ช่วงนี้บรรดากิจกรรมเอ็กซ์ตรีมทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟสเก็ต เซิร์ฟบอร์ด ซัปบอร์ด กำลังเป็นกิจกรรมยอดฮิตของเหล่าวัยรุ่นวัยทำงาน ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่แต่หัวใจยังมีไฟอยู่ เราจึงได้เห็นคนหันมาทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์เหล่านี้กันเยอะขึ้นมาก
โดยเฉพาะซัปบอร์ด (SUP Board หรือ Stand Up Paddle Board) หรือบอร์ดยืนพายนั้น ยิ่งเหมาะสำหรับสายท่องเที่ยวที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งและได้ท่องเที่ยวชมธรรมชาติไปด้วย
ดังนั้นแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ ไม่ว่าจะเป็นทะเล แม่น้ำ หรือบึงต่างๆ ก็มักมี SUP Board ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว หรือบางคนก็ซื้อหาเป็นของตัวเอง แล้วนำติดรถไปไหนไปกันได้
สำหรับคนที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งพาย SUP ที่เหมาะๆ อยู่ วันนี้เราชวนมาที่ “สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” ใน ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งเป็นศูนย์ศึกษาวิจัย และรวบรวมพรรณไม้ในภาคตะวันออก และเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรพันธุ์พืช โดยเฉพาะสภาพนิเวศวิทยาของพื้นที่ชุ่มน้ำและป่าเสม็ด รวมถึงเพื่อเป็นแหล่งให้ความรู้ของประชาชน แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ในเชิงนิเวศแก่ผู้เข้าชม
สวนพฤกษศาสตร์ระยองนี้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้มานานเกือบ 20 ปีแล้ว ช่วงแรกๆ ที่โซเชียลมีเดียยังไม่ฮิตที่นี่ก็เลยยังมีคนรู้จักน้อย แต่ภายหลังเมื่อภาพความสวยงามกระจายออกไปตามโซเชียล บวกกับทางสวนฯ ได้จัดหากิจกรรมท่องเที่ยวใหม่ๆ มาบริการนักท่องเที่ยว ก็ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของระยองรองจากทะเลไปแล้ว
ความโดดเด่นของสวนพฤกษศาสตร์ระยองอยู่ตรงที่พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งเป็นบึงน้ำธรรมชาติ เรียกว่า “บึงสำนักใหญ่” หรือ “หนองจำรุง” ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,800 ไร่ โดยส่วนหนึ่งจะอยู่ในความดูแลของสวนฯ บึงน้ำจืดแห่งนี้คอยรองรับน้ำที่ไหลมารวมกันในบริเวณพื้นที่ ต.ชากพง โดยมีเกาะตั้งอยู่กลางบึง ดังนั้นพืชพรรณต่างๆ ส่วนหนึ่งก็จะเป็นพืชเฉพาะถิ่น พบเจอไม่ได้ง่ายๆ ที่อื่น
ไฮไลต์ที่เราจะได้ชมที่สวนพฤกษศาสตร์ระยองก็คือ “ป่าเสม็ดพันปี”ที่มีส่วนใหญ่เป็นต้นเสม็ดขาวและมีต้นเสม็ดแดงบ้าง
ต้นเสม็ดเหล่านี้อายุเก่าแก่และขึ้นอยู่เป็นบริเวณกว้างหลายร้อยต้น ต้นเสม็ดนี้พบได้ทั้งภาคตะวันออกและภาคใต้ พบได้ทั่วไปในพื้นที่ป่าพรุที่มีน้ำท่วมในหน้าฝน และในหน้าแล้งมีไฟไหม้ป่าอยู่เป็นประจำ ซึ่งพรรณไม้ชนิดอื่นๆ จะไม่สามารถปรับตัวได้ คงเหลือแต่เสม็ดที่ขึ้นเป็นกลุ่ม
เหตุที่ต้นเสม็ดทนได้ทั้งน้ำทั้งไฟก็เพราะลำต้นมีเปลือกหนานุ่มซ้อนกันเป็นชั้นๆ เพื่อปกป้องแก่นของต้นซึ่งเนื้อแข็งมาก เปลือกที่ลอกได้เป็นชั้นๆ นี้ชาวบ้านนำเอาไปทำเป็นฝาบ้านหรือมุงหลังคาได้ ส่วนแก่นต้นที่แข็งแกร่งก็นำไปเผาเป็นถ่านได้
ต้นเสม็ดที่อายุมากๆ จะแผ่กิ่งก้านและลำต้นออกไปไกล ปลายกิ่งหงิกงอดูแล้วชวนให้นึกถึงป่าดึกดำบรรพ์อันงดงามน่าชม อีกทั้งสังคมกลุ่มนิเวศป่าเสม็ดขาวที่นี่ยังได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นรุกขมรดกของแผ่นดิน ประจำปี 2562 โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม อีกด้วย
นอกจากนั้นยังมีเกาะมหัศจรรย์อย่าง “แพหญ้าหนังหมา” ที่ทับถมกันเป็นชั้นหนาๆ มากกว่า 50 เซนติเมตร ลอยเป็นผืนใหญ่เราสามารถขึ้นไปเดินบนแพหญ้านี้ได้ โดยเวลาเดินก็จะให้ความรู้สึกหยุ่นๆ นั่นเพราะแพหญ้านี้ลอยอยู่บนน้ำ และบนแพหญ้าหนังหมานี้ก็มีพรรณไม้หายากหลายชนิดขึ้นอยู่ เช่น เอื้องอึ่งอ่าง ผักไผ่น้ำ แห้วชะครู เอื้องสีสนิม เป็นต้น
ปกติแล้วนักท่องเที่ยวที่มาเยือนสวนพฤกษศาสตร์ระยอง หากมาเป็นหมู่คณะใหญ่เพื่อศึกษาเรียนรู้ก็จะเลือกนั่งเรือยนต์ท้องแบนชมธรรมชาติในป่าพรุ หรือหากมาเป็นกลุ่มเล็กๆ มาท่องเที่ยวกัน ทางสวนฯ ก็มีบริการให้เช่าเรือคายัคพายชมป่าเสม็ดและพืชพรรณต่างๆ ในป่าพรุในราคา 100 บาท/ชั่วโมง ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ในวันเสาร์อาทิตย์เรียกว่ามีคนมาเช่าเรือคายัคกันต่อเนื่อง โดยเส้นทางการพายก็มีทั้งรอบเล็กรอบใหญ่ (1-2.5 ก.ม.) ใช้เวลารวมทั้งเที่ยวและถ่ายรูปสำหรับรอบเล็กประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง
และทางสวนฯ ยังเห็นว่าช่วงนี้ SUP เป็นที่นิยม และเหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวภายในบึงของสวนฯ จึงเปิดให้เป็นจุดที่สามารถนำ SUP ส่วนตัวมาลงพายท่องเที่ยวได้ โดยเก็บค่าบริการ 100 บาท/คน และนำลงพายในเส้นทางเดียวกับเรือคายัคนั่นเอง
อย่างในวันนี้ที่เรามีโอกาสได้มาพาย SUP กันที่สวนพฤกษศาสตร์ระยอง โดยเป็นความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ Welcome on Board Thailand ผู้ให้บริการซื้อขายและเช่า SUP นอกสถานที่ รวมไปถึงให้บริการจัดทริปพายรวมไปถึงอุปกรณ์เซิร์ฟสเก็ตต่างๆ ที่นอกจากจะเอา SUP มาให้เราลงพายแล้ว ก็ยังสอนวิธีปรับขนาดไม้พายให้เหมาะสม การจับพายที่ถูกต้อง วิธีพาย วิธีเลี้ยว ฯลฯ พร้อมทั้งยังคอยประกบช่วยเหลือตลอดเส้นทางการพายอีกด้วย
