ผลสำรวจล่าสุดจาก Booking.com เผยผู้เดินทางชาวไทย 94% มองว่า “การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน” สำคัญมาก โดย 78% ระบุว่าผลจากโควิด-19 ส่งผลให้ต้องการเดินทางอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ผลการสำรวจข้อมูลล่าสุดจาก Booking.com ที่รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากความคิดเห็นของผู้เดินทางกว่า 29,000 คนใน 30 ประเทศ เผยให้เห็นว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้กระตุ้นให้ผู้เดินทางมุ่งมั่นที่จะเริ่มต้นการเดินทางท่องเที่ยวในวิถียั่งยืน โดยข้อมูลระบุว่า 94% ของผู้เดินทางชาวไทยคิดว่าการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนนั้นสำคัญอย่างมาก
ขณะที่ 87% ของผู้เดินทางชาวไทยเชื่อว่าผู้คนต้องลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้เพื่อรักษาโลกใบนี้ไว้ให้คนรุ่นต่อไป และ 78% ระบุว่า การแพร่ระบาดใหญ่ครั้งนี้ส่งผลให้ต้องการเดินทางอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ผลสำรวจดังกล่าวยังเผยว่า 66% ยอมรับว่าการแพร่ระบาดได้เปลี่ยนทัศนคติให้พวกเขาลงมือสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชีวิตประจำวัน อาทิ การรีไซเคิล (50%) และการลดขยะอาหาร (28%) ซึ่งพวกเขาให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ
จากผลการสำรวจในปีนี้ แสดงให้เห็นว่าความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามแนวทางเพื่อความยั่งยืนในแต่ละวันของผู้เดินทาง สอดคล้องกับความตั้งใจที่จะออกท่องเที่ยวแบบยั่งยืนในทริปต่อ ๆ ไป โดย 94% ของผู้เดินทางชาวไทยต้องการลดปริมาณขยะทั่วไป ส่วน 91% ตั้งใจลดการใช้พลังงาน (เช่น ปิดแอร์ และปิดไฟในห้องพักในเวลาที่ออกไปข้างนอก) และ 85% ต้องการใช้ตัวเลือกในการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การเดิน การปั่นจักรยาน หรือใช้บริการรถขนส่งสาธารณะ แทนที่จะใช้แท็กซี่หรือรถเช่า
นอกจากนั้นผู้เดินทางยังเคารพและให้ความสำคัญต่อชุมชนท้องถิ่นมาเป็นอันดับต้น ๆ เช่นกัน เพราะในระหว่างการเดินทาง 85% ของผู้เดินทางชาวไทย ต้องการสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สะท้อนวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่นนั้นๆ อย่างแท้จริง ส่วน 91% เชื่อว่าการเร่งสร้างความเข้าใจด้านวัฒนธรรม และการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
ในขณะที่ 85% ต้องการมั่นใจว่าผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะถูกกระจายไปสู่คนทุกระดับในสังคม นอกจากนี้ 87% ของนักท่องเที่ยวชาวไทย ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่น ไปถึงขั้นเลี่ยงจุดหมายและสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม เพื่อให้มั่นใจว่าตนจะไม่มีส่วนทำให้เกิดปัญหานักท่องเที่ยวล้น และเพื่อช่วยกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น ด้วยการช่วยในส่วนที่ตนเองทำได้อย่างการเดินทางไปยังจุดหมายและชุมชนที่มีผู้คนไปเยือนน้อยทำลายอุปสรรคที่มีต่อการเดินทางอย่างยั่งยืน
จากผลสำรวจนี้นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงความตั้งใจดี ๆ ของผู้เดินทางเท่านั้น หากแต่ยังมีความมุ่งมั่นมากมายที่กำลังบังเกิดผล โดยระหว่างการไปทริปท่องเที่ยวในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาของผู้เดินทาง ผลสำรวจข้อมูล พบว่า 47% ของผู้เดินทางชาวไทยต่างไม่ลืมปิดเครื่องปรับอากาศในที่พักตอนไม่ได้อยู่ในห้อง ส่วน 48% พกขวดน้ำที่ใช้ซ้ำได้ไปเอง แทนที่จะซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดระหว่างออกทริป
ส่วน 51% ได้ทำกิจกรรมเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่น และอันที่จริงแล้วผู้เดินทางชาวไทยมากกว่าครึ่ง (66%) ยอมรับว่า รู้สึกหงุดหงิดหากที่พักที่เลือกเข้าพักไม่เอื้อให้พวกเขาสร้างความยั่งยืน เช่น ไม่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ หรือสิ่งของอำนวยความสะดวกที่สามารถรีไซเคิลได้
ในขณะเดียวกัน 98% ของผู้เดินทางชาวไทย กล่าวว่า ต้องการเข้าพักในที่พักรักษ์โลกที่ยึดหลักความยั่งยืนในปีที่จะถึงนี้ และอันที่จริงแล้วจาก 14% ของผู้เดินทางชาวไทยที่กล่าวว่าเมื่อปีก่อนไม่ได้เข้าพักในที่พักรักษ์โลก มีผู้เดินทาง 24% ในกลุ่มดังกล่าวระบุว่า พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีที่พักเช่นนี้อยู่ และ 47% ระบุว่า พวกเขาไม่พบตัวเลือกแบบนี้เลยในจุดหมายที่ไปมา และ 39% กล่าวว่าไม่รู้วิธีหาที่พักรักษ์โลกเหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น 66% ของผู้เดินทางชาวไทยเชื่อว่าในปี 2564 ก็จะยังไม่มีตัวเลือกที่มากพอสำหรับการเดินทางอย่างยั่งยืน
มาริแอน กิบเบิลส์ (Marianne Gybels) ผู้อำนวยการสายงานความยั่งยืน ของ Booking.com เปิดเผยว่า
เราได้ทำการสำรวจข้อมูลด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนอย่างต่อเนื่องมามากกว่า 6 ปี ข้อมูลที่เราได้รู้ถือเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราที่ Booking.com เพราะเราได้เห็นว่าการตระหนักถึงความสำคัญของการเดินทางอย่างยั่งยืนนั้นมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ทั้งจากผู้เดินทางและจากที่พักคู่ค้าของเราด้วยเช่นกัน
“ทุกฝ่ายต่างมีความตั้งใจที่ดี แต่เรายังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากเพื่อทำให้การเดินทางอย่างยั่งยืนกลายเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน ยิ่งเราช่วยให้ที่พักคู่ค้าเข้าใจและปรับใช้แนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนได้มากเท่าใด เราก็ยิ่งมีโอกาสในการทดลองเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้แก่ผู้บริโภคได้มากขึ้นเท่านั้น และในที่สุดเราก็จะค้นพบวิธีที่เหมาะสมในการเผยแพร่ข้อมูลด้านความยั่งยืนให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของผู้เดินทางได้อย่างชัดเจนและโปร่งใส
“การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ อาทิ การเลิกใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง หรือเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ประหยัดไฟ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ถ้าต่างคนต่างทำอาจจะไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญได้ แต่ถ้าผู้เดินทาง และเจ้าของที่พักหลายล้านรายจากทั่วโลกหันมาร่วมมือร่วมใจกัน ก้าวเล็กๆ เหล่านี้อาจรวมเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่ใหญ่ยิ่งได้ในท้ายที่สุด” มาริแอนกล่าวทิ้งท้าย
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline