xs
xsm
sm
md
lg

“บ้านโคกไคร” Amazing พังงา (1) : เพลิดเพลินสปา 3 ร้อนหนึ่งเดียวในเมืองไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี


เที่ยวบ้านโคกไคร ทำสปาสามร้อน หนึ่งเดียวในไทย ที่หาดทรายร้อน
“วันพิเศษ” ของแต่ละคน แต่ละสถานที่ล้วนแตกต่างกันออกไป

ใครและใครหลายคน อาจมีวันพิเศษตรงกับวันที่ 1 และ 16 กับอาการเฝ้ารอลุ้นระทึก! ลุ้นยิ่งกว่าการได้เจอหน้าคนรักเมื่อแรกพบเสียอีก

แต่สำหรับที่ “บ้านโคกไคร” ในหนึ่งเดือนที่นี่จะมีวันพิเศษสุด ๆ ที่ธรรมชาติประทานมาให้อยู่ 4 วัน อันถือเป็น Amazing พังงา ที่น่าตื่นตาตื่นใจกระไรปานนั้น


ท่องเที่ยวชุมชนบ้านโคกไคร


อรุณเบิกฟ้าที่บ้านโคกไคร
บ้านโคกไคร ต.มะรุ่ย อ.ทับปุด จ.พังงา เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ติดกับ “คลองมะรุ่ย” ที่ไหลเป็นเส้นแบ่งพรมแดนระหว่างจังหวัดพังงากับกระบี่ พร้อมทั้งเป็นเส้นทางสัญจรออกสู่ทะเล “อ่าวพังงา

ชาวบ้านโคกไครมีอาชีพหลักคือการทำประมงพื้นบ้าน และเลี้ยงหอย โดยเฉพาะ “หอยนางรม” ซึ่งที่นี่นอกจากจะเป็นหนึ่งในแหล่งเลี้ยงสำคัญของภาคใต้แล้ว ยังมีการทำบ้านหอยนางรมด้วยยางรถมอเตอร์ไซค์ผ่าซีก แขวนไว้กับหลักไม้ในทะเลให้หอยมาเกาะ จนเติบโตได้ที่ก็นำมาเลี้ยงต่อในกระชัง ถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ทำมากว่า 30 ปีแล้ว

การเลี้ยงหอยนางรมด้วยยางรถมอเตอร์ไซค์
ด้วยความโดดเด่นสภาพพื้นที่ วิถีชุมชน การเลี้ยงหอยที่เป็นเอกลักษณ์ และอาหารการกิน รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวอันโดดเด่นอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ชาวบ้านโคกไครส่วนหนึ่งจึงรวบรวมสมาชิกจัดตั้ง “กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านโคกไคร” เพื่อนำการท่องเที่ยวมาเป็นรายได้เสริม ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และวิถีชาวประมงพื้นบ้านให้ดำรงคงอยู่

สำหรับกิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ การทำ “สปาสามร้อน” หนึ่งเดียวในเมืองไทย และการชมกองทัพ “ปูมดแดง” นับหมื่นตัวออกหากินบนสันทรายกลางทะเลที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

กองทัพปูมดแดงที่หาดตั้งเลน
แต่ไฮไลท์ทั้ง 2 กิจกรรม เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน หากแต่จะเกิดขึ้นเฉพาะวันที่มีน้ำลงต่ำมาก ๆ และไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกัน โดย 1 เดือน จะสามารถชมปูมดแดงได้ 24 วัน ทำสปาสามร้อนได้ 10 วัน และสามารถทำกิจกรรมทั้ง 2 (สปา+ชมปู) ในวันเดียวกัน (ทริปเดียวกัน) ได้เพียง 4 วัน ใน 1 เดือนเท่านั้น

ถือเป็นวันพิเศษ (ตามที่กล่าวมาข้างต้น) ซึ่งผมได้มีโอกาสไปสัมผัสกับความ Amazing พังงาของชุมชนโคกไครได้อย่างเต็มอรรถรสแบบ แบบ 2 เด้ง ภายในทริปเดียว วันเดียว



หาดทรายร้อน

ล่องเรือคลองมะรุ่ยมุ่งสู่หาดทรายร้อน
เช้ามืดของวันพิเศษที่พระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้า ผมกับคณะนัดผมกับกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านโคกไคร ที่นำโดย 2 พี่น้อง “นิกร-สมพร สาระการ” เพื่อล่องเรือจากลำคลองมะรุ่นหน้าชุมชนโคกไครมุ่งสู่แหล่ง “สปาสามร้อน” หนึ่งเดียวในเมืองไทย

เรือหัวโทงลำใหญ่ พาพวกเราล่องฝ่าสายน้ำลึกเข้าไปในแผ่นดินตามลำคลองมะรุ่ย ท่ามกลางบรรยากาศวิวทิวทัศน์ยามเช้าอันสวยงาม ของคลอง 2 จังหวัด ฝั่งขวากระบี่ ที่ระหว่างมีป่าชายเลน บ้านเรือนริมคลอง กระชังปลา และที่ดูน่าตื่นตากับบ้านหอยยางรถมอเตอร์ไซค์ ที่ถือเป็นรายได้หลักของชุมชนแถบนี้

จากนั้นไม่นานเรือล่องข้ามน่านน้ำจังหวัด (เพียงไม่กี่เมตร) มาจอดเทียบที่ “หาดทรายร้อน” (ต.เขาใหญ่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่) ที่ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของเมืองไทย

หาดทรายร้อน จุดทำสปา 3 ร้อน หนึ่งเดียวในไทย
หาดทรายร้อน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “หาดน้ำร้อน” เกิดจากความร้อนใต้ดินของ “รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย” รอยแยกของเปลือกโลกที่ยังคงมีความร้อนพวยพุ่งออกมาอยู่ตลอด

ทำให้บริเวณนี้เกิดปรากฏการณ์ (ทางธรณีวิทยา) 3 ร้อน หนึ่งเดียวในเมืองไทย คือมี ทรายร้อน โคลนร้อน และน้ำเค็มร้อน อันเป็นที่มาของ “สปาสามร้อน” หนึ่งในไฮไลท์ของทริปนี้

หาดทรายร้อนไม่ได้มีให้เห็นทุกวัน แต่ในแต่ละเดือนจะปรากฏเฉพาะช่วงที่น้ำลดระดับลงต่ำสุด เพียงเดือนละ 10 วัน ในช่วง 3 ค่ำ – 7 ค่ำ และจะปรากฏเพียงไม่กี่ชั่วโมงตั้งแต่ราวตีห้า (05.00 น.) ไปจนถึงช่วงสาย ๆ ของวันเท่านั้น ซึ่งหากใครได้มาเยือนที่นี่ในช่วงเช้าตรู่ที่แสงตะวันเพิ่งสาดส่อง ก็จะพบกับควันขาวโพลนพวยพุ่งจากพื้นดินดูสวยงามไม่น้อย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมพวกเราต้องนั่งเรือออกจากบ้านโคกไครกันตั้งแต่เช้ามืด

โคลนร้อน สำหรับพอกตัว
ก่อนจะมาเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวสปา 3 ร้อน แต่ก่อนชาวบ้านในละแวกนี้ เมื่อมาหาเก็บหอยตลับแถวนี้ในยามเช้าตรู่ พบควันขาวลอยพวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน จึงลองไปพิสูจน์ความร้อน

จากนั้นจึงลองใช้โคลนร้อนพอก เพื่อช่วยอาการเหน็บชาและอ่อนล้าจากการเก็บหอย ก่อนที่ภายหลังจะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว แล้วพัฒนามาเป็นสปาสามร้อน กับการทำสปาโคลน พอกโคลนที่ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ร่างกายกระชุ่มกระชวย

สปาสามร้อน

เมื่อเราล่องเรือมาถึงยังหาดทรายร้อน ชาวบ้านที่มาจัดเตรียมพื้นที่พร้อมอุปกรณ์การทำสปาสามร้อนรออยู่ก่อน จะเข้ามาต้อนรับพร้อมอธิบายข้อมูลเบื้องต้น จากนั้นก็จะเริ่มเข้าคอร์สสปาสามร้อน เริ่มจาก

1.วอร์มเบา ๆ ด้วยการเดินเท้าเปล่าเหยียบบนพื้นทราย หรือแอ่งธารน้ำร้อน ที่มีอุณหภูมิความร้อนกำลังดี เพื่อให้ร่างกายคุ้นเคยและเปิดรูขุมขน

ขั้นตอนหมักโคลนเลนร้อน
2.หมักโคลนเลนร้อน ด้วยการยืนแช่ลงไปในเลนเหลวลึกเกือบค่อนน่องประมาณ 10 นาที (ยิ่งลึกก็ยิ่งร้อน) ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ร้อนสุด

3.สปาโคลน จากโคลนร้อนพิเศษที่อยู่ลึกลงไปในดินประมาณ 1 เมตร มีสีดำสนิทอุณภูมิกำลังดี พอกไปตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายตามที่ต้องการ แขน ขา หน้า น่อง หลัง หรือจะพอกหน้าก็ได้ (ตามความต้องการของแต่ละคน)

ขั้นตอนนี้จะให้เวลาประมาณ 15 นาทีให้ความร้อนและสารจากโคลนถ่ายเทสู่ร่างกาย ระหว่างนี้จะมีให้เลือกนั่งหรือนอนพักตามแต่สะดวก โดยมีของว่าง ชา กาแฟ และ“ชาใบขลู่” (แนะนำ) ชาสมุนไพรเพื่อสุขภาพรสกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมกับขนมพื้นบ้าน

พอกโคลน ทำสปา จิบชาใบขลู่
4.เมื่อพอกโคลนร้อนได้ประมาณ 15 นาทีแล้ว ให้ล้างโคลนออกในน้ำลำคลอง ซึ่งหลังจากกิจกรรมเสร็จสิ้นจะพบว่า ผิวพรรณชุ่มชื่น เต็งตึง ร่างกายสดชื่นกระชุ่มกระชวย คุ้มค่ากับการตื่นเช้าไม่น้อย

และนี่ก็คือการทำสปาสามร้อน หนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์ของการท่องเที่ยวชุมชนบ้านโคกไคร จ.พังงา ซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่มีรูปแบบการจัดการ “การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ” (Responsible Tourism) ที่มีความใส่ใจ ห่วงใยต่อธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สังคมวัฒนธรรม และวิถีชีวิตชุมชน โดยเฉพาะการร่วมมือกันระหว่างชุมชนในการส่งเสริมการท่องเที่ยว

พอกโคลนร้อนช่วยให้ผิวพรรณสดชื่นเต่งตึง
เพราะถึงแม้ว่า หาดทรายร้อน จะตั้งอยู่ในเขตฝั่ง จ.กระบี่ แต่ก็น่ายินดีที่ชาวชุมชนทั้ง 2 จังหวัดพังงา-กระบี่ ได้จับมือกันส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนแบบแบ่งปันร่วมมือ

โดยชาวบ้านโคกไคร (พังงา) กับชาวบ้านถ้ำเสือ (กระบี่) ได้ทำข้อตกลงการท่องเที่ยวว่า เมื่อมีนักท่องเที่ยว กรุ๊ปทัวร์ ไม่ว่าจะมาจากทางฝั่งจังหวัดไหน เรือที่ใช้ให้เป็นของบ้านโคกไคร ส่วนหมอหรือเจ้าหน้าที่ที่ดูแลด้านสปาให้เป็นของบ้านถ้ำเสือ

ขั้นตอนล้างโคลนออกในน้ำเย็นแห่งลำคลองมะรุ่ย
ขณะที่มุข (ตลก) ที่ปล่อยเพื่อช่วยสร้างสีสัน เรียกรอยยิ้มให้กับนักท่องเที่ยวนั้น เป็นหน้าที่ของทั้ง 2 ชุมชน ที่ต้องสามัคคีช่วยกัน ก่อนที่เหล่าทีมคุณหมอ (สปา) จะแยกย้ายกลับกระบี่

ส่วนผมคณะนักท่องเที่ยวกับทีมงานบ้านโคกไคร จ.พังงา ก็ออกเดินทางต่อไปสู่ “หาดตั้งเลน” หรือ “สันนาคา” เพื่อชมกองทัพปูมดแดงนับหมื่นออกหากิน ซึ่งว่ากันว่าในบางช่วงบางมุม พวกมันดูคล้าย “ปูเดินขบวน” ที่ไม่ได้ออกมาไล่ใคร หากแต่พร้อมใจกันออกมาเดิน (หนี) สร้างสีสันให้พวกมนุษย์อย่างพวกเราได้ตื่นเต้นเพลิดเพลินกัน ในสถานที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่สามารถพบเจอปูมดแดงมากที่สุดในเมืองไทย ที่ผมเพียงแค่คิดก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจไม่น้อยแล้ว...(อ่านต่อตอนหน้า)

##########################################################

บ้านโคกไคร ตั้งอยู่ที่ ม.1 ต.มะรุ่ย อ.ทับปุด จ.พังงา กิจกรรมการท่องเที่ยวชุมชนบ้านโคกไคร เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติขึ้นอยู่กับสภาพน้ำขึ้น-ลง จึงควรสอบถามตารางน้ำ เพื่อวางแผนการทำกิจกรรมล่องหน้า โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ สมพร สาระการ 087-886-0465

และสามารถสอบถามข้อมูลที่พัก ร้านอาหาร สินค้าโอทอป การเดินทาง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ใน จ.พังงา ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพังงา โทร. 0 76413400-2





กำลังโหลดความคิดเห็น