สำหรับคนที่ไม่เคยพายก็ไม่ต้องกลัวเพราะว่าไม่ยากเลย ฝึกทำความคุ้นเคยกับบอร์ดไม่นานก็สามารถพายเองได้แล้วโดยบอร์ดนี้สร้างมาเพื่อให้เราขึ้นไปยืนได้ จึงไม่ต้องกลัวบอร์ดจะพลิกคว่ำ อาจจะมีโอนเอนไปบ้างเพราะแรงน้ำแรงคลื่นก็แนะนำว่าอย่าฝืน ลองทิ้งน้ำหนักให้เข้ากับความเคลื่อนไหวของบอร์ด ไม่ช้าก็จะรู้จังหวะและรู้สึกถึงการยืนอย่างสมดุล
ระหว่างเส้นทางการพายนั้นเราก็จะได้ชมพรรณไม้ต่างๆ ในป่าพรุไปด้วย ผ่านต้นกระจูดกอใหญ่ มองเห็นสาหร่ายใต้ท้องน้ำที่ไม่ลึกเท่าไรนัก และไฮไลต์ของเส้นทางก็อยู่ที่บริเวณป่าเสม็ดที่ร่มครึ้มสวยงามนั่นเอง ตรงจุดนี้หลายคนจึงจอดแวะถ่ายรูปกันหลายแชะหน่อย
นอกจากนั้นก็ยังผ่านบึงดอกบัวสีม่วงน่ารัก ผ่านทุ่งหญ้าริมน้ำที่สามารถชมวิวไปได้กว้างไกล พายบ้างพักบ้าง ชมวิวถ่ายรูปบ้าง ตามเส้นทางที่วนเป็นวงกลม ราว 1 ชั่วโมงครึ่งก็ครบเส้นทางรอบเล็ก มีเหนื่อยบ้างล้าบ้าง แต่ความสนุกมีมากกว่า
ใครที่อยากท่องเที่ยวแนวใหม่ในสวนพฤกษศาสตร์ระยอง ถ้ามี SUP เป็นของตัวเองก็ยกใส่รถมาได้เลย แต่ถ้าใครไม่มีเป็นของตัวเองอยากจะลองเช่า SUP กับ Welcome on Board Thailand ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดกันได้ รับรองว่าถ้าได้ลองแล้วต้องชอบแน่นอน
“สวนพฤกษศาสตร์ระยอง”ตั้งอยู่ใน ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 08.30-16.00 น. ทางสวนเปิดให้เข้าชมได้ฟรี หากมาเป็นหมู่คณะต้องการนั่งเรือท้องแบนราคา 600 บาท/ช.ม. เรือคายัค 100 บาท/ช.ม. จักรยาน 50 บาท/ช.ม. ถ้าเอาSUP Board มาเองคิดค่าใช้จ่าย 100 บาท/คน หรือจะเดินเท้าท่องเที่ยวก็ได้ สอบถามโทร.0-3863-8880-1, 0-3863-8981 หรือสอบถามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง (ดูแลพื้นที่ระยอง,จันทบุรี) โทร.0-3865-5420-1, 0-3866-4585,0-3865-5422
สำหรับค่าบริการเช่า SUP Board จาก Welcome on Board Thailand สำหรับผู้เริ่มต้นหัดพายที่ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอนเท่านั้น มีค่าอุปกรณ์ชั่วโมงละ 200 บาท (สอนพื้นฐานฟรี) ส่วนผู้ที่ต้องการเช่าบอร์ดพายนอกสถานที่ รายชั่วโมง ค่าอุปกรณ์ชั่วโมงละ 300 บาท (ค่าเช่ายังไม่รวมค่าขนส่ง) หรือเหมารายวัน (24 ชั่วโมง) ค่าอุปกรณ์วันละ 1,000 บาท (ค่าเช่ายังไม่รวมค่าขนส่ง) นอกจากนี้ยังรับจัดทริปพาย SUP Board ตามเส้นทางต่างๆ ทั่วประเทศ ราคาเริ่มต้นที่คนละ 500 บาท หรือตามงบประมาณและเส้นทาง สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.08 4143 7854 หรือ Facebook : Welcome on Board Thailand
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline