

ถ้ำละว้า
ถ้ำต่อมาคือ “ถ้ำละว้า” อยู่ห่างจากน้ำตกไทรโยคโดยทางน้ำประมาณ 20 กิโลเมตร ไปทางตอนใต้ของอุทยานฯ ถ้ำละว้ามีปากถ้ำแคบ แต่ภายในกว้างขวาง ถ้ำลึก 485 เมตร มีห้องโถงกว้างใหญ่ คล้ายท้องพระโรง นอกจากนี้ภายในถ้ำยังปรากฏหลักฐาน เช่น ฟันมนุษย์ ซึ่งทำให้สันนิษฐานได้ว่าแต่เดิมน่าจะเคยมีมนุษย์โบราณอาศัยอยู่

ภายในถ้ำละว้า
สามารถแบ่งภายในถ้ำเป็นห้องต่างๆ ได้ทั้งหมด 5 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะมีลักษณะเด่นต่างกัน เช่น “ห้องหนุมาน” จะมีหินงอกขึ้นมาจากพื้นถ้ำมีลักษณะคล้ายกับลิง, “ห้องจระเข้” จะมีหินย้อยขนาดใหญ่คล้ายจระเข้เกาะอยู่บนเพดาน ถัดไปจะเป็น “ห้องดนตรี” ซึ่งจะมีหินก้อนหนึ่งที่เมื่อถูกเคาะจะมีเสียงก้องกังวานอย่างน่าอัศจรรย์

ห้องที่ 4 คือ “ห้องค้างคาว” มีลักษณะเป็นโถงถ้ำสูงและกว้างมาก เมื่อก่อนจะมีค้างคาวอาศัยอยู่ที่บริเวณนี้เป็นพันๆ ตัว แต่ปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ตามซอกถ้ำอื่นๆ และห้องสุดท้ายจะอยู่ข้างในสุดของถ้ำ ซึ่งถูกเรียกว่า “ห้องม่านบรรทม” เป็นบริเวณที่มีหินงอกหินย้อยสวยงามที่ยังมีการเจริญเติบโตอยู่ มีลักษณะคล้ายม่านห้องนอนขนาดใหญ่ รวมไปถึงของภาพสายน้ำที่กำลังไหลย้อยจากซอกหินลงตรงพื้น ก่อให้เกิดหินงอกหินย้อยที่มีประกายระยิบระยับราวกับโรยด้วยกากเพชร ขึ้นมาจากพื้นให้เห็นกันตรงหน้า

ถ้ำแก้ว
ถ้ำสุดท้ายคือ “ถ้ำแก้ว” อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 500 เมตร เป็นถ้ำหินปูนขนาดเล็กมีความยาวประมาณ 100 เมตร ภายในถ้ำมีห้องโถง 2 ห้อง ปากถ้ำเป็นทางแคบต้องสอดตัวเข้าไปประมาณ 10 เมตร จึงจะพบห้องโถงแรก ซึ่งมีความสวยงามของหินงอก หินย้อย เสาหิน หลอดหินย้อยและแร่แคลไซค์ ที่ส่องประกายอยู่ภายในห้องโถงแรก

หินงอกหินย้อยในถ้ำแก้ว
จากห้องโถงแรกลอดตามช่องทางน้ำไหลประมาณ 20 เมตร จะพบห้องโถงที่ 2 เป็นห้องโถงที่มีความสวยงามของปติมากรรมเสาหินขนาดใหญ่ที่มีลักษณะของหินปะการัง หรือ ดอกไม้ถ้ำ จับตัวอยู่ภายในห้องโถงนี้ นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำซึมเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำตกไทรโยค และยังมีปล่องอากาศ ขนาดใหญ่อยู่ภายในจึงทำให้ภายในถ้ำมีอากาศถ่ายเทและยังเย็นสบายตลอดฤดูกาล

จุดชมวิวอุทยานแห่งชาติไทรโยค
อีกหนึ่งจุดเช็คอินภายในอุทยานฯ ก็คือที่ “จุดชมวิวอุทยานแห่งชาติไทรโยค” เป็นจุดชมธรรมชาติแม่น้ำน้ำแควน้อย โดยแม่น้ำแควน้อย มีต้นกำเนิดจากผืนป่าดงดิบ ทางทิศตะวันตกตามแนวชายแดนไทย-พม่า แล้วไหลไปรวมกับแม่น้ำแควใหญ่ กลายเป็นแม่น้ำแม่กลองที่ตัวเมืองกาญจนบุรี รวมระยะทางประมาณ 315 กิโลเมตร

สะพานแขวนไทรโยค
ริมสองฝั่งแม่น้ำแควน้อยมีธรรมชาติที่งดงาม ประกอบด้วยหน้าผา เกาะแก่ง น้ำตกและหาดทรายที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของแม่น้ำสายนี้ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวนิยมมาล่องแพชมความงามและแวะเล่นน้ำที่น้ำตกไทรโยคกัน และยังมี “สะพานแขวนไทรโยค” เป็นอีกจุดไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันอีกด้วย

แม่น้ำแคว
ขณะนี้ทางอุทยานแห่งชาติน้ำตกไทรโยคได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมภายในอุทยานฯ แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ก็ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ โดยสามารถติดตามรายละเอียดได้ทางหน้าเพจอุทยานแห่งชาติน้ำตกไทรโยค หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติไทรโยค โทร. 0-3468-6024

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากอุทยานแห่งชาติไทรโยคและสำนักอุทยานแห่งชาติ

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น