ท่ามกลางสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนักอีกครั้งอยู่ในขณะนี้ เชื่อว่าทำให้หลายคนคิดถึงการเดินทางท่องเที่ยวแบบสุดๆ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดที่ทำได้ในขณะนี้คงเป็นการอดใจรอให้การระบาดคลี่คลายแล้วค่อยออกเดินทางกันแบบระมัดระวังเว้นระยะห่าง
หรืออีกวิธีหนึ่งคือเลือก “เที่ยวทิพย์” หรือการเที่ยวแบบออนไลน์ผ่านหน้าจอ อย่างที่ในวันนี้เราจะขอพาไปเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์สำคัญทั่วไทยแบบเสมือนจริงผ่านเว็บไซต์ http://virtualhistoricalpark.finearts.go.th/ ซึ่งเป็นเว็บไซต์เที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ที่จัดทำโดยกรมศิลปากร มีพร้อมทั้งภาพ ข้อมูล และเสียงบรรยายเกี่ยวกับโบราณสถานแหล่งต่างๆ
และที่อยากชวนให้ชมเป็นพิเศษก็คือ “อุทยานประวัติศาสตร์เสมือนจริง” ที่นอกจากจะมีภาพแบบ360 องศา พร้อมเสียงบรรยายและข้อมูลของอุทยานฯ แต่ละแห่งแล้ว ก็ยังมี “ภาพมุมสูง” ของจุดท่องเที่ยวไฮไลต์ต่างๆ ซึ่งเป็นมุมที่ปกติแล้วเราไม่สามารถจะลอยฟ้าขึ้นไปชมได้ และแน่นอนว่าเป็นมุมมองที่มีความสวยงามแปลกตา ทำให้เรามองเห็นภาพรวมของโบราณสถานแต่ละแห่งได้ วันนี้จึงขอชวนทุกคนมาสวมปีกทิพย์บินขึ้นฟ้าแล้วมองลงมาชมโบราณสถานเหล่านี้ด้วยสายตาของนกกัน
เริ่มจาก “อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี” หรือ “เขาวัง” อ.เมือง จ.เพชรบุรี พระราชวังบนเขาซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2402 ประกอบไปด้วย หมู่พระที่นั่ง ตำหนัก และอาคารต่างๆ
เราจะได้ชมภาพมุมสูงของเขาวังในหลากหลายมุม ไม่ว่าจะเป็นมุมจากหอชัชวาลเวียงชัย มุมจากพระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์
มุมจากพระธาตุจอมเพชร และมุมจากอุโบสถวัดพระแก้ว เป็นต้น ซึ่งทำให้เราเห็นทัศนียภาพของเมืองเพชรบุรีเบื้องล่างที่โอบล้อมอยู่โดยรอบ และมองเห็นความโดดเด่นงดงามของเขาวังมากยิ่งขึ้น
“อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่นี่เป็นอดีตราชธานีอันประกอบไปด้วยโบราณสถานประเภทพระราชวัง ศาสนสถาน สะพานโบราณ ย่านการค้าโบราณ รวมทั้งร่องรอยชุมชนชาวต่างชาติ โดยมีโบราณสถานไม่ต่ำกว่า 300 แห่ง
ภาพมุมสูงของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาจะทำให้เราได้เห็นภาพรวมทั้งหมดในเขตเมืองเก่า หรือสามารถเลือกชมภาพมุมสูงของแต่ละพื้นที่ อาทิ วัดราชบูรณะ วัดมหาธาตุ วัดใหญ่ชัยมงคล หรือวัดไชยวัฒนารามอันงดงามที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในมุมที่แปลกแตกต่างจากที่เคยเห็นอีกด้วย
ไปต่อกันที่ “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” อ.เมือง จ.สุโขทัยที่แสดงให้เราเห็นถึงผลงานอันล้ำเลิศทางสถาปัตยกรรมไทยยุคแรก ความงดงามอลังการของศิลปกรรม และสถาปัตยกรรมแห่งอาณาจักรสุโขทัยที่เป็นประจักษ์พยานของความรุ่งเรืองในอดีต
โดยมีโบราณสถานทั้งในและนอกกำแพงเมืองถึง217 แห่ง
ขอเลือกพาชมภาพมุมสูงของ “วัดมหาธาตุ” วัดหลวงและสุสานหลวงประจำเมือง ภายในวัดประกอบไปด้วยเจดีย์ประธาน วิหาร มณฑป โบสถ์ และเจดีย์รายจำนวนมากถึง200 องค์ ซึ่งภาพมุมสูงยิ่งทำให้เราได้เห็นความอลังการของสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ในวัดมหาธาตุได้ดียิ่งขึ้น
ส่วนที่ “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัยก็เป็นตัวเมืองเก่าตั้งอยู่บนที่ราบริมแม่น้ำยม มีเทือกเขาสามเทือกโอบรอบเมืองเหมือนป้อมปราการธรรมชาติ เมืองศรีสัชนาลัยมีความสำคัญควบคู่กันมากับเมืองสุโขทัย โดยมีสถานะเป็นเมืองลูกหลวง
มีโบราณสถานสำคัญทั้งในเขตกำแพงเมืองและนอกกำแพงเมือง โดยจะขอพาไปชมภาพมุมสูงของ “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง” ที่ตั้งอยู่บนโค้งน้ำริมแม่น้ำยม ล้อมรอบไปด้วยชุมชนชาวบ้านที่อยู่รอบๆ วัด มองดูแล้วสงบงดงามยิ่งนัก
มาที่ภาคอีสานกันบ้าง ที่ “อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง” ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ที่นี่เป็นโบราณสถานศิลปะแบบเขมรในประเทศไทยที่มีความงดงามและมีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ภาพมุมสูงที่นี่มีให้เลือกชมตามจุดต่างๆ อาทิ มุมสูงจากทางดำเนิน มุมสูงจากสะพานนาคราช มุมสูงจากปราสาทประธาน เป็นต้น ทำให้เราได้เห็นความงดงามอลังการและความฉลาดของการวางผังปราสาทอันงามสง่าแห่งนี้
และไม่ไกลกันที่ “ปราสาทเมืองต่ำ” อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ อยู่ห่างจากปราสาทพนมรุ้งมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 8 กิโลเมตร ปราสาทเมืองต่ำเป็นศาสนสถานที่สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดู สันนิษฐานว่าคงสร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะ มีลักษณะเป็นศาสนสถานประจำเมืองหรือชุมชน
ภาพมุมสูงทำให้เราเห็นผังปราสาทอันงดงามสมมาตร งดงามไปด้วยบารายขนาดเล็กล้อมรอบปราสาททั้ง 4 ด้าน และบริเวณใกล้เคียงกันมีบารายขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “ทะเลเมืองต่ำ” เป็นแหล่งน้ำสำคัญของชุมชนในแถบนี้
มาที่ “อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย” อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “ปราสาทหินพิมาย” ปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นศูนย์กลางและเป็นปากประตูสําคัญจากลุ่มแม่น้ํามูลไปสู่เมืองพระนครของอาณาจักรกัมพูชา และบ้านเมืองในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ภาพมุมสูงทำให้เราเห็นปราสาทหินพิมายอันงดงามที่ล้อมรอบไปด้วยบ้านเรือนและชุมชนโดยรอบ ซึ่งบริเวณใกล้เคียงก็ยังมีโบราณสถานเล็กๆ อยู่อีกมากมาย อาทิ ประตูชัย ประตูผี สระโบสถ์ สระแก้ว สระขวัญ สระพลุ่ง เมรุพรหมทัต เป็นต้น
ส่วนที่ “ปราสาทเมืองสิงห์” อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำแควน้อย ที่นี่อาจกล่าวได้ว่าเป็นโบราณสถานแบบเขมรที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกสุดของประเทศไทยเป็นเมืองโบราณซึ่งได้ขุดค้นพบโครงกระดูกของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่รู้จักใช้โลหะมาทำเครื่องมือเครื่องใช้และเครื่องประดับแล้ว และได้พบฐานโบราณฐานอิฐในสมัยทวารวดี
ภาพมุมสูงทำให้เราได้เห็นที่ตั้งของปราสาทที่อยู่ริมโค้งน้ำแควน้อย และมองไปไกลๆ เห็นภูเขารูปร่างแปลกตาที่ล้อมรอบอยู่ งดงามต่างจากภาพที่เคยเห็นตามธรรมดา
ปิดท้ายที่ “อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม” อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยคำว่า“สด๊กก๊อกธม”เป็นภาษาเขมร คำว่า“สด๊ก”มาจากคำว่า“สด๊อก”แปลว่า รก ทึบ คำว่า“ก๊อก”แปลว่า ต้นกก และคำว่า“ธม”แปลว่า ใหญ่ จึงแปลโดยรวมว่า ปราสาทที่รกไปด้วยต้นกกขนาดใหญ่
ภาพมุมสูงทำให้เรามองเห็นผังปราสาทสด๊กก๊อกธมที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเขมร ประกอบด้วยอาคารสำคัญ คือ ปราสาทประธาน บรรณาลัย 2 หลัง ล้อมรอบด้วยระเบียงคดและกำแพงแก้ว หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มี“บาราย” ขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า เชื่อมต่อด้วยทางดำเนินประดับด้วย“เสานางเรียง” มีซุ้มประตูหรือโคปุระ