ความสงบเงียบตามประสาเมืองเล็กๆ ของ “พัทลุง” ในบรรยากาศภาคใต้ของไทย เมืองเล็ก ๆ น่ารักแห่งดินแดนด้ามขวานไทย ก็ได้ซ่อนเสน่ห์อันเหลือเชื่อเอาไว้มากมาย อย่างที่ “ทะเลน้อย” ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนี้มายาวนาน
“ทะเลน้อย” หรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย หรืออุทยานนกน้ำทะเลน้อย เป็นแหล่งน้ำจืดพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีเนื้อที่เกือบแสนไร่ ตั้งอยู่ที่ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ครอบคลุมพื้นที่สามจังหวัด พัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช ทะเลน้อยมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำจืดขนาดใหญ่ อยู่ตอนบนสุดของทะเลสาบสงขลา มีพื้นที่ส่วนน้ำมีประมาณ 17,500 ไร่ โดยมีคลองเชื่อมต่อทะเลสาบ
ทะเลน้อยยังเป็นแหล่งพื้นที่ชุ่มน้ำโลกด้วย หรือแรมซาร์ไซต์ทะเลน้อย (Ramsar site) เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพเต็มไปด้วยป่าพรุ ป่าเสม็ดขาว บัวชนิดต่าง ๆ กระจูด และหญ้าพืชพรรณชนิดต่างๆเยอะมาก จึงเหมาะสำหรับเป็นที่อยู่ของนกน้ำประจำถิ่น นกอพยพจากเมืองหนาว และสัตว์หลายชนิด รวมถึงเป็นแหล่งประมงสัตว์น้ำจืดที่สำคัญของชาวบ้าน
กิจกรรมของนักท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนทะเลน้อยพัทลุง ก็คือการล่องเรือ แลนก ชมบัว ดูควาย ทะเลน้อยมีชื่อเสียงในเรื่องนั่งเรือหางยาวชมวิวไปตามบึงบัวแดงขนาดใหญ่มากๆ จะได้เห็นนกน้ำชนิดต่างๆ เช่น นกอีโก้ง เป็ดแดง นกกระยาง นกกาลักน้ำเล็ก นกช้อยหอย นกตีนเทียน และนกชนิดอื่นๆ ตามฤดูการที่อพยพมาจากที่อื่นด้วย โดยนกเหล่านี้จะออกหากินตามบึงบัว บินสลับไปมาตลอด หากใครที่ชอบดูนกไม่ควรพลาด และยังสามารถล่องเรือเข้าไปดูแหล่งทำรังนกแบบใกล้ชิดอีกด้วย
ส่วนกิจกรรม “ชมบัว” ทะเลน้อยมีพันธุ์บัวหลัก ๆ อยู่ 4 ชนิด ได้แก่ บัวหลวง บัวเผื่อน บัวบา และ “บัวสาย” ที่เป็นสายพันธุ์บัวที่มีมากที่สุดในทะเลสาบแห่งนี้ (บัวสายหลาย ๆ คน นิยมเรียกกันว่า “บัวแดง”)
บัวสายที่ทะเลน้อยจะมีช่วงเวลาทองของการออกดอกเบ่งบานอยู่ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ในช่วงนั้น ทุก ๆ เช้าเหล่าบัวสายจะพร้อมใจกันออกดอกบานสะพรั่งให้สีชมพูสดใส เกิดเป็นภาพของ “ทะเลบัวสาย” หรือ “ทะเลบัวแดง” อันงดงามเต็มท้องน้ำที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจเป็นยิ่งนัก
อีกหนึ่งจุดขายสุดอเมซิ่งของทะเลน้อยกับ “ควายน้ำ” อันแสนน่ารักน่าชม ควายน้ำจริง ๆ แล้วก็คือ ควายเลี้ยงทั่วไปของชาวบ้านในละแวกทะเลน้อยและทะเลสาบสงขลา โดยในช่วงหน้าแล้งที่น้ำในทะเลสาบลดระดับลงต่ำมาก จนเกิดมีสันดอนพื้นดินโผล่ขึ้นมา และมีทุ่งหญ้าขึ้นปกคลุม ควายพวกนี้มันก็จะดำรงชีวิตด้วยการหากินบนบกเหมือนควายปกติทั่ว ๆ ไป
หากใครมาเที่ยวทะเลน้อยแล้วไม่ได้ไปเที่ยวคลองปากประที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกัน นั้นก็เหมือนกับว่าทริปนี้ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ “คลองปากประ” ตั้งอยู่ที่ บ้านปากประ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เป็นลำคลองที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีสายน้ำไหลไปออกยังทะเลหลวงที่เป็นส่วนตอนบนของทะเลสาบสงขลา (เป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของทะเลสาบสงขลา)
ปัจจุบันคลองปากประเป็นคลองแห่งวิถีชีวิต ที่โดดเด่นไปด้วยการทำประมงพื้นบ้านในรูปแบบของการยก “ยอยักษ์” ที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นยอขนาดใหญ่ มีรูปร่างสามเหลี่ยม มุมทั้งสี่ยึดโยงกับไม้รวกหรือไม้ไผ่
ยอยักษ์แม้จะมีน้ำหนักมาก แต่ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ชาวบ้านได้นำรอกมาใช้เป็นเครื่องมือทุ่นแรง ทำให้แม้แต่เด็ก (ในพื้นที่) ก็สามารถยกยอยักษ์นี้ได้
โดยชาวบ้านจะหย่อนยอยักษ์ลงในลำน้ำประมาณ 5 นาทีแล้วจึงยกขึ้นมา ภายในยอจะได้สัตว์น้ำต่าง ๆ ติดขึ้นมา จากนั้นชาวบ้านก็จะนำอุปกรณ์คล้ายกระชอนต่อไม้ยาวไปช้อนปลาในยอขึ้นมา แล้วหย่อนยอลงไปในน้ำเพื่อทำแบบเดิมจนกว่าจะได้ปลาเป็นที่พึงพอใจ
ผู้มาเยือนทะเลน้อยและพื้นที่เชื่อมโยง หากอยากเที่ยวแบบเก็บไฮไลต์และจุดสำคัญต่าง ๆ ให้ครบ ที่นี่เขามีบริการล่องเรือจากคลองปากประสู่ทะเลน้อย ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะสามารถเที่ยวทีเดียวแต่เก็บไฮไลต์ได้หมดเลย
สำหรับจุดเริ่มต้นของการล่องเรือที่คลองปากประนั้น เราสามารถเลือกได้ว่าจะชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นบน “สะพานปากประ” ก่อน หรือจะเลือกลงเรือไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกลางลำน้ำท่ามกลางวิถีการยอยักษ์อย่างใกล้ชิดก็ได้
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline