“ชามา” เอาใจเหล่าเจแปนเลิฟเวอร์ชาวไทยที่กำลังคิดถึงแดนอาทิตย์อุทัย แนะนำ 6 กิจกรรมน่าสนใจในกรุงเทพฯ ที่ให้อารมณ์และบรรยากาศคล้ายประเทศญี่ปุ่น
โลกในช่วงสถานการณ์ปกติ ก่อนหน้าที่ไวรัสร้ายโควิด-19 จะอุบัติขึ้น ในช่วงเดือนเมษายนของทุก ๆ ปี ถือเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย ต่างพากันเดินทางไปชมความงดงามของเทศกาลซากุระออกดอกผลิบานสะพรั่งที่ประเทศญี่ปุ่น
แต่ในช่วงที่โลกยังคงเผชิญกับโควิด-19 เราอาจจะต้องรอกันอีกหลายเดือน (หรือเป็นปี) กว่าสถานการณ์โควิด-19 จะผ่านพ้น จนพลเมืองโลกสามารถออกเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศกันได้ตามใจชอบกันอีกครั้ง
สำหรับกรุงเทพฯ ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่หนาแน่น โดยเฉพาะในย่าน “สุขุมวิท” และ “พร้อมพงษ์” ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าทั้ง 2 ย่านนั้น อวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความเป็นญี่ปุ่นในเมืองไทยที่น่าสนใจไม่น้อยเลย นับตั้งแต่ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ห้างสรรพสินค้า และร้านรวงต่าง ๆ
และเพื่อเอาใจเหล่าเจแปนเลิฟเวอร์ชาวไทยที่กำลังคิดถึงแดนอาทิตย์อุทัย “ชามา” แบรนด์ที่ให้บริการด้านเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ ได้คัดสรร 6 กิจกรรมน่าสนใจในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะย่านสุขุมวิทและพร้อมพงษ์ ที่มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งให้อารมณ์ และบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่นมานำเสนอกัน ดังนี้
1.ตระเวนชิมของอร่อยและขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นไม่ว่า จะเสิร์ฟมาแบบสด สุก ทอด อบ ต้ม ย่าง ถ้าคิดไม่ออกว่าไปไหนดี ลองแวะไปที่ “นิฮอนมาชิ มอลล์” ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท 26 เต็มไปด้วยร้านอาหารและบาร์บรรยากาศสบายๆ หรือที่เรียกว่า “อิซะกายะ” ใครอยากสัมผัสประสบการณ์แบบอิซะกายะแท้ๆ ต้องเลือกนั่งบนพื้นแล้วสั่งเมนูหม้อไฟและปิ้งย่างร้อน ๆ มาลองชิม
ส่วนคนที่ชื่นชอบขนมหวานและชีสเค้กสไตล์ญี่ปุ่น ไม่ควรพลาดการไปชิมของอร่อยที่ “คัสตาร์ด นาคามูระ” บนถนนสุขุมวิท 13 เค้าว่าชีสเค้กที่นี้เนื้อแน่น หอมชีส โดยไม่หวานจนเกินไป
สำหรับผู้นิยมขนมปังสไตล์ญี่ปุ่น แนะนำให้แวะไปที่ “โทราย่า เบเกอรี่” ปากซอยทองหล่อ 13 ที่มีขนมปังอบสดใหม่ และเมนูของหวาน อาทิ ไดฟุกุ โดรายากิ และขนมปังไส้สัปปะรด
2.เดินเล่นซื้อสินค้า-อาหาร จากซุปเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่น
สำหรับนักช้อปชาวไทย โดยเฉพาะนักช้อปที่ชื่นชอบสินค้า-อาหารญี่ปุ่น ทั้งอาหารทะเลสดสะอาด ผลไม้เนื้อแน่น ชุ่มฉ่ำ ซูชิราคาไม่แพง และเนื้อวากิวอร่อย ๆ สามารถเลือกซื้อของเหล่านี้ได้ในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะที่ย่านสุขุมวิท พร้อมพงษ์ ที่มีแหล่งให้เลือกซื้อสินค้า-อาหารญี่ปุ่น ในบรรยากาศแดนอาทิตย์อุทัย อยู่ไม่น้อยเลย
เริ่มจาก “นิฮอน อิชิบะ” ปากซอยทองหล่อ 13 ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับตลาดปลาในญี่ปุ่น ในขนาดกระทัดรัด รับประกันความสดของอาหารทะเลเพราะมีการส่งวัตถุดิบมาจากญี่ปุ่นรายวัน นอกจากนี้ยังมีเนื้อวากิว ผัก และผลไม้ วางจำหน่ายอีกด้วย
