หอสังเกตการณ์อุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นฮิโรชิมาได้ประกาศว่าซากุระได้เริ่มบานแล้วที่เมืองฮิโรชิม่าเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 ซึ่งการบานในครั้งนี้ถือได้ว่าซากุระบานไวที่สุดในรอบ 63 ปี ซึ่งทางหอสังเกตการณ์อุตุนิยมวิทยาได้เริ่มทำการจดบันทึกเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1953 (68 ปีก่อน) ซึ่งครั้งนี้ถือว่าดอกซากุระบานไวที่สุดในประเทศนับตั้งแต่ได้จดบันทึกมา
ทั้งนี้ พนักงานหอสังเกตการณ์อุตุนิยมวิทยาพบว่าซากุระได้เริ่มบานแล้ว 4 ดอก และในเวลา 15.00น. ได้ทำการสำรวจอีกครั้งและพบว่าบานรวมเป็น 6 ดอก ซึ่งต่อมาทางหอสังเกตการณ์อุตุนิยมวิทยาได้ทำการประกาศเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ว่าซากุระได้เริ่มบานแล้วและบานไวที่สุดในรอบ 63 ปี ในครั้งนี้บานเร็วกว่าปกติถึง 16 วัน และไวกว่าปีที่แล้ว 11 วัน ซึ่งเป็นการบานเร็วที่สุดนับตั้งแต่เริ่มปี ค.ศ.1953 และทางหอสังเกตการณ์อุตุนิยมวิทยาได้แจ้งว่าดอกซากุระจะบานเต็มต้นประมาณสัปดาห์หน้านี้ โดยหัวหน้าหอสังเกตการณ์อุตุนิยมวิทยาได้กล่าวถึงสาเหตุที่ซากุระบ้านเร็วกว่าปกติว่า "ในเดือนที่แล้วมีอากาศที่แจ่มใสและวันที่แดดออกเยอะ เลยอาจจะมีผลให้ดอกซากุระบานไวก็เป็นได้ และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เห็นดอกซากุระบานครั้งแรกของญี่ปุ่นในปีนี้"
ด้านดอกซากุระในโตเกียวก็เริ่มเบ่งบานแล้วเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 64 กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (Japan Meteorological Agency) ก็ได้ออกมาประกาศการบานของดอกซากุระในโตเกียวแล้วเช่นกัน โดยถือว่าบานเร็วกว่าค่าเฉลี่ยปกติถึง 12 วัน โดยต้นซากุระโซเมะโยชิโนะที่ใช้เป็นต้นมาตรฐานในการประกาศซากุระบานของ จ.โตเกียว คือต้นซากุระที่ศาลเจ้ายาสุคุนิ โดยการจะถือว่าซากุระบานนั้น ดอกซากุระที่ต้นมาตรฐานจะต้องบาน 5 ดอกขึ้นไป และหลังจากนี้จะใช้เวลา 1 อาทิตย์เพื่อเข้าสู่ช่วงบานเต็มที่ต่อไป