ปี 2564 นี้ถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมี “วันหยุดประจำภาค” ที่รัฐบาลกำหนดให้หยุดเพิ่มเป็นพิเศษเฉพาะภูมิภาค เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในปีนี้ โดยวันหยุดประจำภาคที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นานนี้ก็คือวันหยุดประจำภาคเหนือเมื่อวันศุกร์ที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นช่วงประเพณีไหว้พระธาตุ หรือประเพณีขึ้นธาตุของทางภาคเหนือ
ตามความเชื่อของคนเหนือนั้นจะเชื่อเรื่อง “พระธาตุประจำปีเกิด” โดยเชื่อว่าก่อนที่วิญญาณจะมาปฏิสนธิในครรภ์ของผู้เป็นมารดา วิญญาณจะลงมา “ชุธาตุ” ซึ่งหมายถึงการที่ดวงวิญญาณจะลงมาพักอยู่ที่เจดีย์แห่งใดแห่งหนึ่ง โดยมีตั๋วเปิ้ง (สัตว์ประจำนักษัตร) พามาพักไว้ และเมี่อได้เวลา ดวงวิญญาณก็จะเคลื่อนจากพระเจดีย์ ไปสถิตอยู่บนกระหม่อมของผู้เป็นบิดาเป็นเวลา 7 วัน ก่อนที่จะเคลื่อนเข้าสู่ครรภ์ของมารดา และเมื่อเสียชีวิตลงแล้ว ดวงวิญญาณก็จะกลับไปพักอยู่ที่เจดีย์นั้นๆ ตามเดิม
ดังนั้นการมีโอกาสได้ไปกราบไหว้พระธาตุประจำปีเกิดของตนอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต ก็เชื่อว่าจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต อีกทั้งเชื่อว่าเมื่อตายไป ดวงวิญญาณจะได้กลับไปยังพระธาตุองค์นั้น ไม่ต้องเร่ร่อนไปในทุคคติภพ
ดังนั้นประจวบเหมาะกับการที่ปีนี้เป็นปีฉลู (ปีวัว) อีกทั้งมีการประกาศวันหยุดประจำภาคเหนือในช่วงประเพณีไหว้พระธาตุ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยว ชวนคนเหนือเที่ยวภาคเหนือ ภายใต้กิจกรรม “ไหว้พระธาตุเมืองเหนือ...เสริมมงคลชีวิต” นำกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวภายในภูมิภาคแบบ New Normal ในแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดลำปางและพื้นที่ใกล้เคียงพร้อมทั้งสักการะองค์พระธาตุลำปางหลวง ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีฉลู พร้อมทั้งทำพิธีสืบชะตาแบบล้านนา โดยมีนายกฤษณะ แก้วธำรงค์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในพิธี
กิจกรรมในครั้งนี้ ททท. มุ่งเน้นการท่องเที่ยวพื้นที่รอง และการท่องเที่ยวเชิงศาสนา สืบสานประเพณีดีงาม การไหว้พระธาตุตามปีเกิดตามความเชื่อของชาวเหนือ นำโดยการไหว้พระธาตุที่ "วัดพระธาตุลำปางหลวง" พระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีฉลู และเสริมมงคลชีวิตด้วยพิธีสืบชะตา ที่เชื่อกันว่าเป็นการต่ออายุหรือต่อชีวิตของบ้านเมืองหรือของคนให้ยืนยาว มีความสุข ความเจริญ ตลอดจนเป็นการขจัดภัยอันตรายต่างๆ ที่จะบังเกิดขึ้นให้แคล้วคลาดปลอดภัย
จึงเป็นโอกาสดีในคราวนี้ที่จะชวนไปชมความงดงามของวัดพระธาตุลำปางหลวง พระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีฉลูไปพร้อมๆ กัน
สำหรับ “วัดพระธาตุลำปางหลวง” ตั้งอยู่ในอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ห่างจากตัวเมืองลำปางราว 18 กิโลเมตร เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ ตามตำนานกล่าวว่ามีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีในราวพุทธศตวรรษที่ 20
ตามตำนานกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระเถระสามองค์ได้เสด็จจาริกไปตามบ้านเมืองต่างๆ จนถึงบ้านลัมภะการีวัน หรือบ้านลำปางหลวงปัจจุบัน พระพุทธเจ้าได้ประทับเหนือดอยม่อนน้อย มีชาวลัวะคนหนึ่งชื่อลัวะอ้ายกอนเกิดความเลื่อมใส ได้นำน้ำผึ้งบรรจุกระบอกไม้ป้าง มะพร้าว และมะตูมมาถวาย พระพุทธองค์ได้ฉันน้ำผึ้งแล้วทิ้งกระบอกไม้ป้างไปทางทิศเหนือ แล้วทรงพยากรณ์ว่า สถานที่แห่งนี้ต่อไปจะมีชื่อว่าลัมพกัปปะนคร
แล้วได้ทรงลูบพระเศียรได้พระเกศามาหนึ่งเส้น มอบให้แก่ลัวะอ้ายกอนผู้นั้น ลัวะอ้ายกอนได้นำพระเกศานั้นบรรจุในผอบทองคำ และใส่ลงในอุโมงค์พร้อมกับถวายแก้วแหวนเงินทองเป็นเครื่องบูชา แล้วแต่งยนต์ผัด (ยนต์หมุน) รักษาไว้ ถมดินให้เรียบเสมอกันแล้วก่อเป็นพระเจดีย์สูงเจ็ดศอกเหนืออุโมงค์นั้น ในสมัยต่อมาได้มีกษัตริย์เจ้าผู้ครองนครลำปางอีกหลายพระองค์มาก่อสร้างและบูรณะซ่อมแซมจนกระทั่งปัจจุบัน
ภายในวัดพระธาตุลำปางหลวง มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และงานสถาปัตยกรรมงดงามให้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นองค์พระธาตุขนาดใหญ่ทรงล้านนาหุ้มด้วยแผ่นทองเหลืองฉลุลายมีความงดงามเป็นอย่างมาก ภายในพระธาตุบรรจุพระเกศาและพระอัฐิธาตุจากพระนลาฎข้างขวา พระศอด้านหน้าและด้านหลัง
เมื่อได้กราบองค์พระธาตุเรียบร้อยแล้ว ขอชวนไปชมสิ่งที่น่าสนใจในวัดแห่งนี้ต่อ ไม่ว่าจะเป็นพระวิหารหลวง ซึ่งมีลักษณะเป็นวิหารโถงไม่มีผนังตามแบบล้านนายุคแรก มีกู่พระเจ้าล้านทอง หรือเจดีย์ทรงปราสาทที่ภายในประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในลำปาง
ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงยังขึ้นชื่อในเรื่องของการชม “พระธาตุหัวกลับ” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดจากการณ์หักเหของแสง หลักการเดียวกับกล้องรูเข็ม โดยจุดชมเงาพระธาตุหัวกลับที่เป็นไฮไลท์จะอยู่ที่มณฑปพระพุทธบาทที่อยู่ด้านหลังองค์เจดีย์ ว่ากันว่าถูกค้นพบโดยบังเอิญเมื่อพระสงฆ์เข้าไปทำความสะอาดในมณฑปแล้วพบเงาพระธาตุที่เกิดจากแสงที่ส่องลอดผ่านรูเล็กๆ บนผนัง ปรากฏในลักษณะของเงาพระธาตุหัวกลับ มีสีสันสวยงามตามจริง แต่ทั้งนี้มีข้อห้ามผู้หญิงขึ้นไปชมพระธาตุหัวกลับบนมณฑปพระพุทธบาท
แต่ผู้หญิงสามารถเข้าไปชมเงาพระธาตุได้อีกที่หนึ่งคือที่ “วิหารลายคำ” หรือ “วิหารพระพุทธ” ด้านข้างองค์เจดีย์ ที่นอกจากจะเป็นอีกหนึ่งจุดชมเงาพระธาตุลำปางหลวงแล้ว ก็ยังเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพระพุทธ” พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนสามปางมารวิชัยที่ได้ชื่อว่ามีพระพุทธลักษณะที่งดงามมากแห่งหนึ่งในล้านนาอีกด้วย
นอกจากนั้นอย่าลืมเข้าไปกราบ “พระแก้วดอนเต้า” แห่งลำปาง ที่สร้างจากหยกสีเขียวเข้ม เป็นศิลปะแบบเชียงแสนตอนปลาย องค์พระประทับนั่งสมาธิราบมือประสานบนตัก ประดิษฐานอยู่ในกุฏิพระแก้วของวัดพระธาตุลำปางหลวงนั่นเอง
และปิดท้ายด้วยการชื่นชมความงามของ “บันไดนาค” กับพญานาคงานปูนปั้นสีขาวเด่นรูปทรงเฉพาะตัว ที่ทอดนำไปสู่ “ซุ้มประตูโขง” อันสวยงามสุดคลาสสิค ได้ชื่อว่าเป็นซุ้มประตูโขงวัดโบราณที่สวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทยอีกด้วย
#################
ผู้ที่สนใจเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดลำปาง และต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พักในจังหวัดลำปาง สามารถสอบถามได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลำปาง โทร.0 5422 2214 www.tourismlampang-lamphun.com
#################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline