xs
xsm
sm
md
lg

6 ที่เที่ยวโค้งอันตราย ขับรถประมาทอาจตายได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ถนนคดโค้งจนดูคล้ายรูปหัวใจที่ภูทับเบิก ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถ
“ฝนตกถนนลื่น ขับขี่โปรดใช้ความระมัดระวัง” เป็นคำเตือนที่เห็นได้บ่อยครั้งบนถนนทางหลวง ซึ่งหลายคนก็ปฏิบัติตามคำแนะนำ แต่บ้างก็ไม่ จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุและความสูญเสีย ดังที่เราเพิ่งได้เห็นตัวอย่างอุบัติเหตุสลดบนถนนทางหลวงสระบุรี-หล่มสัก ที่รถ BMW สปอร์ตขับมาด้วยความเร็วขณะฝนตก และยังขับแซงซ้ายแซงขวา ก่อนจะเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนนไปชนรถเก๋งฝั่งตรงข้ามจนทำให้ตนเองเสียชีวิต และคนขับเก๋งพร้อมผู้โดยสารฝั่งตรงข้ามที่ขับรถมาดีๆ ก็ต้องเสียชีวิตไปด้วยอย่างไม่ควรจะเกิดขึ้น

แต่นอกจากความประมาท ความคึกคะนอง และการใช้ความเร็วเกินกำหนด อันเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้ว การไม่เคยชินเส้นทาง การไม่คุ้นชินกับรถ รวมถึงสภาพเส้นทางที่ลาดชันหรือคดโค้งก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอุบัติเหตุได้เช่นกัน โดยในวันนี้เราได้รวบรวม 5 เส้นทางถนน โดยเฉพาะเส้นทางท่องเที่ยวภูดอยในภาคเหนือที่ขึ้นชื่อลือชาว่าทั้งชัน ทั้งโค้งหักศอก ขาขึ้นก็น่าหวาดเสียว ขาลงก็เหยียบเบรคกันจนเบรคแทบไหม้ เผื่อว่าใครจะขับรถไปเที่ยวเองจะได้ระมัดระวังและเตรียมความพร้อมให้ดี

วิวสวยมุมสูงบนภูทับเบิก
เส้นทางเขาค้อ ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

ต้องบอกว่าถนนที่เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวภูดอยของไทยแทบจะทั่วประเทศต่างก็พัฒนาเป็นถนนคอนกรีตหรือถนนลาดยางหมดแล้ว ทำให้รถยนต์ธรรมดาที่ไม่ใช่รถขับเคลื่อนสี่ล้อก็สามารถขับไปเที่ยวยังภูดอยเหล่านั้นได้ แต่เรื่องของความชันและความโค้งของถนนก็ยังคงมีอยู่

ดังเช่นที่อำเภอเขาค้อซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของจังหวัดเพชรบูรณ์ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีจุดชมทะเลหมอกและรีสอร์ทสวยๆ มากมายให้เลือกพักกัน

สภาพเส้นทางที่เป็นภูเขาของเขาค้อก็ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ โดยจุดที่หลายๆ คนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชันน่าหวาดเสียวก็คือบริเวณพระตำหนักเขาค้อ เพราะเป็นทางชันยาว รถยนต์ต้องใช้รอบเครื่องในการขับขึ้นเนินมากกว่าทางโค้งชันสั้นๆ

รวมถึงภูทับเบิกที่มีทิวทัศน์สวยงามและอากาศที่เย็นสบายตลอดปี ก็มีเส้นทางที่คดเคี้ยวและโค้งชันเช่นกัน และยิ่งในช่วงวันหยุดเทศกาลหรือฤดูกาลท่องเที่ยวที่คนเยอะๆ ก็มักจะมีกรณีรถติดบนดอย หรือรถเบรคไหม้ขณะขับลงดอย เป็นต้น

ถนนคดโค้งเมื่อมองจากทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เส้นทางเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน-ปาย

จังหวัดแม่ฮ่องสอนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองในหุบเขา การจะเดินทางเข้าไปถึงจะต้องข้ามเขาลูกแล้วลูกเล่ากว่าจะไปถึง ต้องโค้งซ้ายโค้งขวาเป็นพันโค้งกว่าจะถึง โดยการเข้าถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอนหลักๆ ก็มี 2 เส้นทางคือจากทางหลวงหมายเลข 108 อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ไปยัง อ.แม่สะเรียง อ.ขุนยวม และเข้าสู่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งเส้นทางนี้มีคนนับว่าต้องผ่านถึง 1,864 โค้ง และมีความลาดชัน แต่ก็ต้องถือว่าไม่โหดมากเพราะถนนค่อนข้างใหญ่ แต่ความเหนื่อยล้านั้นมีแน่นอน

ส่วนเส้นทางหลวงหมายเลข 1095 จาก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เข้าสู่ อ.ปาย อ.ปางมะผ้า และเข้าสู่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน แม้จะมีระยะทางเข้าสู่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน สั้นกว่าเส้นแรก แต่ทางนี้ถนนจะลาดชันมีโค้งหักศอกหลายโค้งและถนนแคบกว่า ถือว่าท้าทายความสามารถของคนขับมากขึ้น

แต่ช่วงที่โค้งชันน่าหวาดเสียวจริงๆ จะอยู่ที่เส้นทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ ปางอุ๋ง น้ำตกผาเสื่อ ทุ่งดอกบัวตอง ฯลฯ ซึ่งทางจะแคบกว่าถนนสายหลัก ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก

ทางโค้งชันหักศอก บนถนนสู่ดอยอ่างขางทางอำเภอฝาง (ภาพจาก google street view)
เส้นทางขึ้นดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่

เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่หลายคนบอกว่าน่าหวาดเสียวไม่น้อยสำหรับการเดินทางสู่ดอยอ่างขาง โดยเฉพาะในเส้นทางหมายเลข 1249 จากวัดหาดสำราญ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ที่แม้จะระยะทางสั้นกว่า แต่ก็มีโค้งหักศอกลาดชันชวนเครียดอยู่หลายจุด

คนที่ไม่คุ้นเส้นทางหรือไม่มั่นใจอาจเลือกขับอีกเส้นทางหนึ่งคือเส้นทางหมายเลข 1340 จากบ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว ซึ่งแม้จะเส้นทางแคบระยะทางไกลกว่า แต่โค้งชันน้อยกว่า หวาดเสียวน้อยกว่า บางคนเลือกขับขึ้น-ลงทางบ้านอรุโณทัย หรือเลือกขึ้นทางบ้านอรุโณทัยแล้วลงทางฝาง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรระวังขาลงอย่าให้เบรคไหม้

ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม บนถนนขึ้นดอยอ่างขางจะมีดอกนางพญาเสือโคร่งให้ชม

ชมวิวที่กิ่วฝิ่น รอยต่อระหว่างลำปางและเชียงใหม่
เส้นทางแม่กำปอง-กิ่วฝิ่น-แจ้ซ้อน จ.ลำปาง

บนถนนห้วยแก้ว หรือทางหลวงชนบทหมายเลข 4074 เส้นทางนี้อาจไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากนัก เพราะส่วนมากมักมาเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วแวะมาเดินเล่นหรือพักค้างคืนที่บ้านแม่กำปอง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ แล้วย้อนกลับเข้าเมืองเชียงใหม่ทางเดิม

แต่หากใครที่อยากไปต่อยัง อ.แจ้ซ้อน จ.ลำปาง แวะเที่ยวน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ก็สามารถวิ่งจากแม่กำปองมาได้ โดยเส้นทางนี้ทั้งแคบและชัน โค้งหักศอกน่าหวาดเสียวหลายๆ จุด ระหว่างทางสามารถหยุดพักรถชมวิวได้ที่ “กิ่วฝิ่น” อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ซึ่งอยู่ในเขตรอยต่อระหว่างลำปางและเชียงใหม่ แล้วผจญโค้งกันต่อ จากนั้นก็เข้าสู่บ้านป่าเหมี้ยง แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งใน อ.แจ้ซ้อน จ.ลำปาง ก่อนจะถึงยังอุทยานแห่งชาติแห่งชาติแจ้ซ้อน ซึ่งก็หมดทางชันพอดี

ถนนลอยฟ้า 1,219 โค้งสู่อุ้มผาง
ถนนลอยฟ้า แม่สอด-อุ้มผาง จ.ตาก

ทางหลวงหมายเลข 1090 แม่สอด-อุ้มผาง ได้ชื่อว่าเป็น "ถนนลอยฟ้า" ถือเป็นเส้นทางที่สวยงามและท้าทายไม่น้อย โดยคนที่จะไปเที่ยวอุ้มผางหรือน้ำตกทีลอซูก็จะต้องขับรถผ่านเส้นทางนี้ที่มีโค้งซ้ายขวามากถึง 1,219 โค้ง ลัดเลาะไปตามไหล่เขา สองข้างทางเป็นหุบเหว แม้ถนนไม่ชันน่ากลัวเท่าภูดอยทางภาคเหนือตอนบนเพราะเลาะสันเขาไปเรื่อยๆ แต่ถนนไม่กว้างนักและความคดโค้งนั้นต้องยกให้ อีกทั้งความโค้งนั้นมีระยะทางนับร้อยกิโลก็อาจทำให้ผู้โดยสารที่นั่งไปด้วยเมารถได้ง่ายๆ

ถือได้ว่าเส้นทางนี้ไม่โหดเรื่องความชันแต่โหดเรื่องความโค้งและความเมารถนั่นเอง โชคดีที่ทิวทัศน์ของทิวเขาสูงๆ ต่ำๆ สวยงามสองข้างทางมีส่วนช่วยให้หายเมารถไปได้เยอะทีเดียว

จุดชมวิวบนดอยภูคา
ถนนลอยฟ้า ปัว-ภูคา-บ่อเกลือ-สันติสุข จ.น่าน

แถมให้อีกหนึ่งเส้นทางหลวงหมายเลข 1256 ในพื้นที่ อ.ปัว มุ่งหน้าสู่ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ได้ชื่อว่าเป็น “ถนนลอยฟ้า” ตัดผ่านสันเขาสูงที่สองข้างทางเป็นหุบเขา ทิวทัศน์สองข้างทางงดงามยิ่งนัก ภูเขาใหญ่ที่เราลัดเลาะตามเส้นทางมานี้คือดอยภูคา และในระหว่างทางสายนี้เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ซึ่งมีทั้งจุดกางเต็นท์ บ้านพัก ซึ่งหากใครอยากจะแวะชมวิวหรือแวะตั้งแคมป์ค้างคืนก็สามารถทำได้

แม้เส้นนี้จะที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามเพลิดเพลิน แต่ก็อย่าเพลินจนเกินไปเพราะเส้นทางนี้ก็คดโค้งและข้างทางเป็นหุบเหวสูงชัน ต้องใช้ความระมัดระวังขณะขับรถ ในขณะที่เส้นทาง อ.บ่อเกลือ ไปยัง อ.สันติสุข ก็มีความงดงามและเป็นถนนลอยฟ้าเช่นเดียวกัน ใครชอบความท้าทายอยากลองไปพิสูจน์ฝีมือการขับรถพร้อมชมวิวสวยๆ ก็สามารถเลือกเที่ยวในเส้นทางนี้ได้

ทิวเขาสลับซับซ้อนระหว่างทางจากปัวไปดอยภูคา
เท่าที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเส้นทางลาดชันอันตราย โดยในภาคเหนือยังมีเส้นทางอีกหลายแห่งที่โค้งชัน อาทิ เส้นทางดอยแม่สลอง เส้นทางภูหลงถัง-ภูชี้ฟ้า เส้นทางขึ้นพระธาตุดอยตุง ของจังหวัดเชียงราย เส้นดอยอินทนนท์-แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ หรือแม้แต่ทางภาคใต้ใน อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ก็โค้งลาดชันไม่แพ้ภาคเหนือเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้หากใครกำลังจะเดินทางไปในเส้นทางเหล่านี้ ขอแนะนำเทคนิคการขับรถปิดท้ายสักนิดหนึ่งคือ สำหรับรถเกียร์ออโต้ สามารถใช้เกียร์ D ในการขับรถขึ้นเขาได้ หรือหากชันจริงๆ สามารถใช้เกียร์ D2,D3,S,L (ขึ้นอยู่กับรุ่น และยี่ห้อของรถ) ขณะขึ้นเขาควรเหยียบคันเร่งให้สม่ำเสมอ หากว่าเร่งๆ หยุดๆ จะทำให้กำลังรถเสียและไหลลงมาได้ ส่วนขาลงนั้นควรใช้ เกียร์ D2,D3,S,L เพื่อช่วยชะลอความเร็วของรถ ส่วนรถเกียร์ธรรมดาในเส้นทางชันใช้เพียงเกียร์ 1 หรือ 2

ขณะลงทางลาดชันเป็นระยะทางยาวๆ ไม่ควรแตะเบรคหรือคลัชค้างตลอดเวลา เพราะจะทำให้ผ้าเบรคหรือคลัชร้อนมากจนไหม้ และเบรคไม่อยู่ได้ จึงควรใช้เกียร์ต่ำขณะลงเขา และแตะเบรคช่วยเป็นระยะๆ ที่สำคัญคือห้ามปล่อยเกียร์ว่างลงเขาเด็ดขาด

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline




กำลังโหลดความคิดเห็น