เมื่อพูดถึง “ใบไม้เปลี่ยนสี” หลายคนคงจะนึกถึงอากาศหนาวๆ ของฤดูใบไม้ร่วงในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี หรือประเทศเมืองหนาวต่างๆ พร้อมทั้งภาพของใบไม้ที่เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง สีแดง สีส้ม ก่อนจะหลุดร่วงไปจากต้น
เพราะสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้คนไทยอดไปเที่ยวเมืองนอก หลายคนจึงคิดถึงบรรยากาศการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ต่างประเทศ เราจึงขอพามาชม “ป่าเปลี่ยนสี” ในเมืองไทยแทน ซึ่งก็มีความสวยงามไม่น้อยเลย
สำหรับพืชพันธุ์ในป่าเมืองไทยซึ่งอยู่ในเขตร้อนนั้น สามารถแบ่งออกกว้างๆ ได้เป็น “ป่าไม่ผลัดใบ” และ “ป่าผลัดใบ” โดยป่าผลัดใบนี้เองที่จะกลายเป็น “ป่าเปลี่ยนสี” ไม่ว่าจะเป็นป่าเบญจพรรณหรือป่าเต็งรัง ซึ่งในฤดูฝนป่าประเภทนี้จะมองดูเขียวชอุ่ม แต่พอถึงฤดูแล้ง ต้นไม้ส่วนใหญ่จะพากันเปลี่ยนสีผลัดใบเพื่อลดการคายน้ำ รักษาตัวเองให้อยู่รอดตลอดฤดูแล้ง แต่เนื่องจากมีความหลากหลายของต้นไม้อยู่มาก ทำให้ต้นไม้แต่ละชนิดทิ้งใบไม่พร้อมกันทั้งป่า ทำให้มองเห็นเป็นสีสันทั้งสีส้มสีแดงท่ามกลางป่าสีเขียว สร้างความสวยงามแต่งแต้มสีสันให้น่ามองมากยิ่งขึ้น
ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นช่วงต้นฤดูแล้ง ราวเดือนธันวาคม-มรกราคม แต่ทั้งนี้หากไปยืนชมใต้ต้นแบบเดี่ยวๆ คงไม่สวยงามเหมือนฤดูใบไม้ร่วงในต่างประเทศ ต้องใช้วิธีถ่ายภาพหรือชมในระยะไกลจึงจะเห็นสีสันได้ถนัดตากว่า เราจึงขอเรียกว่าเป็นการชม “ป่าเปลี่ยนสี” ไปดูกันว่าป่าเปลี่ยนสีในไทยจะมีที่ไหนน่าไปชมกันบ้าง
อุทยานแห่งชาติคลองลาน
ป่าเปลี่ยนสีแห่งแรกที่อยากพาไปชมคือป่าคลองลาน โดยสามารถมาชมได้ที่ “จุดชมวิวกิ่วงวงช้าง” อุทยานแห่งชาติคลองลาน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ซึ่งการจะมาชมยังจุดชมวิวกิ่วงวงช้างนี้ จะต้องเดินเท้าในระยะทาง 735 เมตร ขึ้นเขามายังจุดชมวิว สภาพเส้นทางเป็นบันไดสลับกับทางดิน ใช้เวลาเดินประมาณ 45 นาที
บริเวณจุดชมวิวกิ่วงวงช้างเป็นจุดที่สามารถชมทิวทัศน์ทั้งยามพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ในบริเวณเดียวกัน ทางฝั่งตะวันออกจะมองเห็นบ้านเรือนและบรรยากาศของตัวอำเภอคลองลาน ส่วนฝั่งตะวันตกจะเป็นจุดชมผืนป่าและชมความงามของน้ำตกคลองลานในระยะไกล และทางฝั่งนี้นี่เองที่เราจะมองเห็นป่าเปลี่ยนสีที่กำลังจะผลัดใบ และยังได้เห็นสายน้ำตกคลองลานสีขาวที่ไหลแยกเป็นสายก่อนจะตกลงสู่แอ่งเบื้องล่างอีกด้วย
อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
ช่วงต้นฤดูแล้งที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวอ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ มีความงามของป่าเปลี่ยนสี ซึ่งต้นไม้ในป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณต่างพากันผลัดใบจากสีเขียว กลายเป็นสีส้ม สีเหลือง สีแดง เหมือนถูกแต่งแต้มโดยจิตรกรเอก
สำหรับจุดชมป่าเปลี่ยนสีที่น้ำหนาวนี้ สามารถมาชมได้ที่บ้านห้วยสนามทราย หมู่ 6 ตำบลโคกมน อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ บริเวณริมทางหลวงหมายเลข 12 (สามแยกทางขึ้นไปอำเภอน้ำหนาว) จากด่านตรวจป่าไม้ ก.ม.72 (บ้านห้วยสนามทราย) ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 800 เมตร จะสามารถมองเห็นป่าเปลี่ยนสีได้สวยงาม
และอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวสามารถชมความมหัศจรรย์ป่าเปลี่ยนสีได้ก็คือภูหลังกงเกวียน ในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ก.ม.417 ซึ่งเป็นป่าเต็งรังเนื้อที่เกือบ 20,000 ไร่ เป็นจุดชมป่าเปลี่ยนสีได้โดยรอบ
ภูห้วยอีสัน
“ภูห้วยอีสัน” เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงตั้งอยู่ที่ ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย ที่นี่ถือเป็นจุดชมวิวบนเขาที่เดินทางได้ง่าย และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกยามเช้าเหนือภูเขาและเกาะแก่งของลำน้ำโขงที่สวยงามแห่งหนึ่งของเมืองไทย
วิวที่จะได้ชมนั้นก็คือเกาะแก่งมากมายกลางแม่น้ำโขง รวมถึงภูเขาที่ทอดยาวทั้งทางฝั่งไทยและฝั่งลาว มองเห็นหมู่บ้านที่ซุกตัวอยู่อย่างสงบตรงตีนเขา เห็นควันจากครัวไฟที่ลอยกรุ่น ผสมกับสายหมอกบางๆ ที่ปกคลุมเหนือหลังคาบ้าน
และในช่วงต้นฤดูแล้งเช่นนี้ก็ยังจะได้ชมสีสันอันงดงามของสวนยางพาราของชาวบ้านที่ปลูกบริเวณตีนเขา ต้นยางพาราในสวนกำลังผลัดใบ จากสีเขียวกลายเป็นสีน้ำตาล และสีแดง ซึ่งเมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็ยิ่งเพิ่มสีสันให้ชัดเจนขึ้น กลายเป็นใบไม้เปลี่ยนสีที่หาชมได้ในเมืองไทย และสร้างเสน่ห์ให้ภูห้วยอีสันได้มากขึ้นอีก
ทั้งนี้ไม่เฉพาะภูห้วยอีสัน แต่สวนยางพาราในแต่ละแห่งต่างก็ผลัดใบเช่นกันในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม หากได้มีโอกาสเข้าไปถ่ายรูปในสวนยางขณะผลัดใบ ก็จะมีบรรยากาศคล้ายอยู่ต่างประเทศเลยทีเดียว
ป่าสนวัดจันทร์
“ป่าสนวัดจันทร์” หรือ “โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้” หรือที่เรียกขานกันสั้นๆ ว่า “อ.อ.ป. วัดจันทร์” ตั้งอยู่ใน อ.กัลยานิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ที่นี่เป็นพื้นที่สวนป่าที่มีการจัดสรรพื้นที่ด้านงานวิชาการ การอนุรักษ์ การพัฒนาเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวเข้าไว้ด้วยกัน ภายในมีการจัดภูมิทัศน์จัดสวนสวยอย่างร่มรื่นสวยงามเหมาะต่อการขี่จักรยานเที่ยวชม และมีบ้านพักราคาเยาบรรยากาศดีไว้บริการ
และในช่วงเดือน ธ.ค.-ม.ค. ป่าสนวัดจันทร์จะกลายเป็น “ป่าสนสลับสี” เพราะเหล่าไม้ป่าเต็งรังจะเปลี่ยนสีเป็น เหลือง ส้ม แดง ขึ้นมาแซมกับสีเขียวขจีของป่าสน อีกทั้งยังมีต้นเมเปิ้ลที่ปลูกไว้ในพื้นที่ริมสระน้ำของ อ.อ.ป. ก็จะพร้อมใจกันเปลี่ยนสีแทรกไปในฉากของผืนป่าเขียวขจี จนได้ชื่อว่าป่าสนสลับสีนั่นเอง
นอกจากจุดชมป่าเปลี่ยนสีทั้ง 4 แห่งที่กล่าวมานี้แล้ว ก็ยังมีอีกหลายแห่งที่ชมได้อย่างงดงาม อาทิ "อุทยานแห่งชาติภูพาน" จ.สกลนคร “ผืนป่าฮาลาบาลา” ผืนป่าที่มีอาณาเขตบนสองจังหวัดคือยะลาและนราธิวาสที่แสนอุดมสมบูรณ์และมีป่าเปลี่ยนสีที่งดงาม “อุทยานแห่งชาติออบหลวง” อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ นอกจากจะมีไฮไลต์ที่สำคัญอย่าง “ออบหลวง” หรือช่องเขาขาดที่มีแม่น้ำไหลผ่านแล้ว ช่วงหน้าแล้งก็ยังเป็นจุดชมป่าเปลี่ยนสีอีกด้วย รวมไปถึงต้นเมเปิลที่ภูกระดึง หรือที่ภูหินร่องกล้า ก็ถือว่าเป็นป่าเปลี่ยนสีที่งดงาม แต่จะต้องรีบมาชมช่วงต้น-กลางเดือนธันวาคม