ส่วนอีกหนึ่งแหล่งช้อปสินค้า-อาหารญี่ปุ่น สำคัญในเมืองไทยก็คือ “ดอง ดอง ดองกิ” สาขาสุขุมวิท 63 ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาวัตถุดิบ อาหารสด และอาหารแห้ง อาทิ ซอสทำอาหาร เครื่องปรุงรส และขนมจุกจิก รวมถึงคิทแคทกลิ่นซากุระ และมันฝรั่งทอดรสวาซาบิที่หลาย ๆ คนนิยม
ขณะที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่คนญี่ปุ่นชอบไปมากที่สุด คงจะหนีไม่พ้น “ยูเอฟเอ็ม ฟูจิ ซูเปอร์” สาขาสุขุมวิท 33 ที่ใครได้มาเป็นต้องปลาบปลื้มกับตัวเลือกที่มีความหลากหลาย บางคนถึงกับบอกว่าเหมือนไปช้อปปิ้งในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว
3.ชอปปิ้งของมือสองคุณภาพสไตล์คนญี่ปุ่น
ชาวญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องชอบซื้อของมือสองคุณภาพดีเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งวันนี้สินค้ามือสองสไตล์คนญี่ปุ่นก็กำลังเป็นที่นิยมแพร่หลายในเมืองไทย มีร้านมือสองญี่ปุ่นเปิดขายกันเป็นจำนวนมากทั่วไทย
สำหรับย่านพร้อมพงษ์และเอกมัยนั้น มีร้านมือ 2 ญี่ปุ่น น่าสนใจคือ “โตเกียว โจ” บนถนนสุขุมวิท 39 ที่มีสินค้ามือสองนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นอยู่เต็มร้าน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ
ส่วนหนอนหนังสือต้องแวะไป “ดาสะ บุ๊ค คาเฟ่” ซึ่งอัดแน่นไปด้วยหนังสือมือสองที่มีการรักษาคุณภาพไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
ด้านใครชอบเสื้อผ้าเก๋ๆ มีดีไซน์ไม่เหมือนใคร น่าจะชอบ “(อัน) แฟชั่น คาเฟ่” บนถนนสุขุวิท 63 ซึ่งมีการแบ่งโซนเสื้อผ้าผู้หญิงและผู้ชายอย่างชัดเจน
4.แช่ออนเซ็นคลายเครียดให้ตัวเบาสบาย
เป็นที่ทราบกันดีกว่าการแช่น้ำร้อนหรือ ‘ออนเซ็น’ นั้นก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขับสารพิษ ของเสียต่างๆ ออกจากร่างกาย ทำให้ผิวสดใส อ่อนเยาว์ รวมถึงช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้ความเมื่อยล้าละลายหายไป
ถ้าจะพูดถึงออนเซ็นแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับออนเซ็นที่อยู่ญี่ปุ่นก็คงจะหนีไม่พ้น “ยูโนะโมริ ออนเซน แอนด์ สปา” บนถนนสุขุมวิท 26 มาพร้อมกับออนเซ็นในร่มและออนเซ็นกลางแจ้ง ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นของสวนสไตล์ญี่ปุ่น
ส่วนใครถ้ารู้สึกเขินเกินกว่าจะแช่ออนเซ็นร่วมกันกับผู้อื่น ลองแวะไปแช่ออนเซ็นในอ่างไม้ส่วนตัวที่ “คาชิคิริ ออนเซน แอนด์ สปา” บนถนนสุขุมวิท 49 ซึ่งลูกค้าสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์อาบน้ำส่วนตัวได้ผ่านการผสมแร่ธาตุลงไปในน้ำแร่เพื่อให้มีประโยชน์ในแบบที่ลูกค้าต้องการ
5.เรียนรู้ศิลปะและงานฝีมือสไตล์ญี่ปุ่น
ระหว่างที่กำลังรอให้สถานการณ์โรคระบาดดีขึ้นและประเทศต่าง ๆ เปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง เจแปนเลิฟเวอร์อาจใช้ช่วงเวลานี้ในการฝึกปรือทักษะและงานฝีมือสไตล์ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น “ชิโบริ” เทคนิคการย้อมผ้าสีครามสไตล์ญี่ปุ่น หรือ “อิเคบานะ” ศิลปะการจัดดอกไม้ในแจกัน
ถ้านึกไม่ออกว่าจะเริ่มจากอะไรดี ขอแนะนำให้แวะไปที่ “เจแปนฟาวน์เดชั่น” บนถนนสุขุมวิท 21 เพื่อลองดูว่ามีกิจกรรมอะไรน่าสนใจให้ทำบ้าง รับรองว่าสนุกเพลิดเพลินไม่น้อยเลย
6.พักผ่อนในบรรยากาศญี่ปุ่น
ปิดท้ายกันด้วยผู้ที่ต้องการเช็คอินพักผ่อนในบรรยากาศญี่ปุ่น “โรงแรมชามา เลควิว อโศก กรุงเทพฯ” มีบรรยากาศของห้องรับแขกที่ตกแต่งด้วยเสื่อทาทามิ เหมาะสำหรับการนั่งพักจิบชา ละเลียดซูชิ สังสรรค์กับเพื่อน และนอนพักยามบ่ายในบรรยากาศแบบญี่ปุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline
