จากกรณีชาวเน็ตกัมพูชาแห่แชร์ภาพ “วัดภูม่านฟ้า” จ.บุรีรัมย์ ว่าก่อสร้างปราสาทหินจำลองลอกเลียนแบบมาจากนครวัดของกัมพูชา จนทำให้เกิดแฮชแท็ก #JusticeCambodia และ #savecambodiaculture โดยอ้างอิงถึงสิ่งก่อสร้างที่สร้างโดยลอกเลียนแบบนครวัดในหลายๆ แห่ง จะทำให้เกิดอาถรรพ์กับประเทศนั้นๆ เช่น ที่ประเทศอินเดีย เคยมีการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างในลักษณะดังกล่าว ส่งผลให้อินเดียมีอากาศแห้งแล้งที่สุดในปี 2015 ส่วนในไทยที่กำลังมีการก่อสร้างที่วัดดังกล่าวนี้ ส่งผลให้เกิดเหตุการระเบิดและไฟไหม้ครั้งใหญ่ในประเทศไทยขณะนี้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ กัมพูชา ได้ออกมาชี้แจงผ่านโซเชียลมีเดีย ยอมรับว่าสิ่งก่อสร้างดังกล่าวไม่ได้ลอกเลียนแบบจากนครวัด โดยกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ ประเทศกัมพูชา ได้ออกหนังสือแถลง มีเนื้อหาดังนี้
ราชอาณาจักรกัมพูชา
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
แถลงข่าวการก่อสร้างวัดหินในจังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย
กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้แจ้งให้ประชาชนทราบผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ Facebook เกี่ยวกับการก่อสร้างวัดหินในจังหวัดบุรีรัมย์ประเทศไทยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ได้ประสานงาน และให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาในราชอาณาจักรไทยเพื่อทำการวิจัยและรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาได้ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นอย่างรอบคอบ ดังนี้
1. วัดนี้เป็นวัดหินที่มีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ในวัดพุทธศิลาภูม่านฟ้า ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ราชอาณาจักรไทย โครงสร้างทำจากหินทรายด้านนอกและคอนกรีต หล่อฝังเหล็กจากด้านใน
2. โดยชี้แจงและนำเสนอเอกสารการก่อสร้าง เจ้าอาวาสวัดนี้ยืนยันว่าการก่อสร้างวัดนี้ไม่ใด้ลอกเลียน การออกแบบหรือสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมเดียวกันกับนครวัดหรือวัดโบราณในกัมพูชา กล่าวคือ สร้างเค้าโครงและออกแบบเองตามสถาปัตยกรรมของวัดบางแห่งในพื้นที่
3. ตัวแทนผู้ประสานงานโครงการก่อสร้างวัดยังยินดีรับคำขอของผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมกัมพูชาให้เยี่ยมชมในกรณีที่มีข้อสงสัย
กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อเพื่อนร่วมชาติที่คอยดูแล ปกป้อง และส่งเสริมศักดิ์ศรี เอกลักษณ์ของชาติ และศิลปวัฒนธรรมชองชาติอันสูงส่งอย่างมีศักดิ์ศรี
จากแถลงการณ์ดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้ชาวโซเชียลกัมพูชาพอใจมากขึ้นแต่อย่างใด โดยมีความคิดเห็นจำนวนมากในทำนองแสดงความผิดหวังและเสียใจที่กระทรวงวัฒนธรรมฯ กัมพูชาไม่ช่วยปกป้องวัฒนธรรมของชาติตน
ด้านวัดภูม่านฟ้า ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ วัดภูม่านฟ้า พญาช้างร้อง ว่า "จากเหตุการณ์ที่เกิดการขัดแย้งกันของคนไทยและกัมพูชานั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า การก่อสร้างของวัดภูม่านฟ้าไม่ได้ลอกเลียนแบบมาจากที่ใดทั้งสิ้น ทางวัดขอยืนยันทั้งรูปแบบ ลวดลาย ศิลป วัตถุประสงค์ในการสร้างทั้งหมด ทางวัดสร้างปราสาทเพื่อประดิษฐสถานพระพุทธรูปไว้ภายในทั้งสามปราสาท หรือจะเรียกว่าเป็นหอพระก็ได้ เพียงแต่การสร้างเราใช้หินทรายในการก่อสร้าง แต่ที่เป็นเหตุขัดแย้งกันนั้นเกิดการเข้าใจผิด และมุมจากภาพถ่ายที่ถ่ายมาแล้วสวยงามตามความคิดของช่างภาพแต่มุมมองมองแล้วทำให้คิดว่าเป็นปราสาทสามยอดของกัมพูชา
อย่างไรก็ดีจากความขัดแย้งดังกล่าว ทำให้ทางฝ่ายไทยเองก็ได้ตอกกลับชาวเขมร ว่ากัมพูชาได้ลอกเลียนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวังของไทย ไปสร้างเป็นของตนเช่นเดียวกัน
.
#################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline